‘โอลิมปิก’ปลุกสินค้ากีฬา ‘หมื่นล้าน’ รัฐดึง ‘ฮีโร่’โปรโมตเมืองน่าเที่ยว
บรรยากาศกีฬาโอลิมปิก2024 คึกคัก นักกีฬาไทยทำผลงานเด่น คว้าเหรียญมาครอง "แบดมินตัน" นัดชิง "วิว กุลวุฒิ VS วิคเตอร์" ถ่ายทอดสดช่อง7เอชดี นาทีทองโกยเงินโฆษณาแพงสุด 3.5 แสนบาทต่อนาที สินค้ากีฬาโตแรง โอลิมปิกปิดฉาก ท่องเที่ยวเล็งดึงฮีโร่นักกีฬาโปรโมตเมืองน่าเที่ยว
“โอลิมปิก2024” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปิดฉากลงเรียบร้อย วานนี้ (11 ส.ค.67) ซึ่งทัพนักกีฬาไทยได้สร้างผลงานและความภาคภูมิใจให้คนไทย หลังคว้าเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง จากหลากชนิดกีฬา ทั้งเทควันโด แบดมินตัน ยกน้ำหนัก และมวยสากล
ในมิติเศรษฐกิจการตลาดนักกีฬาไทยกลายเป็น “ฮีโร่โอลิมปิก” ที่ปลุกธุรกิจ สินค้าที่เกี่ยวข้องให้มีความคึกคักอย่างมาก
จ่อดึง “นักกีฬาโอลิมปิก” โปรโมต “เมืองน่าเที่ยว”
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงฯ เตรียมทาบทามนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเป็นทูตการท่องเที่ยวเชิงกีฬา มาร่วมนำเสนอเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง 55 จังหวัด) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โปรโมตบ้านเกิดหรือภูมิลำเนาของนักกีฬาแต่ละคน คาดว่าจะเริ่มต้นในเร็วๆ นี้ พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษในหลายจังหวัดเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
แนวคิดนี้มุ่งนำเสนอเมืองน่าเที่ยว ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผ่านการเล่าเรื่องราว และประสบการณ์จากนักกีฬาที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม นอกจากช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแล้ว ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปในการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นต่างๆด้วย
“กระทรวงฯ มีภารกิจหลัก คือ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และต้องการต่อยอดกีฬากับการท่องเที่ยวด้วย ภารกิจทั้งสองขาต้องเดินอย่างมั่นคงเพื่อให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยว โดยจากกระแสการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2024 ก็จะพยายามจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด พานักกีฬาไปเยี่ยมชมพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว”
อย่างไรก็ตาม แคมเปญนี้จะได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดกิจกรรมโปรโมตและสร้างสรรค์คอนเทนต์การท่องเที่ยวผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์
“โอลิมปิก” ปลุกโฆษณาเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด หรือ หรือเอ็มไอ กรุ๊ป (MI GROUP) กล่าวว่า หลังนักกีฬาไทยคว้าเหรียญในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกลายเป็นฮีโร่ ยังช่วยปลุกบรรยากาศโดยรวมให้มีความคึกคักอย่างมาก ที่สำคัญประเมินจากจำนวนสปอนเซอร์ที่ซื้อแพ็คเกจโฆษณาถือว่า “เกินเป้า”
โดยแพ็คเกจสนับสนุนสูงสุดคือ ไดมอนด์ โกลด์ ซิลเวอร์ และบรอนซ์ หรือราคาสูงสุด 50 ล้านบาท ลดหลั่นลงไปแพ็คเกจเล็กสุด 8 ล้านบาท รวมม็ดเงินโฆษณาในการสนับสนุนการถ่ายทอดสดจากสปอนเซอร์หลักอยู่ที่ประมาณ 160-190 ล้านบาท
เมื่อคาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาตลอดทั้งการแข่งขันโอลิมปิก จะสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จากผู้สนับสนุนหลักหรือสปอนเซอร์หลัก สปอนเซอร์รายย่อย รวมถึงแบรนด์สินค้าต่างๆที่เข้ามาเกาะกระแสโอลิมปิก แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นสปอนเซอร์ โดยเม็ดเงินดังกล่าวยังไม่รวมบรรดาสินค้าที่ซื้อสื่อโฆษณานอกบ้าน(Out Of Home Media : OOH) หรือสปอตทีวีเพื่อโปรโมทแคมเปญโอลิมปิกของสินค้าเองด้วย
“วิว กุลวุฒิ” ชิงทองแบดมินตัน โฆษณาแพงสุด
ทั้งนี้ เมื่อสำรวจอัตราหรือเรทค่าโฆษณาสำหรับสินค้าที่ไม่ได้ซื้อเป็นสปอนเซอร์ โดยซื้อสปอตแยกเป็นแต่ละชนิดกีฬาที่ถ่ายทอดสดพบว่า ช่วงเวลาของการแข่งขันแบดมินตันชิงเหรียญทอง ซึ่งเป็นนาทีและเหรียญประวัติศาสตร์ของวงการแบดมินตันไทย ค่าโฆษณาถือว่าแพงสุดและถ่ายทอดสดทางช่อง 7เอชดี
สำหรับเรทค่าโฆษณาที่ช่อง 7เอชดีขายได้คือ 3.5 แสนบาทต่อนาที ส่วนช่องอื่นๆ ซึ่งถ่ายทอดแมทช์ประวัติศาสตร์ “วิว กุลวุฒิ VS วิคเตอร์” เรทค่าโฆษณาประมาณ 8 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท ส่วนช่วงเวลาอื่นๆ เมื่อมีนักกีฬาไทยแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆราคาจะไล่เลี่ยกันประมาณ 5 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท
“ช่วงถ่ายทอดสดการแข่งขันแบดมินตันระหว่างน้องวิว และวิคเตอร์ เรทโฆษณาจะแพงสุดเพราะเป็นช่วงนาทีทองหรือ prime time และเป็นการชิงเหรียญทองโอลิมปิกด้วย”
คอกีฬาชาวไทยมี 45 ล้านคน
กรุ๊ปเอ็ม เผยผลวิจัยจาก Audience Origin ระบุว่าคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 92% หรือกว่า 45 ล้านคน ให้ความสนใจและติดตามคอนเทนต์ประเภทกีฬา โดย “ฟุตบอล” ยังเป็นอันดับ 1 ในใจด้วยสัดส่วน 42% สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก 39% ตามด้วยแบดมินตัน 25% มวยสากล และว่ายน้ำ เป็นต้น
ขณะที่ข้อมูลตลาดสินค้ากีฬาทั้งเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาประเภทต่างๆในไทย มีมูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท โดย 30% เป็นตลาดบนหรือแบรนด์ระดับโลก ส่วนตลาดระดับกลางสัดส่วนราว 50% และตลาดแมสสัดส่วน 20%
ไม้แร็กเกตยอดพุ่งจาก “วิว กุลวุฒิ” คว้าเหรียญเงิน
วิยะดา บูรณะภากรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหาร ซูเปอร์สปอร์ต (Supersports) ในเครือ เซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า การจัดงานโอลิมปิก ปารีส 2024 เป็นสิ่งที่ทุกคนทั่วโลกรอคอย ปีนี้งานมีสีสันสร้างความตื่นตัว รวมถึงนักกีฬาที่สร้างผลงานโดดเด่นคว้าเหรียญมาครอง กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คอกีฬา และช่วยปลุกบรรยากาศให้กลุ่มลูกค้าคนไทยสนใจซื้อสินค้า อุปกรณ์กีฬา เพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงสนใจออกกำลังกายและติดตามเทรนด์ของชุดกีฬาใหม่ๆ มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ช่วงโอลิมปิก ซูเปอร์สปอร์ต จัดแคมเปญ ซูเปอร์สปอร์ต ซูเปอร์เกมส์ โดยเนรมิตสโตร์ให้เป็นสเตเดียมกีฬาให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก และกระตุ้นยอดใช้จ่ายต่อลูกค้าที่เข้ามาภายในร้าน ส่วนกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมสอดรับกับโอลิมปิกในร้านซูเปอร์สปอร์ต คือกลุ่มไม้แร็กเกตแบดมินตัน (Racket) ส่วนหนึ่งจาก “กระแสแบดมินตันไทย” ที่ “วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยวัย 23 ปี สร้างผลงานคว้าเหรียญเงินโอลิมปิก ปารีส 2024 มาครอง และเป็นเหรียญแรกของประวัติศาสตร์แบดมินตันไทย โดยร้านซูเปอร์สปอร์ต 2 สาขา ทั้งสาขาชิดลม และสาขาเมกาบางนา ทำยอดขายไม้แร็กเก็ต “เพิ่มเท่าตัว”
รองลงมากลุ่ม กลุ่ม รันนิง (Running) ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องจากลูกค้าพร้อมหาสินค้าใหม่ๆ ตามด้วยกลุ่มกีฬากอล์ฟ ที่โปรสาวไทยฟอร์มโดดเด่น ผู้บริโภคชาวไทยสนใจในกีฬากอล์ฟมากขึ้น
ครึ่งปีเครื่องดื่มเกลือแร่โต 4% “สปอนเซอร์” มุ่งโตแกร่ง
อนุรักษ์ ตีระลัภนานนท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (ประเทศไทย) กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ หรือกลุ่มสปอร์ตดริงก์มีมูลค่ารวมกว่า 5,400 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีการเติบโตกว่า 4% ปัจจุบันสปอนเซอร์ถือเป็น “ผู้นำตลาด” ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 90%
ขณะที่ ช่วงแข่งขันโอลิมปิก 2024 “สปอนเซอร์” จัดกิจกรรมหลายรูปแบบ ทั้งเป็นผู้สนับสนุนถ่ายทอดสดเพื่อให้คนไทยได้ร่วมเชียร์นักกีฬาไทย การสนับสนุนงาน Olympic Park ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เพื่อให้คนไทยเชียร์ไทยเชียร์ให้สุดใจไปพร้อมๆ กับแจกดื่มเครื่องดื่มสปอนเซอร์ เจาะกลุ่มเป้าหมายคอกีฬา ที่สำคัญแบรนด์ยังเป็นผู้สนับสนุน “วิว กุลวุฒิ” นักกีฬาแบตมินตันเหรียญเงิน โอลิมปิก ในฐานะพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มสปอนเซอร์มาตั้งแต่ต้นปีด้วย
“โอลิมปิก 2024 มีความคึกคักและมีสีสันมากจริงๆ ซึ่งสปอนเซอร์ได้ทำกิจกรรมตลาดตามกลยุทธ์วางไว้ ทั้งเป็นผู้สนับสนุนกีฬาและนักกีฬาทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ทั้งแคมเปญการตลาด การเปิดตัวสินค้าใหม่ สปอนเซอร์ ไอโซโทนิก ครั้งแรกในไทยในกลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่รูปแบบไอโซโทนิก อย่างไรก็ตาม จากแผนดังกล่าว รวมถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเชื่อว่าทำให้ยอดขายสปอนเซอร์เติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน”