จาก ‘กัมพูชา’ ถึง 'ไทย' ในวันที่ ‘ทุนจีน’ รุกลงทุน ขยายอาณาเขตการค้า

จาก ‘กัมพูชา’ ถึง 'ไทย' ในวันที่ ‘ทุนจีน’  รุกลงทุน ขยายอาณาเขตการค้า

ห้วงเวลานี้ “ทุนจีน” มีบทบาทเคลื่อนเศรษฐกิจหลายประเทศทั่วโลก แน่นอนว่า การเข้าไปลงทุนโดยตรง(FDI)ในแต่ละประเทศหากดำเนินการถูกต้องตามกฎ กติกา ทุกคนย่อมอ้าแขนรับ หากเป็นตรงข้าม ภาครัฐต้องตื่นตัวเร็ว ในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด

ท่ามกลางประเทศไทยที่กำลังตื่นรับ “ทุนจีน” ซึ่งมีบางบริษัทยังต้องจี้ให้ปฏิบัติตามกฎหมายในประเทศไทยทั้งการจดทะเบียนเพื่อให้เกิดการเสียภาษีอย่างถูกต้อง สัดส่วนการถือครองหุ้นต่างๆ “กรุงเทพธุรกิจ” พาไปดูประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “กัมพูชา” ที่ตลอด 1 ทศวรรษ หรือน้อยกว่านั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายมิติ โดยเฉพาะนักลงทุนที่เข้าไปพัฒนา สร้างการเจริญเติบโตให้กับประเทศ 

หลังโควิด-19 ระบาด “กัมพูชา” เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)สูง โดยปี 2567 ขยายตัวได้ 6% ขณะที่มิติการเมือง “ผู้นำ” รวมถึงคณะรัฐมนตรี ค่อนข้างเป็น “คนรุ่นใหม่ไฟแรง” มาทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง อย่าง “ฮุน มาเนต” เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยวัย 46 ปี ส่วนรัฐมนตรีเศรษฐกิจบางคนหน้าอ่อนเยาว์อายุน้อยกว่านั้น

จาก ‘กัมพูชา’ ถึง \'ไทย\' ในวันที่ ‘ทุนจีน’  รุกลงทุน ขยายอาณาเขตการค้า Urban Village โดยทุนฮ่องกง 

ด้าน “การลงทุน” ในกัมพูชา ปัจจุบัน “ทุนมังกร” รุกคืบหนักมาก สอดคล้องกับข้อมูลจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ระบุว่า “จีน” ลงทุนเป็นอันดับ 1 ตามด้วยเกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร เวียดนาม และมาเลเซีย ส่วน “ไทย” รั้งอันดับ 6 เช่นเดียวกับ “การค้า” ที่ “จีน” ยังเป็นที่ 1 ตามด้วยเวียดนาม มาเลเซีย และไทย

หากลงพื้นที่สำรวจ หรือสังเกตการเปลี่ยนแปลงของประเทศกัมพูชา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะถนนหนทางในกรุงพนมเปญ ยังมีอย่างต่อเนื่อง ในหลายเส้นทาง

การพัฒนาของเมือง ความเจริญของเศรษฐกิจ ยังตามมาด้วย “ห้างค้าปลีก” อย่าง “อิออน” ประเทศญี่ปุ่น เปิดศูนย์การค้าขนาดใหญ่ถึง 3 สาขาแล้ว ยังมีบรรดาห้างค้าปลีกของไทย ที่เข้าไปชิงเค้ก แบ่งกำลังซื้อผู้บริโภคชาวกัมพูชาด้วย เช่น บิ๊กซี เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น

ขณะที่การพัฒนา “อสังหาริมทรัพย์” จะเห็น “จีน” ผุดที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรมเป็นจำนวนมาก จนผู้พบเห็นอาจตั้งคำถามว่า “กรุงพนมเปญ” มีประชากร และกำลังซื้อมากพอจะซื้ออสังหาฯเหล่านั้นหรือไม่ เนื่องจากกัมพูชามีประชากรเพียง 17.8 ล้านคน และรายได้ต่อหัวอยู่ระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อคนต่อปีเท่านั้น

การลงทุนที่คึกคัก ความเจริญก้าวหน้า อาจนำมาซึ่ง “ค่าครองชีพที่สูง” หากรายได้ของคนในประเทศตามไม่ทัน ย่อมส่งผลกระทบตามมาได้

จาก ‘กัมพูชา’ ถึง \'ไทย\' ในวันที่ ‘ทุนจีน’  รุกลงทุน ขยายอาณาเขตการค้า โครงการที่อยู่อาศัย 6 ตึกเบิ้มๆจากทุนเกาหลีใต้

ก่อนหน้านี้ “เกาหลีใต้” เป็นอีกชาติที่เข้าไปลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ในกัมพูชา อย่างอาณาจักรอยู่อาศัย รวมถึงการเกษตร ที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เชื่อมั่นการนำเทคโนโลยีไปช่วยยกระดับและทรานส์ฟอร์มสู่อุตสาหกรรม มีการผลิตอาหารที่ทันสมัย เป็นต้น

นอกจากทุนจีน “ทุนมาเลเซีย” ก็เข้าไปสร้างอาณาจักรธุรกิจโดยเฉพาะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในหมวด “คาสิโน” อย่าง NAGA World ที่พร้อมอ้าแขนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งผู้ที่เข้าไปใช้บริการมีนักเสี่ยงโชคเชื้อสายจีนคับคั่ง ซึ่งตัวโรงแรมเอง ก็มีภาษาจีนต้อนรับกำกับไว้ในทุกจุดที่ให้บริการ แม้กระทั่งพื้นที่สูบบุหรี่ในโรงแรม ร้านอาหาร ที่ตอบพฤติกรรมสิงห์อมควันชาวจีน

จาก ‘กัมพูชา’ ถึง \'ไทย\' ในวันที่ ‘ทุนจีน’  รุกลงทุน ขยายอาณาเขตการค้า

Naga World คาสิโนของทุนมาเลเซีย

ต่อกันที่อสังหาฯ ซึ่งมีหลากหลายทุน แต่ที่โดดเด่นคือทุนจีนนั้น ไม่ได้อยู่แค่กรุงพนมเปญ เพราะยังรุกคืบหลายพื้นที่ เช่น สีหนุวิลล์ ก็อยู่ภายใต้ชาติมหาอำนาจอย่างจีนลงทุนด้วย ส่วนสถานที่ต่างๆ จะปรากฎภาษา “จีน” กำกับไว้อย่างใหญ่โต เรียกว่าเห็นได้แต่ไกล เพื่อบ่งบอกตัวตน รวมถึงการเปิดรับชาวจีนให้ไปเยี่ยมเยือนด้วย

ไม่เพียงจีนลงทุนในกัมพูชา แต่การค้าขายก็มีความสำคัญต่อการ โดยเฉพาะทั้ง 2 ชาติมีการตกลงการค้าเสรี(FTA)เมื่อต้นปี 2565 ในบรรดาการส่งออกของกัมพูชาจึงพึ่งพาตลาดจีนเกินกว่า 90%

จาก ‘กัมพูชา’ ถึง \'ไทย\' ในวันที่ ‘ทุนจีน’  รุกลงทุน ขยายอาณาเขตการค้า ศูนย์การค้าที่มีกุนซือเป็นชาวจีน 

อย่างไรก็ตาม กัมพูชา เป็นประเทศที่ทุนข้ามชาติสามารถเข้าไปลงทุนได้ 100% โดยไม่ต้องมีพันธมิตร และยิ่งกว่านั้น ยังนำเงินกลับประเทศได้ 100% เช่นกันด้วย จึงเปิดทางให้ธุรกิจทุนต่างๆเห็นโอกาสเพื่อเข้าไปคว้า

การพึ่งพาเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) สำคัญกับทุกชาติ แต่สิ่งที่ต้องตระหนัก คืออย่าให้ “กลืนชาติ” หรือสร้างผลกระทบให้กับประชาชนในประเทศจนอยู่อย่างยากลำบาก สิ่งเหล่านี้ “ประเทศไทย” และรัฐบาลต้องรับรู้เพื่อรับมือได้อย่างเหมาะสม