สินค้าแบรนด์เนมมือสองไทยโต 'โคเมเฮียว' จากเครือสหพัฒน์ รุกสยายปีกสาขาใหม่

สำรวจตลาดสินค้าแบรนด์เนมเนมในประเทศไทย มีการประเมินว่ามีมูลค่ากว่า 1.6 – 2 แสนล้านบาท โดยสินค้ากลุ่มนี้โตร้อนแรงในทุกปี สวนทางเศรษฐกิจในประเทศ จากกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึงจากฐานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าแบรนด์เนมเพิ่มขึ้น ซึ่งอีกตลาดที่เติบโตควบคู่กันคือ สินค้าแบรนด์เนมมือสอง เป็นอีกทางเลือกสำคัญลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์เนม และยังมาจากกระแสเรื่องความยั่งยืน การเลือกซื้อสินค้ามือสอง จึงร่วมตอบโจทย์ในเรื่องนี้

ทั้งนี้จากแนวโน้มสินค้าแบรนด์เนมในไทยที่มีทิศทางขยายตัวทำให้ โคเมเฮียว (KOMEHYO) ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ที่อยู่ในตลาดประเทศญี่ปุ่นยาวนานกว่า 76 ปี และเข้ามารุกธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการจัดตั้ง บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง “เครือสหพัฒน์” และ KOMEHYO JAPAN ได้รุกขยายสาขาในประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดสาขาที่ 5 กับ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ”

 

“ฮิเดโอะ ทาเคโอะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างเครือสหพัฒน์และกลุ่ม KOMEHYO (โคเมเฮียว) กล่าวว่า การรุกเปิดร้านโคเมเฮียวสาขาใหม่ล่าสุดในประเทศไทยที่ ศูนย์การค้า “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ” โดยสาขาแห่งนี้มีบริการรับซื้อ – ขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองอย่างครบวงจร

ทั้งนี้ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีความชำนาญในการคัดเลือกสินค้าคุณภาพมาให้บริการ ด้วยแนวคิด "Relay Use" การร่วมส่งต่อสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วไปให้บุคคลอื่นที่ยังต้องการ เพื่อนำไปใช้งานให้ได้ประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ขณะเดียวกันบริษัทได้นำเทคโนโลยี AI จาก KOMEHYO ประเทศญี่ปุ่น มาใช้ในการบริหารร้านที่ประเทศไทย โดยเทคโนโลยี AI เป็นการทำงานผ่านกล้อง Microscope ได้ถูกออกแบบขึ้นโดย KOMEHYO จึงช่วยตรวจสอบความละเอียดของสินค้าได้ถึง 99% ผ่านฐานข้อมูลของ KOMEHYO ที่สะสมมายาวนาน

ทั้งนี้เทคโนโลยี AI เข้ามาจึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้าได้ว่าสินค้าทุกชิ้นที่ผ่านการตรวจสอบจะมีคุณภาพสูงสุดภายใต้มาตรฐานญี่ปุ่น และร่วมสร้างความพึงพอใจให้แก่กลุ่มลูกค้าคนไทย

“ภาพรวมตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในประเทศไทย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณค่าทางจิตใจกับลูกค้า อีกทั้งแบรนด์เนมมือสองถือว่ามีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ร่วมสร้างการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งการเลือกซื้อแบรนด์เนมมือสอง ยังร่วมส่งเสริมให้เกิดการบริโภคที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกทาง”

 

อีกทั้งบริษัทพร้อมรับซื้อแบรนด์เนมมือสองจำนวนมาก ทั้งกระเป๋า นาฬิกา โดยต้องผ่านการตรวจสอบอย่างพิถีพิถันจากผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น พร้อมให้บริการปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการซื้อ - ขาย

อย่างไรก็ตามการเปิดสาขาใหม่ที่ 5 ในประเทศไทย เป็นไปตามแผนการรุกธุรกิจในประเทศ โดยได้มีการเปิดสาขาในรูปแบบแฟลกชิปสโตร์ไปแล้วรวม 4 สาขา ได้แก่  ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล@เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2,ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา ชั้น 1, ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พระราม 3 ชั้น G และ เจพาร์ค นิฮอนมูระ ศรีราชา ชั้น 2 New Town Zone สาขาล่าสุดที่ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการขยายธุรกิจในประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาตลอด