นักท่องเที่ยวล้นหลาม ปลุกเศรษฐกิจสงกรานต์คึกคัก!

ที่ผ่านมาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์สงกรานต์ปี 2567 จะเกิดการใช้จ่ายสะพัดกว่า 1.2 แสนล้านบาท ส่วนศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี คาดเม็ดเงินสะพัดช่วงสงกรานต์ปี 2567 ทะยานแตะ 4.2 หมื่นล้านบาท เป็นต้น

"กรุงเทพธุรกิจ" ชวนดูบรรยากาศสงกรานต์ในย่านใจกลางธุรกิจทั้งย่านราชประสงค์ สยามสแควร์ สีลม สามย่าน และบรรทัดทอง ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลที่มีการจัดงานสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ มีแบรนด์สินค้าต่างๆที่เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุน มีศิลปินชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนดีเจสุดฮอตมาเป็นแม่เหล็กในการดึงคนเข้าไปร่วมม่วนจอย

ธุรกิจเทงบมอบความสนุกให้นักท่องเที่ยว

สำหรับบรรยากาศสงกรานต์ย่านราชประสงค์ เริ่มที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อีกหนึ่งในพื้นที่คนทะลัก ซึ่งปีนี้ชู “centralwOrld Songkran Fest 2024” ร่วมกับเทศกาล “Thai Rhythm Songkran Festival 2024” ปรากฏการณ์ดนตรีคอลแลบแบบไทยริทึ่ม ดึงคนจนได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามหาศาล เพราะมีนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ ร่วมกว่าวันละ 2 แสนคนเลยทีเดียว

ด้าน “สงกรานต์สยาม ผ้าขาวม้า อยู่เย็นเป็นสนุก” ไฮไลต์มีมากมาย ตั้งแต่สไลเดอร์ยักษ์ ที่ “ยาดมโป๊ยเซียน” ขอยึดพื้นที่มอบความสนุกให้กับผู้คน ซึ่งผู้ใหญ่อยากย้อนวัย หรือเด็กอยากร่วมเปียกแบบฉ่ำๆ สามารถต่อคิวใช้บริการได้ แต่ถ้าอยากเร็วหน่อยแบบ Fast Track ด้วยการจ่ายเงินในราคาหลักร้อยบาทต้นๆเท่านั้น

ไอศกรีมวอลล์ ก็ขออยู่สยาม โดยจัดโซนปาร์ตี้โฟม พร้อมกับมี ดีเจสายตื๊ดหรือ DJ EDM เพิ่มความมันส์ให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ส่วนแบรนด์น้ำดำระดับโลกอย่าง “โคคา-โคล่า” ก็ยึดจุฬาฯซอย 5 จัดงานสงกรานต์ มีซุ้มฉีดน้ำและให้บริการเติมน้ำแก่ผู้เข้าร่วมสนุกสาดน้ำ และยังมีการแสดงจากศิลปินรุ่นใหม่เพิ่มความมันส์

ส่วนบรรยากาศสีลม แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มียึดพื้นที่ทำกิจกรรม เพราะต้องยอมรับว่านี่เป็นอีกหมวดสินค้าที่เพิ่มระดับความสนุกสนานได้อย่างดี

เหล่านี้เป็นบางส่วนของพื้นที่เปิดให้สาดน้ำกันแบบฟรีๆ เพราะงานอีเวนต์ บรรดามิวสิค เฟสติวัลดังๆใหญ่ๆ ที่เสียเงินค่าเข้า แบรนด์สินค้า ภาคธุรกิจหลากหลายหมวดต่างตบเท้าทุ่มเงินเพื่อจัดงานให้ยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้กัน ซึ่งผู้ประกอบการแวดวงอีเวนต์ระบุแต่ละงานเปย์งบหลัก “ร้อยล้านบาท” ทั้งสิ้น เพื่อทำให้งานสนุกขั้นสุด

รายใหญ่อู้ฟู่ รายย่อยคึกคัก

ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจขนาดใหญ่เทเงินเพื่อจัดงานสงกรานต์ ปลุกการใช้จ่าย เร่งคืนชีพเศรษฐกิจไทยแล้ว ผู้ประกอบการรายย่อยก็ได้รับอานิสงส์เช่นกัน เพราะคนที่เข้าร่วมงานจำนวนมาก แน่นอนว่ามีบางคนที่ขาดความพร้อมของอุปกรณ์สาดน้ำ รวมถึง “น้ำ” ที่จะใช้ฉีด สาดผู้คนเพิ่มความครึกครื้น จึงเห็นร้านขายปืนฉีดน้ำเรียงรายอยู่จำนวนมาก พร้อมจัดโปรโมชั่น ซื้อปืนฉีดน้ำร้านนี้เติมน้ำให้ฟรีๆด้วย

ที่สำคัญ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติบางคนที่เล่นน้ำเป็นเวลานาน ย่อมหิว ทำให้มีบรรดาพ่อค้าแม่ขาย เปิดร้านรถเข็น รังสรรค์เมนูง่ายๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าด้วย จึงเห็นร้านลูกชิ้น หมูปิ้ง เมนูย่างต่างๆ ร้านไก่ทอด ร้านข้าวไข่เจียว ร้านข้าวกระเพรา และอีกมากมาย

“น้ำ” ไม่ได้เป็นสินค้าเพื่อดื่มดับร้อน แต่สงกรานต์ในเมืองกรุงฯ จะเล่นทั้งที ฉีดปิ้วๆ แป๊บๆก็หมด ทำให้ต้องเติมน้ำบ่อยๆ น้ำเลยกลายเป็นสินค้าที่ถูกนำมาขายจำนวนมาก ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของปืนฉีดน้ำ เช่น ใหญ่ราคา 20 บาท เล็กหน่อย ขายที่ 10 บาท เป็นต้น

ส่วนนักท่องเที่ยวไทย-เทศ งานนี้พกเงินกันไปไม่มากก็น้อย ต้องมีควักใช้จ่ายกันบ้างตามกำลังทรัพย์แน่นอน ทำให้เงินสะพัดจากร้านค้ารายย่อยไปถึงผู้ประกอบการ แบรนด์ใหญ่ด้วย

ขยะเกลื่อนกลาด

อย่างไรก็ตาม ผู้คนร่วมงานเทศกาลแต่ละพื้นที่มหาศาล การจัดการขยะ กลายเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักกันอยู่เสมอ แต่ด้วยปริมาณถังขยะที่มีน้อย มีจำกัด ทำให้ไม่เพียงพอ รองรับการทิ้งขยะได้ งานนี้จึงเป็นอีกภาระหนักของคนทำงาน ปฏิบัติหน้าที่เก็บขยะแต่ละจุดของกทม. และย่านการค้าต่างๆ

แม้ยุคนี้ เทรนด์ของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มาแรง รักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องการสร้างขยะ แต่เทศกาลสงกรานต์ อาจเป็นห้วงเวลาที่ต้องทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องเตรียมการเพื่อรับมือครั้งต่อไป โดยหนึ่งในตัวอย่างของแบรนด์ที่วางแผนบริหารจัดการขยะคือบริเวณหน้าบูธ “โป๊ยเซียน” ได้จัดเตรียมถังขยะเพื่อรับพลาสติกเหลือใช้ภายในงานเพื่อนำไปใช้ Upcycling ในโครงการ Go Green Together ที่จะจัดขึ้นเร็วๆนี้ด้วย