สาวก 'ไอโฟน' เจน Y สายเทคใช้วัดความสำเร็จ วัยรุ่นขอผ่อน 0% มีไว้ไม่ตกเทรนด์
ส่องพฤติกรรมสาวกไอโฟน หนุ่มออฟฟิศ เจนเนอเรชั่นวาย(Y) ยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่บ่งชี้ความสำเร็จ ขณะที่วัยรุ่นโซเชียล เจนซี(Z)ยอมผ่อน 0% เพราะของมันต้องมี!
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะไม่ดี กำลังซื้อผู้บริโภคลด หนี้ครัวเรือนสูง แต่ไม่มีผลกับสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังอย่าง “ไอโฟน”(iPhone) เพราะทันทีที่รุ่นใหม่อย่าง iPhone16 ออกมาและเปิดให้ซื้อสินค้าได้ บรรดาสาวกต่างเข้าคิวเพื่อเป็นเจ้าของกันอย่างล้มหลาน แม้สถนนราคาจะหลัก “หลายหมื่นบาท”
กระแสความแรงของ iPhone16 ทำให้ The 1 Insight เผยผลวิเคราะห์เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นสาวกของ iPhone ในประเทศไทย ซึ่งยังคงได้รับความสนใจอย่างมากเช่นทุกปีที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ยังช่วยกระตุ้นยอดขายรวมหมวด Gadget เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ พบว่า 40% ของผู้ใช้ iPhone ในไทยนิยมเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ทุกปี ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในแง่ของตลาดไปจนถึงความสนใจที่มีต่อนวัตกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และจากฐานข้อมูล The 1 ในช่วงปี 2562-2567 The 1 Insight ชี้ให้เห็นถึง 5 กลุ่มหลักของผู้ใช้ iPhone ไทย ที่มีเทรนด์พฤติกรรมการซื้อและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้
1.วัยรุ่นโซเชียล กลุ่ม Gen Z มุ่งท่องโลกโซเชียล แต่ยังเน้นความคุ้มค่าสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 18-24 ปี ใช้งาน iPhone เพื่อการเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียเป็นหลัก รวมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ซึ่งคนกลุ่มนี้ซื้อ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รวมไปถึงอาจซื้อรุ่นก่อนหน้าที่ให้ความคุ้มค่ามากกว่า โดยเลือกใช้รุ่นที่มีความจุ 128 GBเพียงพอกับการใช้งานและสอดคล้องกับข้อจำกัดด้านรายได้ สำหรับสีที่นิยมสูงสุดคือ Black
ที่น่าสนใจยังพบว่ากลุ่มวัยรุ่นโซเชียลมักอัปเกรด iPhone ทุกปี และนิยมใช้การผ่อนชำระ 0% ซึ่งช่วยให้เข้าถึง iPhone รุ่นพรีเมียมได้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังมีแนวโน้มว่าจะซื้อ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus อีกด้วย เรียกว่าไม่ยอมตกกระแส ขอมีสินค้ารุ่นใหม่ครอบครอง
2.หนุ่มออฟฟิศสาย Tech และกลุ่ม Gen Y มอง iPhone เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ
ขณะที่กลุ่มผู้ชายวัยทำงานอายุ 25-40 ปี มองว่า iPhone รุ่นท็อปเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและสถานะทางสังคม รวมถึงมีความพร้อมด้านรายได้ที่สูงขึ้นตามความก้าวหน้าทางอาชีพและมีความสนใจในเทคโนโลยีล้ำสมัย ในปี 2566 มีการเลือกซื้อ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่มีความจุมาก เพื่อรองรับการใช้งานได้ครบครันทั้งด้านการทำงานและความบันเทิง โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Black และ Natural Titanium
ทั้งนี้ หนุ่มออฟฟิศกลุ่มนี้มักอัปเกรด iPhone ทุกปี และเป็นกลุ่มสำคัญที่ขับเคลื่อนยอดขายรุ่นท็อปในไทย และมีแนวโน้มว่าในปีนี้จะซื้อ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max
3.พ่อแม่ยุคใหม่ กลุ่ม Millennial Parents เน้นฟังก์ชันใช้งานทั้งบ้าน
ด้านกลุ่มคนมีครอบครัวที่มีอายุ 30-45 ปี มักให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งานจริงและขนาดความจุที่เพียงพอเพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาวสำหรับทั้งครอบครัว กลุ่มนี้จึงเลือกซื้อ iPhone 15 หรือ iPhone 15 Plus โดยเลือกรุ่นที่มีความจุ 128GB หรือ 256GB เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Colorful เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีรายจ่ายหลากหลาย จึงไม่เปลี่ยนเครื่องบ่อยนัก โดยมักอัปเกรดทุก 3-4 ปี โดยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus
4.รุ่นใหญ่สายสมาร์ท กลุ่ม Gen X ที่พร้อมลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดกลุ่มผู้บริหารที่มีอายุ 45-60 ปี มักเลือก iPhone ในรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่ออัพเดทเทคโนโลยีในแต่ละครั้ง จึงเลือกซื้อ iPhone 15 Pro Max ในความจุ 512GB หรือ 1TB เพื่อตอบสนองความต้องการที่ครอบคลุมทั้งการทำงานและการใช้งานส่วนตัว สีที่นิยมสูงสุดคือ Blue Titanium โดยมีรอบการอัปเกรดอุปกรณ์ทุก 2-3 ปี และไม่เน้นการเปลี่ยนตามกระแสสังคม ในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 Pro Max
5.เกษียณสายชิล กลุ่ม Silver Spenders ใช้งานเพื่อสื่อสารทั่วไปและฟังก์ชันสุขภาพ
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่ม Silver หรือบรรดาผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นอีกเซ็กเมนต์ที่มี "กำลังซื้อสูง" และพฤติกรรมการใช้ iPhone จะเน้นการใช้งานพื้นฐานและฟังก์ชั่นติดตามข้อมูลสุขภาพ ด้านเลือกซื้อ iPhone SE หรือ iPhone 15 หรืออาจเป็นรุ่นก่อนหน้า โดยใช้ควบคู่กับ Apple Watch Series 9 เพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันการติดตามข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียด
สำหรับกลุ่ม Silver Spenders ส่วนใหญ่เลือก iPhone รุ่นความจุ 64GB หรือ 128GB สีที่นิยมสูงสุดคือ Colorful เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว โดยมักอัปเกรดทุก 4-5 ปี และมีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 และ Apple Watch ในปีนี้
จะเจนเนอเรชั่นไหน ก็มีสาวกไอโฟน
ในส่วนของผลกระทบต่อสินค้าและอุตสาหกรรมอื่น การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ ไม่เพียงช่วยกระตุ้นยอดขายในหมวด Gadget โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น เคสโทรศัพท์, สายชาร์จ, และ AirPods เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคต้องการอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ดีกับ iPhone รุ่นใหม่เพื่อรองรับการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ ยังสร้างความพิเศษหรือ Halo Effect ซึ่งส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าหมวดอื่นๆ โดยเฉพาะหมวดแฟชั่น ซึ่งตรงกับช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล AutumnหรือWinter การเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ จากทั้งวงการเทคโนโลยีและแฟชั่น ส่งเสริมให้บรรยากาศการใช้จ่ายภาพรวมคึกคักมากขึ้น จึงส่งผลให้ยอดขายหมวดแฟชั่นเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนถึงอิทธิพลที่แข็งแกร่งของ iPhone ซึ่งไม่เพียงกระตุ้นยอดขาย Gadget แต่ยังขับเคลื่อนพฤติกรรมการซื้อสินค้าหมวดอื่นๆ ไปพร้อมกัน