ผ่ามุมมองเศรษฐกิจ 'ยุทธชัย' แม่ทัพอิตัลไทย-ออนิกซ์ "ลงทุนในจังหวะที่ใช่!"

ผ่ามุมมองเศรษฐกิจ 'ยุทธชัย' แม่ทัพอิตัลไทย-ออนิกซ์  "ลงทุนในจังหวะที่ใช่!"

นับตั้งแต่ 'ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป' เชนโรงแรมสัญชาติไทย หนึ่งในบริษัทหลักภายใต้กลุ่มบริษัทอิตัลไทย ปักธงชัด! โฟกัสการดำเนินธุรกิจในฐานะ 'รีจินอล เพลเยอร์' (Regional Player) ตามวิสัยทัศน์ “The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia”

ในฐานะบริษัทบริหารจัดการโรงแรมและการบริการขนาดกลางที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตสูงหลังพ้นยุคโควิด หนุนออนิกซ์กรุ๊ปติด TOP 3” ของเชนโรงแรมไทย ขับเคลื่อนการเติบโตของโรงแรมในเครือพร้อมสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในอาเซียน!

ยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และที่พักอาศัยระดับหรู โดยมีแบรนด์ดังในพอร์ตโฟลิโอ อาทิ อมารี (Amari) โอโซ่ (OZO) ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) ฉายภาพว่า ตอนนี้ภาคการท่องเที่ยวไทยกลับมาแล้ว “โรงแรมเรียกราคาได้” โดยเฉพาะระดับลักชัวรี แต่สถานการณ์เปลี่ยนเร็ว โดยเฉพาะต้นทุนปรับสูงขึ้น ต้องคุมต้นทุนให้อยู่ และมิกซ์ตลาดรับนักท่องเที่ยวระยะใกล้ (Short-haul) มากขึ้น

หลังเห็นเทรนด์นักท่องเที่ยวเกาหลี สิงคโปร์ และฮ่องกงกลับมาดี รวมถึง “อินเดีย” ที่ได้อานิสงส์จากตลาดหุ้นอินเดียเติบโต 20-30% ในช่วงนี้ ส่งผลดีต่อลูกค้ากลุ่มองค์กรเดินทางเข้าไทย แบรนด์ “อมารี” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของชาวอินเดียได้ปัจจัยหนุนจากเรื่องนี้ ทำให้โรงแรมระดับแฟลกชิปของออนิกซ์กรุ๊ปอย่าง “อมารี กรุงเทพฯ” ย่านประตูน้ำ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปีนี้สูงถึง 88%

สำหรับผลการดำเนินงานของออนิกซ์กรุ๊ปในไตรมาส 1 เติบโต 29% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีนักท่องเที่ยว “จีน” กลับมาเป็นตลาดที่ทำรายได้อันดับ 1 ของบริษัทนับตั้งแต่เจอโควิดระบาด ส่วนอันดับ 2 ยังคงเป็นตลาด “คนไทย” ที่กำลัง “ซัฟเฟอร์” (Suffer) ประสบปัญหา “กำลังซื้อ” เห็นได้จากบางส่วนเคยเข้าพักแบรนด์อมารี ก็เปลี่ยนไปเข้าพักแบรนด์โอโซ่ กลุ่มโรงแรมราคาประหยัดแทน ส่วนอันดับ 3 “รัสเซีย” ตลาดสำคัญสำหรับรีสอร์ตในภูเก็ตและพัทยา

“ไตรมาสแรกของออนิกซ์กรุ๊ป ถือเป็นไตรมาสที่ช่วยให้เราเก็บเงินใส่กระปุกได้มาก ก่อนเข้าสู่ไตรมาส 2 ที่จะต้องรักษาจำนวนลูกค้าเอาไว้ ในภาวะที่มีปัจจัยเสี่ยงมากมายทั้งในและต่างประเทศ”

ผ่ามุมมองเศรษฐกิจ \'ยุทธชัย\' แม่ทัพอิตัลไทย-ออนิกซ์  \"ลงทุนในจังหวะที่ใช่!\"

ไม่ว่าจะเป็น “สงคราม” ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง อีกทั้งแนวโน้ม “ดอกเบี้ย” ในครึ่งปีแรกยังสูง ไม่ปรับลดลง เมื่อต้นทุนทางการเงินสูง แต่ยังยืนยันจะลงทุนต่อ ทำให้ออนิกซ์ต้องปรับแผนการลงทุน ด้วยหลักคิด “ลงทุนได้ ถึงจะน้อยโครงการ แต่ต้องซัคเซส และรอดูจังหวะที่เหมาะสม” ถ้าบรรยากาศการลงทุนยังไม่ใช่ ก็ไม่อยากรีบ

โดยตามแผนปี 2568 ออนิกซ์กรุ๊ปจะใช้เงินลงทุนรวม “4,800 ล้านบาท” ลงทุนก่อสร้างและปรับปรุงโรงแรม “4 โครงการ” น่าจะพัฒนาแล้วเสร็จในปี 2571 ได้แก่

1.โรงแรมอมารี ภูเก็ต ขนาด 120 ห้องพัก บนหาดป่าตอง เตรียมงบปรับปรุงไว้ 1,000-1,500 ล้านบาท

2.โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ ขนาด 176 ห้องพัก เตรียมงบปรับปรุง 300 ล้านบาท

3.โรงแรม โอโซ่ กรุงเทพฯ ขนาด 250 ห้องพัก ย่านประตูน้ำ ขึ้นตึกที่ 2 ติดกับ อมารี กรุงเทพฯ ใช้งบก่อสร้างใหม่ 800 ล้านบาท

และ 4. อีคิว ภูเก็ต รีสอร์ตระดับลักชัวรี บนหาดกะตะ ขนาด 150 ห้องพัก ถือเป็นรีสอร์ตภายใต้การร่วมทุนระหว่างออนิกซ์กรุ๊ปกับทุนมาเลเซียซึ่งต้องการเข้ามาขยายพอร์ตโฟลิโอในไทย และเลือกปักหมุดภูเก็ตเป็นแห่งแรก การได้พันธมิตรลงทุนรายนี้เข้ามา เรียกได้ว่าช่วยลดความเสี่ยง คาดใช้เงินลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการลงทุนฝั่งละ 50% ทั้งนี้ยังเป็นการร่วมทุนครั้งแรกที่ทำกับ Third Party” เลือกใช้แบรนด์อื่นที่ไม่ใช่ในเครือออนิกซ์มาบริหาร ด้วยเห็นว่าเป็นแบรนด์รีสอร์ตหรูที่ทำราคาได้ดีเมื่อเทียบกับแบรนด์หรูอื่นๆ ในมาเลเซีย

ยุทธชัย กล่าวด้วยว่า ภาวะดอกเบี้ยสูงยังสะเทือนไปถึงกำลังซื้อของคนไทยที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนหนี้บัตรเครดิต แม้ในอนาคตจะมีการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ แต่ก็ไม่ทันการปรับขึ้นของค่าครองชีพอยู่ดี ในสถานการณ์ที่ไม่ว่าจะจับจ่ายที่ไหน เงิน 1,000 บาทก็ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะโตไม่ถึง 2% หนี้สาธารณะก็สูง มองว่าความท้าทายเหล่านี้จะยังดำรงอยู่อีก 2-3 ปีนับจากนี้!

“ผมมองว่าโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล วงเงินรวม 5 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มในปลายปีนี้ เป็นการกระตุ้นระยะสั้น หรือ Small Boost เท่านั้น ในที่สุดจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้ให้รัฐบาล แทนที่จะเอาเงินไปทำอย่างอื่น ถือเป็นจุดที่ทำให้เป็นห่วงว่าเศรษฐกิจไทยจะพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวได้นานแค่ไหน” ยุทธชัย ให้ความเห็นต่อประเด็นนี้อย่างเผ็ดร้อน

อย่างไรก็ตาม ด้วยเทรนด์การท่องเที่ยวเติบโตดี ทำให้ตลอดปี 2567 ออนิกซ์กรุ๊ปตั้งเป้ารายได้ 9,463 ล้านบาท เติบโต 19% เทียบกับปีก่อน โดยมีแบรนด์อมารี และโอโซ่ เป็นแบรนด์สำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ ขณะที่แบรนด์ ชามา มีทิศทางเติบโตดีต่อเนื่องจากดีมานด์ในตลาด ส่วนกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ หรือ “EBITDA” ตั้งเป้าไว้ที่ 2,780 ล้านบาท เติบโต 23% ด้านกำไรสุทธิตั้งเป้าที่ 1,868 ล้านบาท เติบโต 28%

ผ่ามุมมองเศรษฐกิจ \'ยุทธชัย\' แม่ทัพอิตัลไทย-ออนิกซ์  \"ลงทุนในจังหวะที่ใช่!\"

จากปัจจุบันออนิกซ์กรุ๊ป มีโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ เปิดให้บริการ 40 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักกว่า 7,400 ห้อง ครอบคลุมทั้งในไทย มาเลเซีย จีน ฮ่องกง บังกลาเทศ และ สปป.ลาว รวม 6 จุดหมายปลายทาง และกำลังขยายธุรกิจไปอีกหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศอีก 6 แห่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนา คิดเป็น 1,100 ห้อง รวมตามแผนงานจะมี 46 แห่ง คิดเป็น 8,500 ห้อง

“ออนิกซ์กรุ๊ปตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2568 จะมีโรงแรมและที่พักภายใต้การบริหารมากกว่า 50 แห่ง และเพิ่มให้ได้เป็น 70 แห่งภายในปี 2571” ยุทธชัยกล่าว

ผ่ามุมมองเศรษฐกิจ \'ยุทธชัย\' แม่ทัพอิตัลไทย-ออนิกซ์  \"ลงทุนในจังหวะที่ใช่!\"