ทีซีแอล เร่งแผนรุกเครื่องใช้ไฟฟ้า โหมงบ 800 ล้านบาท หวังไกลขึ้นผู้นำตลาด
สมรภูมิเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยร้อนแรง ทีซีแอล โหมงบ 800 ล้านบาทเร่งทำตลาด ชูกลยุทธ์ราคาแตกต่าง สินค้าครบทุกกลุ่มหวังไกลระยะยาว 5 ปี สู่ผู้นำตลาด พร้อมเตรียมแผนลงทุนใหญ่ในประเทศไทย
นายจอห์นนี่ หยี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์ ) จำกัด หรือ ทีซีแอล (TCL) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยปีนี้ 2567 มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยช่วงต้นปี มีการขยายตัว 20% ตามสภาพอากาศที่ร้อนมากกว่าปกติ และ ตู้เย็น ตลาดรวมมีการขยายตัว 12% มากสุดในรอบ 2-3 ปี
ทั้งนี้จากแนวโน้มตลาดรวมที่มีการขยายตัว ทำให้ในปี 2567 ทีซีแอลมีแผนรุกขยายเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยครั้งใหญ่ พร้อมเตรียมงบการตลาดไว้ 800 ล้านบาท มุ่งทำตลาดผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมชูกลยุทธ์ราคาสินค้าที่แตกต่างและมีสินค้าคุณสมบัติที่หลากหลายเพื่อร่วมกระตุ้นลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า
ขณะเดียวกัน ได้วางแผนขยายสินค้าใหม่และเพิ่มงบการตลาดในทุกปี โดยตั้งเป้าหมายในระยะยาว 5 ปี จะก้าวสู่ผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย สร้างยอดขายถึงระดับ 1.50-2 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 2-3 ปีนับจากนี้ จะขึ้นสู่เบอร์สองในตลาด
อีกทั้งมีการขยายลงทุนใหญ่ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศในประเทศ รองรับการทำตลาดทั้งในไทย อาเซียน และทั่วโลก จากในปัจจุบันมีฐานการผลิตสินค้าอยู่ในโรงงานจังหวัดปราจีนบุรีอยู่แล้ว
ผลิตภัณฑ์ใหม่ไฮไลท์ที่เปิดตัวในปีนี้ มีทั้งสินค้า อินโนเวชัน ทีวี กับ ทีวีจอยักษ์ ขนาด 115 นิ้ว ใหญ่มากสุด สินค้าเครื่องปรับอากาศ (FreshIN 2.0 Innovation) เน้นฟังก์ชั่นที่ร่วมดูแลสุขภาพ สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ตู้เย็น Free Built-In เครื่องซักและอบผ้าที่เน้นดีไซน์
นายเฉลิมชัย รัตนเอม ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ ทีซีแอล กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ลูกค้าอาจจะมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย และมีความกังวลในเรื่องราคาสินค้า ทำให้บริษัทยังเน้นกลยุทธ์ความคุ้มค่า คุ้มราคาให้สอดคล้องกับสินค้าต่างๆ หรือกำหนดราคาที่ต่ำกว่า คู่แข่งประมาณ 10-15% ยกตัวอย่าง เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ที่มีราคาหมื่นบาทต้นๆ แต่แบรนด์รายอื่นๆ ในตลาดจะมีราคา หมื่นบาทปลายๆ หรือ สองหมื่นบาทต้นๆ
สำหรับในระยะต่อไป หากภาครัฐ มีการปรับขึ้นค่าแรงของภาครัฐบาทสู่วันละ 400 บาท อาจมีผลทำให้บริษัทมีการปรับขึ้นราคาสินค้าเล็กน้อย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
นอกจากนี้แผนการตลาดในปีนี้ ยังมีการดึง “ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” ร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ร่วมสร้างแบรนด์สู่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ประเมินว่า จากแผนการตลาดที่วางไว้ จะทำให้ภาพรวมยอดขายของบริษัทในปี 2567 ถึงระดับ 6,000 ล้านบาท ขยายตัว 20-30% จากในปีก่อนที่มียอดขายรวมถึงระดับ 4,500 ล้านบาท
