โจทย์ ‘เอ็มเค เรสโตรองต์’ ยอดขาย - กำไรตก และลดลงต่อเนื่องจากปี 2566

โจทย์ ‘เอ็มเค เรสโตรองต์’ ยอดขาย - กำไรตก และลดลงต่อเนื่องจากปี 2566

เอ็มเค เรสโตรองต์ ยังเจอโจทย์ยากในการทำผลงานยอดขาย - กำไรให้เติบโต เพราะ 2 ไตรมาส ปี 2567 ทั้งไตรมาส 2 - 3 ยอดขายลดลง และยังเผชิญการลดต่อเนื่องจากปี 2566 ขณะที่ปี 2567 บริษัทพลิกหลากกระบวนท่า แต่ยังหืดจับ! เพื่อสร้างการเติบโต

กรุงเทพธุรกิจ ได้อัปเดตภาพรวมธุรกิจร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงล่าสุด ผู้ประกอบการแบรนด์เล็กใหญ่ต่างมีมุมมองบวก และหวังว่าจะเห็นการเติบโต ทว่า เข้าโค้งสุดท้าย “แบรนด์ใหญ่” ดูเหมือนจะเผชิญโจทย์หินพอตัว เนื่องจากผลประกอบการทั้ง “ยอดขาย-กำไร” อ่อนแรง

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ที่มีแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เอ็มเค สุกี้, ยาโยอิ, แหลมเจริญ ฯลฯ กลับต้องรับมือกับ “ยอดขายที่ลดลง” อย่างต่อเนื่อง

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 เอ็มเค เรสโตรองต์ มีรายได้จากการขายจำนวน 3,683 ล้านบาท ลดลง 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทว่า เจาะลึกเป็น “รายไตรมาส” จะพบว่า ตลอดทั้งปี 2567 ยอดขายของบริษัทอยู่ในภาวะ “ขาลง” ดังนี้

-ไตรมาส 3 รายได้จากการขาย 3,683 ล้านบาท ลดลง 10.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

-ไตรมาส 2 รายได้จากการขาย 4,107 ล้านบาท ลดลง 7.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

-ไตรมาส 1 รายได้จากการขาย 3,946 ล้านบาท ลดลง 3.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ไตรมาส 4 ปี 2566 รายได้จากการขาย 4,042 ล้านบาท ลดลง 2.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

โจทย์ ‘เอ็มเค เรสโตรองต์’ ยอดขาย - กำไรตก และลดลงต่อเนื่องจากปี 2566

รายไตรมาสลดลงเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ไตรมาส 2 เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 ยอดขายถือว่าเติบโตเล็กน้อยมูลค่า 161 ล้านบาท

นอกจากนี้ “กำไรสุทธิ” ของบริษัทอยู่ในภาวะที่ “ลดลง” ไม่ต่างกัน ซึ่งตลอด 3 ไตรมาสของปี 2567 เป็นดังนี้

-ไตรมาส 3 กำไรสุทธิ 341 ล้านบาท ลดลง 12.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

-ไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 401 ล้านบาท ลดลง 12.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

-ไตรมาส 1 กำไรสุทธิ 347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ “ลดลง” จากไตรมาส 4 ปี 2566 ที่กำไรสุทธิ 509 ล้านบาท

จะเห็นว่า “ยอดขาย” และ “กำไร” ของเอ็มเค เรสโตรองต์ ในไตรมาส 2 ของปี 2567 สามารถฝ่าปัจจัยลบที่รายล้อม สร้างผลงานให้มีการ “เติบโต” ได้

อย่างไรก็ตาม ภาพรวม 9 เดือน บริษัทมีรายได้จากการขาย และบริการ 11,735 ล้านบาท “ลดลง 7%” จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วน “กำไรสุทธิ” อยู่ที่ 1,088 ล้านบาท ลดลง 7.2%

สำหรับผลกระทบของยอดขายไตรมาส 3 ที่ลดลง 412 ล้านบาท หรือ 10.1% บริษัทระบุว่าร้านเดิมหรือ Same store ยอดขายลดถึง 12.7% สาเหตุสำคัญมาจาก “กำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนตัวลง” จาก “ค่าครองชีพ” และ “ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น”

 

หากพิจารณาสิ่งที่เอ็มเค เรสโตรองต์ รายงานในเรื่อง “ต้นทุน” ของบริษัทหลายด้าน “ลดลง” ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร(ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเช่า ค่าน้ำ-ไฟ ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและส่งเสริมการขายฯ) รวมถึงราคาวัตถุดิบที่ลดลง กลับไม่สามารถ “กอบกู้กำไร” ให้เติบโตได้

ทั้งนี้ “เอ็มเค สุกี้” ยังเป็นแบรนด์หลักทำรายได้สูงสุด โดยปี 2566 บริษัทมีร้านเอ็มเค สุกี้ให้บริการ 439 สาขา, เอ็มเค โกลด์ 5 สาขา, เอ็มเค ไลฟ์ 4 สาขา, ร้านยาโยอิ 198 สาขา, ร้านฮากาตะ 1 สาขา, ร้านมิยาซากิ 8 สาขา, แหลมเจริญ ซีฟู้ด 39 สาขา ร้าน ณ สยาม 1 สาขา, ร้านเลอ สยาม 3 สาขา, ร้านบิซซี่ บ็อก 2 สาขา, ร้านกาแฟและเบเกอรี เลอ เพอทิท 3 สาขา ยังมีธุรกิจบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่หรือแคเทอริงอีก

โจทย์ ‘เอ็มเค เรสโตรองต์’ ยอดขาย - กำไรตก และลดลงต่อเนื่องจากปี 2566

ความเคลื่อนไหวสำคัญของเอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ในปี 2567 คือ การพลิกกระบวนท่าสู้หลายด้าน ที่สำคัญ “แม่ทัพใหญ่” อย่าง “ฤทธิ์ ธีระโกเมน” ยังออกมาพบปะสื่อมวลชนด้วยตัวเอง และออกงานใหญ่ครั้งแรกกับงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย หรือ THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 พร้อมควงทายาทมาบอกเล่าถึงแผนการขยายธุรกิจ จะพาแบรนด์ไทยแหลมเจริญ ซีฟู้ด ลุยต่างประเทศ

จะเห็นการปั้นพระเอก “น้ำจิ้มสุกี้” เพื่อสร้างการเติบโต และพาแบรนด์ไปอยู่ในทุกครัวเรือน รับประทานสุกี้ และน้ำจิ้มได้ โดยไม่ต้องมาที่ร้านเพียงอย่างเดียว การปรับตัวด้วยการ “มัดรวมแบรนด์” ร้านอาหารในเครือ โมเดลใหม่ที่นำร่องเปิดสาขาที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

และไฮไลต์ใหญ่คือ การทรานส์ฟอร์มร้านสู่ “เอ็มเค สุกี้ บุฟเฟต์” แบรนด์ใหม่ และให้บริการรูปแบบ “บุฟเฟต์” ประเดิมสาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต ซึ่งผู้บริโภคเรียกร้องมานาน

โจทย์ ‘เอ็มเค เรสโตรองต์’ ยอดขาย - กำไรตก และลดลงต่อเนื่องจากปี 2566

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวครั้งใหญ่ เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 ที่เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป รีแบรนด์องค์กรให้เหลือเพียง “M” พร้อมประกาศขับเคลื่อนธุรกิจเป็นมากกว่า “อาหาร” เพราะปัจจุบันมีทั้งขนมขบเคี้ยว การให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิ ฯลฯ ส่วนผลลัพธ์ของการพลิกกระบวนท่าจะ “เติบโต” มากน้อยแค่ไหน ต้องติดตามระยะยาว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์