ราคาน้ำมันดิบโลก WTI ดิ่ง 1.09 ดอลล์ กังวลสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
![ราคาน้ำมันดิบโลก WTI ดิ่ง 1.09 ดอลล์ กังวลสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/05/5AvzS0W3AZhcp3jnMlSk.webp?x-image-process=style/LG)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(22พ.ค.)ปรับตัวร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ ปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ลบ 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 98 เซนต์ ปิดที่ 81.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด
นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เขายังไม่พร้อมที่จะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเขาต้องการเห็นหลักฐานที่จะสร้างความมั่นใจมากขึ้น ก่อนที่จะดำเนินการดังกล่าว
"เศรษฐกิจดูเหมือนกำลังปรับตัวเข้าใกล้กับที่เฟดคาดการณ์ไว้ แต่เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง ผมจึงจำเป็นต้องเห็นตัวเลขเงินเฟ้อที่ดีเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่จะสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน" นายวอลเลอร์กล่าว
ตลาดจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 31 พ.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ ตลาดจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 1 มิ.ย. โดยคาดว่าที่ประชุมยังคงมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปในครึ่งปีหลัง