แอตต้าคาดทัวริสต์ 4 ตลาด มาเลย์-อินเดีย-เกาหลี-รัสเซีย เที่ยวไทยนิวไฮปี 67
สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) วิเคราะห์แนวโน้มจำนวน 'นักท่องเที่ยวต่างชาติ' เดินทางเข้าไทยปี 2567 น่าจะได้เกิน 35 ล้านคนแน่นอน ส่วนจะไปถึง 36.7 ล้านคนตามเป้าหมายของรัฐบาลหรือไม่นั้น? ต้องลุ้นกระแสช่วง 6 เดือนหลังโดยเฉพาะไฮซีซัน หลัง 6 เดือนแรกมียอดสะสม 17 ล้านคน
ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกแอตต้า ประเมินว่า สำหรับตลาด “อันดับ 1” เดินทางเข้าไทยสูงสุด แน่นอนว่าเป็นนักท่องเที่ยวจาก “จีน” แอตต้ามั่นใจว่าปีนี้จะได้ 7 ล้านคน หลัง 6 เดือนแรกมียอดสะสมราว 3.5 ล้านคน ส่วนจะไปถึงเป้าหมาย 8 ล้านคนตามที่ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ตั้งไว้หรือไม่ อยู่ที่การเร่งเครื่องทำตลาดเพิ่มในช่วงที่เหลือเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เช่น การจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขาย
โดย ททท. เตรียมจัดโรดโชว์ใน 3 เมืองใหญ่ ได้แก่ เจิ้งโจว ฉางซา และซีอาน ส่วนแอตต้าเองก็มีแผนจัดโรดโชว์ที่จีนเช่นกันในเดือน ก.ย. อยู่ระหว่างสรุปรายชื่อเมือง ซึ่งต้องพิจารณาจากปัจจัยการฟื้นตัวของเที่ยวบิน ฐานประชากร และกระแสตอบรับของผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนในพื้นที่นั้นว่าเอาจริงเอาจังแค่ไหนกับการโปรโมตท่องเที่ยวไทย
ส่วนตลาด “อันดับ 2- 4” ที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด แอตต้าประเมินว่าในปีนี้ทั้ง 4 ตลาดหลักจะทุบสถิติ “ทำนิวไฮ” โตแซงปี 2562 ก่อนโควิดระบาด โดยอันดับ 2 คือ “มาเลเซีย” คาดปิดที่ 5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มี 4.27 ล้านคน ด้านอันดับ 3 “อินเดีย” คาดมี 2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มี 1.96 ล้านคน อันดับ 4 “เกาหลีใต้” คาดมี 2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มี 1.88 ล้านคน และอันดับ 5 “รัสเซีย” คาดมี 1.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มี 1.48 ล้านคน และสูงกว่าปี 2556 ที่เคยทำสถิติสูงสุด 1.74 ล้านคน
“จากกระแสมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ล่าสุด ROCKSTAR ของ ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล ศิลปินชาวไทยชื่อดังระดับโลก ซึ่งมีถนนเยาวราชเป็นฉากหลัง กำหนดออนแอร์วันนี้ (28 มิ.ย.) จะช่วยสร้างกระแสดึงความสนใจชาวต่างชาติได้ดี เพราะลิซ่าเป็นศิลปินดังที่มีฐานแฟนคลับทั่วโลก”
ศิษฎิวัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้เปิดเผยถึงปัญหา “ทัวร์ทุบตลาด” รูปแบบการทำธุรกิจทัวร์ของนอมินีต่างชาติ ส่วนใหญ่เห็นในตลาดนักท่องเที่ยวจีน ด้วยการขายทัวร์ในราคาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แบบยอมขาดทุน เพื่อทำลายผู้ประกอบการไทยในตลาดก่อนแล้วค่อยกลับมาครองตลาดทีหลัง ล่าสุดได้เห็นการชะลอตัวของ “กลุ่มบริษัทนอมินี” ที่ทำทัวร์ทุบตลาดบ้าง เพราะรู้ตัวว่ากำลังถูกจับตามอง!
“ภาคเอกชนท่องเที่ยวที่ทำดีอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นด้วยกับการเข้ามาทำลายตลาดแบบนี้ แอตต้ามองว่าภาครัฐควรเข้ามาร่วมกับเอกชนเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้กลุ่มบริษัทที่ทำทัวร์ทุบตลาดในตอนนี้ หยุดการกระทำ เพื่อให้ภาพรวมตลาดทัวร์กลับมาเข้าที่เข้าทางอย่างที่ควรจะเป็น ไม่เช่นนั้นเอกชนท่องเที่ยวที่ทำดีอยู่แล้วจะถูกทำลายไป นี่คือปัญหาน่าห่วงที่สุด กลัวว่าภาคการท่องเที่ยวไทยในอนาคตจะตกอยู่ในมือต่างชาติหมด”
ทั้งนี้ แอตต้าได้ตั้งคณะทำงานเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาทัวร์ทุบตลาด และจะรวบรวมข้อเสนอยื่นถึงรัฐบาลในเร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา ด้วยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่ยินยอมให้ภาคท่องเที่ยวไทยถูกทำลายโดยกลุ่มคนไม่กี่ราย เข้ามาสร้างความเสียหายจากการทำ “ทัวร์ด้อยคุณภาพ” แบบนี้อย่างแน่นอน! โดยแนวทางเบื้องต้น เช่น การเสนอขายแพ็กเกจทัวร์แบบสมเหตุสมผล สามารถแข่งขันได้ตามกลไกตลาด และเป็นราคาที่ทำขายได้จริง
“ภาคท่องเที่ยวไทยมีจุดขายเรื่องความหลากหลาย แต่สิ่งสำคัญคือการส่งเสริมให้เป็นการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนด้วย หากนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวในราคาถูกๆ ได้ ในอนาคตจะยอมจ่ายเพื่อมาเที่ยวไทยในราคาที่สูงขึ้นได้อย่างไร” นายกแอตต้ากล่าว
