กระแส ‘K-Beauty’ กระตุ้นยอดส่งออก ‘คอนแทคเลนส์สี’ แบรนด์เกาหลีใต้พุ่ง

กระแส ‘K-Beauty’ กระตุ้นยอดส่งออก ‘คอนแทคเลนส์สี’ แบรนด์เกาหลีใต้พุ่ง

ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับกระแสแฟชั่นแบบ “K-Beauty” ที่ล่าสุดทำให้ “คอนแทคเลนส์สี” ทำเงินส่งออกให้เกาหลีใต้กว่า 8 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะมีศิลปิน K-POP ร่วมแคมเปญโปรโมต และมีสีสันลวดลายที่หลากหลาย

KEY

POINTS

  • “คอนแทคเลนส์สี” สินค้าส่งออกขายดีของเกาหลีใต้ ล่าสุดสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 8 พันล้านบาท
  • ด้วยอิทธิพล “K-Beauty” และเหล่าศิลปิน “K-POP” ทำให้คอนแทคเลนส์เกาหลีได้รับความนิยมไปทั่วโลกโดยเฉพาะญี่ปุ่น
  • “Star Vision” และ “Interojo” เป็นบริษัทผลิตคอนแทคเลนส์ดาวรุ่งที่มีแบรนด์ดังมากมาย เช่น OLENS, Hapa Kristin, Chuu และ Clalen

ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับกระแสแฟชั่นแบบ “K-Beauty” ที่ล่าสุดทำให้ “คอนแทคเลนส์สี” ทำเงินส่งออกให้เกาหลีใต้กว่า 8 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะมีศิลปิน K-POP ร่วมแคมเปญโปรโมต และมีสีสันลวดลายที่หลากหลาย

กระแส K-POP ยังมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่านิยมความสวยงามตามแบบฉบับสาวเกาหลีที่เรียกว่า “K-Beauty” ที่ถือว่ามีอิทธิพลต่อเทรนด์แฟชั่นไปทั่วโลกแม้แต่ในประเทศไทยเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง รวมไปถึง “คอนแทคเลนส์สี” ที่หลายแบรนด์กำลังโด่งดังสุดๆ เพราะนอกจากจะมีขายตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ แล้ว ยังมีร้านรับหิ้วหรือว่าพรีออเดอร์ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

แบรนด์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ OLENS, Hapa Kristin และ Clalen ที่ไม่ได้มีเพียงสีสันสวยงาม ลวดลายแปลกตา สามารถช่วยเสริมลุคให้การแต่งหน้าได้อย่างหลากหลายและหาซื้อได้ง่ายในเกาหลีใต้แล้ว การใช้ศิลปิน K-POP ที่มีชื่อเสียงมาร่วมแคมเปญก็สามารถดึงความสนใจจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทำให้เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม 2024 ที่ผ่านมา “Interojo” หนึ่งในบริษัทผลิตคอนแทคเลนส์รายใหญ่ของเกาหลีใต้มีมูลค่าตลาดมากถึงประมาณ 3.7 แสนล้านวอน หรือประมาณ 98,167,327,000 บาท

“คอนแทคเลนส์สี” ธุรกิจส่งออกรายได้ดีใน “เกาหลีใต้”

อี ซึงจุน (Lee Seungjun) ซีอีโอของ Wink Company แพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายเลนส์สีกล่าวว่า “เกาหลีเป็นมหาอำนาจในการผลิตคอนแทคเลนส์ทั้งในด้านชื่อเสียงและความเป็นจริง” นอกจากนี้เขายังอธิบายเพิ่มด้วยว่า “โดยเฉพาะภาคการผลิตคอนแทคเลนส์สีที่ออกแบบและผสมสีอย่างประณีต พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยในฐานะอุปกรณ์ทางการแพทย์ ถือเป็นความสามารถที่ผู้ผลิตและบริษัทยาในต่างประเทศรายใหญ่ไม่มี

ด้าน “Interozo” บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านคอนแทคเลนส์ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านวอน (ประมาณ 98,455,957,858 บาท) ซึ่งอาจเป็นข้อพิสูจน์หนึ่งที่ระบุได้ว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะความต้องการจากลูกค้าในต่างประเทศ

ประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าทำให้คอนแทคเลนส์สีเป็นที่นิยมนั้นมาจากการปรากฏตัวของศิลปิน K-POP ที่มักใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นสีต่างๆ ออกสื่ออยู่เสมอ จึงมีการประเมินว่าขนาดตลาดคอนแทคเลนส์ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 13 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3,458,689,000,000 บาท) ส่วนคอนแทคเลนส์สีมีที่ลวดลายแบบแฟชั่นมีมูลค่า 3 ล้านล้านวอน (ประมาณ 79,815,900,000 บาท)

นอกจากนี้ซึงจุนยังเล่าว่ากระแส “K-beauty” เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายประเทศสนใจคอนแทคเลนส์สีจากเกาหลีมากขึ้นโดยเฉพาะญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความสนใจเรื่องความสวยความงามเป็นทุนเดิม ทำให้ชาวญี่ปุ่นสนใจคอนแทคเลนส์สำหรับใส่เพื่อแฟชั่น ไม่ใช่แค่คอนแทคเลนส์ทางการแพทย์อย่างเดียว บริษัทในเกาหลีหลายแหล่งจึงเชื่อว่าธุรกิจของพวกเขากำลังไปได้ดีในญี่ปุ่น

กระแส ‘K-Beauty’ กระตุ้นยอดส่งออก ‘คอนแทคเลนส์สี’ แบรนด์เกาหลีใต้พุ่ง

สำนักงานใหญ่ Interojo (naver)

“ญี่ปุ่น” ตลาดสำคัญของคอนแทคเลนส์สี

จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมแว่นตาแห่งเกาหลีระบุว่าที่ผ่านมาว่า แม้ว่าการส่งออกคอนแทคเลนส์ลดลงจากประมาณ 214 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,879,052,000 บาท)ในปี 2019 เหลือ 178 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,553,604,000 บาท)ในปี 2020 แต่ล่าสุดในปี 2023 ตัวเลขการส่งออกคอนแทคเลนส์สีของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะการส่งออกไปที่ประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มกลับมาทำรายได้สูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการส่งออกไปที่ญี่ปุ่นมีมูลค่าประมาณ 47 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,730,211,000 บาท) ในปี 2021 ส่วนในปี 2022 มีมูลค่าประมาณ 55 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,024,715,000 บาท) และ 66 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,429,658,000 บาท)ในปี 2023 ซึ่งแสดงถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณร้อยละ 18 ในช่วงสามปีที่ผ่านมา

โดยญี่ปุ่นเป็นตลาดคอนแทคเลนส์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา จากการสำรวจของสมาคมคอนแทคเลนส์พบว่า ขนาดของตลาดคอนแทคเลนส์ในญี่ปุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 2.51 ล้านล้านวอน (ประมาณ 6 ล้านล้านบาท) ในปี 2022 ซึ่งมากกว่าตลาดเกาหลีใต้ถึง 4 เท่า ซึ่งประเมินไว้ที่ประมาณ  6 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท)

ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า “K-POP” คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “คอนแทคเลนส์สี” ของเกาหลีได้รับความนิยมไปในหลายประเทศ ทำให้แบรนด์คอนแทคเลนส์หันมาร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมากขึ้น เช่น New Jeans, IU และ จาง วอนยอง วง IVE ทำให้บรรดาคอนแทคเลนส์สีเกาหลีที่วางขายในร้าน Olive Young สาขาอื่นๆ ที่อยู่นอกเกาหลีใต้มียอดขายคอนแทคเลนส์เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 660 ภายในหนึ่งปี และหลังจากผ่านพ้นช่วงโควิด 19 มา ทำให้การส่งออกคอนแทคเลนส์ที่ผลิตในประเทศก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้บริษัทผลิตคอนแทคเลนส์สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในระดับที่น่าพอใจ

กระแส ‘K-Beauty’ กระตุ้นยอดส่งออก ‘คอนแทคเลนส์สี’ แบรนด์เกาหลีใต้พุ่ง OLENS x New Jeans (IG : olens_contactlens)

“Star Vision” และ “Interojo” บริษัทคอนแทคเลนส์ดาวรุ่งแห่งเกาหลีใต้

สำหรับบริษัทผู้ผลิตคอนแทคเลนส์ในเกาหลีใต้ก็มีด้วยกันมากมายหลายแห่ง ที่มีรายได้สูง และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยบริษัทที่ข้อมูลของ naver ระบุว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ก็คือ “Star Vision” และ “Interojo

Star Vision ก่อตั้งโดยอดีตช่างตัดแว่นตา พัค ซัง-จิน (Park Sang-jin) ที่แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดโควิ 19 แต่ Star Vision ก็มีผลดำเนินงานในปี 2021 ที่น่าพอใจ โดยสามารถทำยอดขายได้ 9 แสนล้านวอน (ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท) ซึ่งทำให้ได้กำไรอยู่ที่ประมาณ 2.2 แสนล้านวอน (ประมาณ 5.8 พันล้านบาท)

หลังจากนั้นสองปี Star Vision ก็ทำยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มเป็น 5 แสนล้านวอน (ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท) นอกจากนี้สัดส่วนยอดขายในต่างประเทศยังเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 32 เป็นร้อยละ 47

ปัจจุบันสินค้าของ Star Vision มีการส่งออกไปที่อเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก หลังจากนั้นในปี 2022 เป็นต้นมา บริษัทก็เริ่มพุ่งเป้าการส่งออกไปที่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อ Star Vision เปิดตัวแบรนด์คอนแทคเลนส์ OLENS ในร้าน Don Quijote ร้านค้าปลีกสินค้าราคาถูกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นประมาณ 200 แห่ง และภายในปีเดียวก็สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 1 หมื่นล้านวอนในญี่ปุ่น

ทางด้าน Interojo ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่มีผลประกอบการน่าสนใจ ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 โดย โน ซิ-ชอล (Noh Si-cheol) ซึ่งในตอนนั้นเป็นบริษัทการค้าทั่วไป หลังจากนั้นก็ผันตัวมาเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายคอนแทคเลนส์เฉพาะทาง โดยมียอดขาย 1.2 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 1.9 แสนล้านวอน (ประมาณ 5 พันล้านบาท) ในปีที่แล้ว

ความสามารถในการแข่งขันในตลาดคอนแทคเลนส์ของ Interojo อยู่ที่ความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้า ด้วยนักวิจัยที่มีความสามารถจากหลายสาขา เช่น ด้านวัสดุ ทัศนศาสตร์ การออกแบบ และวิธีพอลิเมอไรเซชัน (ปฏิกิริยาการเตรียมพอลิเมอร์จากมอนอเมอร์) ทำให้ความสามารถของบริษัทพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ได้รับการประเมินว่าเทียบเคียงได้กับบริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งแบรนด์หนึ่งที่เป็นของ Interojo ก็คือ Claren ที่มี IU ศิลปินชื่อดังมาร่วมแคมเปญ นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ที่ส่งออกไปมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก

กระแส ‘K-Beauty’ กระตุ้นยอดส่งออก ‘คอนแทคเลนส์สี’ แบรนด์เกาหลีใต้พุ่ง

IU ในแคมเปญของ Claren (IG : claren_kr)

ไม่ใช่แค่ 2 บริษัทชื่อดังในอุตสาหกรรมคอนแทคเลนส์ที่กล่าวไปข้างต้นเท่านั้น แต่ยังมีน้องใหม่ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน นั่นก็คือ “PPB Studios” ซึ่งเพิ่งเข้าสู่ตลาดอเมริกาไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยแบรนด์ภายใต้การดูแลของบริษัทที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ “Hapa Kristine” หรือที่รู้จักในชื่อ “Jang Wonyoung Lens” เนื่องจากได้วอนยองมาร่วมแคมเปญการโปรโมต

กระแส ‘K-Beauty’ กระตุ้นยอดส่งออก ‘คอนแทคเลนส์สี’ แบรนด์เกาหลีใต้พุ่ง

หน้าร้าน Hapa Kristine ในเมียงดง (IG : hapa Kristine)

Hapa Kristine ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถเปิดหน้าร้านแบบถาวรได้ที่ลอสแองเจลิส บนถนน Melrose Avenue โดยมีการพูดกันปากต่อปากว่ามีอินฟลูแอนเซอร์ท้องถิ่นหลายร้อยคนไปต่อแถวเพื่อลองใช้คอนแทคเลนส์สีต่างๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้เป็นที่ดึงดูดชาวอเมริกันมากพอสมควร นอกจากนั้น PPB Studios ก็เปิดตัวแบรนด์คอนแทคเลนส์แฟชั่นเพิ่มขึ้นอีกในชื่อ Chuu Lens ซึ่งปักธงไปที่ญี่ปุ่นและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ PPB Studios ยังดำเนินธุรกิจคอนแทคเลนส์แฟชั่นผ่านบริษัท Wink Company ที่เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการจำหน่ายคอนแทคเลนส์ในประเทศร่วมกับร้านค้าแว่นตาธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่นประมาณ 1,500 แห่ง ซึ่งหลังจากเปิดตัวแอปพลิแคชันสำหรับขายคอนแทคเลนส์ในเดือน มี.ค. 2022 ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมียอดดาวน์โหลด 1 ล้านครั้ง มีผู้ใช้งานต่อเดือน 160,000 ราย และมีปริมาณธุรกรรมต่อเดือน 1.5 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 3.9 แสนล้านบาท) ในตลอดระยะเวลา 2 ปี ซึ่งล่าสุดมีการเปิดตัวหน้าร้านเป็นที่เรียบร้อยในชื่อ Wink Lens Store

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจในแวดวงความงามเป็นอย่างมากสำหรับ “คอนแทคเลนส์สี” ของแบรนด์ต่างๆ จาก “เกาหลีใต้” ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกจากอิทธิพลของค่านิยมแบบ “K-Beauty” ทำให้น่าติดตามต่อไปว่าหลังจากนี้จะมีแฟชั่นอะไรจากเกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต

อ้างอิงข้อมูล : naver