รัฐผนึกเอกชนบูมมหาสงกรานต์ กทม.คึกคักเงินสะพัด‘หมื่นล้าน’

รัฐผนึกเอกชนบูมมหาสงกรานต์  กทม.คึกคักเงินสะพัด‘หมื่นล้าน’

ภาครัฐ-เอกชนระดมสรรพกำลัง อัดบิ๊กอีเวนต์ “มหาสงกรานต์ 2567” สร้างสีสันดึงดูดทัวริสต์ ตบเท้าร่วมงานเฟสติวัลระดับโลก “ททท.” คาดตั้งแต่ 1-21 เม.ย. นักท่องเที่ยวไทย-เทศหลั่งไหล เดินทางทั่วประเทศ 15 ล้านคน-ครั้ง เงินสะพัดกว่า 5.25 หมื่นล้าน เฉพาะ “กรุงเทพฯ” เฉียดหมื่นล้าน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า รัฐบาลได้ส่งเสริมให้มีการทยอยจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-21 เม.ย. 2567 เป็นระยะเวลา 21 วัน ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบทอดประเพณีอันงดงามของไทย พร้อมกับส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชน ภายใต้โครงการ “Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” ถือเป็นการตอบสนองภายหลังองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) มอบประกาศนียบัตรรับรองประเพณีสงกรานต์ไทยขึ้นเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอย่างเป็นทางการ

ททท. คาดการณ์จำนวนและรายได้ที่เกิดจากการส่งเสริมกิจกรรมสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน 2567 จำนวน 21 วัน ไว้ว่าจะมีจำนวนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 15.03 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 52,500 ล้านบาท อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 78%”

กรุงเทพฯ สะพัดเฉียด 1 หมื่นล้าน

สำหรับภูมิภาคที่มีจำนวนการเดินทางมากที่สุด อันดับ 1 คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3.73 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7,524 ล้านบาท ส่วนอันดับ 2 ภาคกลาง (รวมภาคตะวันตก) 3.43 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 7,060 ล้านบาท อันดับ 3 ภาคตะวันออก 2.78 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 10,600 ล้านบาท อันดับ 4 ภาคเหนือ 2.29 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 9,700 ล้านบาท อันดับ 5 ภาคใต้ 1.39 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 7,716 ล้านบาท และอันดับ 6 เฉพาะกรุงเทพฯ 1.38 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 9,900 ล้านบาท

รัฐผนึกเอกชนบูมมหาสงกรานต์  กทม.คึกคักเงินสะพัด‘หมื่นล้าน’

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า จากการส่งเสริมกิจกรรมสงกรานต์ 21 วัน จะช่วยกระตุ้นให้พื้นที่ที่ ททท. ดำเนินการจัดงานและให้การสนับสนุนกิจกรรม “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” จำนวน 6 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ และ 5 พื้นที่ในต่างจังหวัดที่ ททท.ให้การสนับสนุน ได้แก่ สงขลา เชียงใหม่ สุโขทัย พิษณุโลก และแม่ฮ่องสอน เฉพาะ 5 พื้นที่ดังกล่าว คาดว่าจะมีจำนวนและรายได้ทางการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยประมาณ 2.29 ล้านคน-ครั้ง และมีรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 16,300 ล้านบาท

เมื่อดูเฉพาะ 5 พื้นที่สนับสนุนของ ททท. แบ่งเป็น สงขลา คาดมีอัตราการเข้าพัก 71% มีการเดินทางจำนวน 128,410 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 950 ล้านบาท เชียงใหม่ อัตราการเข้าพัก 82% จำนวน 440,330 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 4,300 ล้านบาท สุโขทัย อัตราการเข้าพัก 55% จำนวน 45,090 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 113 ล้านบาท พิษณุโลก อัตราการเข้าพัก 59% จำนวน 224,890 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 647 ล้านบาท แม่ฮ่องสอน อัตราการเข้าพัก 65% จำนวน 75,260 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 390 ล้านบาท

รัฐผนึกเอกชนบูมมหาสงกรานต์  กทม.คึกคักเงินสะพัด‘หมื่นล้าน’

รัฐ-เอกชนขนไฮไลต์ ‘มหาสงกรานต์’

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ในวันที่ 11-15 เม.ย. 2567 ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลางและพื้นที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ โดยนำเสนอภาพลักษณ์ความสวยงามของประเพณีสงกรานต์ไทย ด้วยขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์กว่า 20 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถพระพุทธรูป ขบวนรถเทพีสงกรานต์ ประจำปี 2567 “มโหธรเทวี” เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรเหนือหลังนกยูง ขบวนรถพาเหรด 16 จังหวัด พร้อมด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากนักแสดงและผู้ร่วมขบวนแห่กว่าพันคน พร้อมจัดกิจกรรมนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทย อัตลักษณ์ประเพณีสงกรานต์ 5 ภาค และซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ไทย บริเวณท้องสนามหลวง

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน สร้างมหาปรากฏการณ์แห่งความมหัศจรรย์งาน “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ 2567” โดยในปีนี้ไอคอนสยามได้จัดเตรียมงบการตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่ากว่า 60 ล้านบาท ยกระดับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ให้ยิ่งใหญ่และพิเศษกว่าทุกปี

ด้วยแนวคิด “THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION: รื่นเริงมหาสงกรานต์ สานต่อตำนานมรดกโลก” เนรมิตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกับการละเล่นสาดน้ำ กับ Water Splash Landmark ท่ามกลางวัฒนธรรมไทย ภายใต้มาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย พร้อมเชิดชูเอกลักษณ์ไทยผสมผสานการละเล่นและวัฒนธรรมบันเทิงร่วมสมัย ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลกทุกเทศกาล อัดแน่นด้วยประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ระหว่างวันที่ 10-21 เม.ย. 2567

รัฐผนึกเอกชนบูมมหาสงกรานต์  กทม.คึกคักเงินสะพัด‘หมื่นล้าน’

“เทศกาลมหาสงกรานต์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย สำหรับปีนี้ มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ไอคอนสยามไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน ทำให้เกิดกระแสการจับจ่ายหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าสูงขึ้นกว่า 50%”

 

อีเวนต์เฉพาะแทรกงานสงกรานต์เพียบ!

นายเกรียงไกร กาญจนโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากการที่รัฐประกาศจัดงานสงกรานต์ 21 วัน ถือเป็นการนำกิจกรรมที่มีอยู่แล้วในแต่ละพื้นที่มามัดรวมกัน เช่น วันไหล และสงกรานต์พระประแดง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีอีเวนต์สงกรานต์ภาคเอกชนที่จัดยิบย่อยอีกจำนวนมากซึ่งจับตลาดเฉพาะหรือนิช มาร์เก็ตแทรกตัว ซึ่งเป็นงานที่ใช้เงินลงทุนสูง ผู้เข้าร่วมงานล้วนเป็นกำลังซื้อมหาศาล

สำหรับอีเวนต์สงกรานต์ที่เอกชนทุ่มทุนสร้างปี 2567 ยังทำให้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆและใช้เงินระดับหลักร้อยล้านบาท เช่น เอสทูโอ มิวสิคเฟสติวัล 2567 เทศกาลดนตรีฮิปฮอปใหญ่สุดในโลก Rolling Loud Thailand ซึ่งจัดขึ้นที่พัทยา เป็นต้น ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ

รัฐผนึกเอกชนบูมมหาสงกรานต์  กทม.คึกคักเงินสะพัด‘หมื่นล้าน’

“ปีนี้เงินสะพัดช่วงสงกรานต์แน่นอน อย่างน้อยเป็นงบประมาณจากภาครัฐที่ทุ่มลงไปราว 270 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นมา ส่วนเอกชนก็กลับมาจัดงานอย่างคึกคัก มีอีเวนต์ยิบย่อยแทรกตัวในงานใหญ่ เป็นงานที่ลงทุนมหาศาล และดึงดูดคนมีกำลังซื้อมโหฬาร ซึ่งในส่วนอีเวนต์เฉพาะสงกรานต์ปีนี้จึงคาดว่าเม็ดเงินสะพัดหลักพันล้านบาท ส่วนจำนวนงานที่จัดทั่วประเทศมีนับพันงานอย่างแน่นอน”

สงกรานต์ 21 วันเล่นใหญ่ปีหน้า

ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลประกาศให้เล่นสงกรานต์ 21 วัน ทำให้มีเพจดัง ต๋าข่า ที่มีผู้ติดตามกว่า 4 แสนราย ซึ่งแต่งตัว ออกมาเล่นสงกรานต์ในย่านเศรษฐกิจ แต่กิจกรรมต่างๆยังไม่เริ่ม นายเกรียงไกร ให้ความเห็นว่า การจัดสงกรานต์ปี 2567 ของภาครัฐเชื่อว่าเป็นการคิกออฟนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ส่วนการจัดเต็มคาดการณ์จะเห็นในปี 2568 อย่างอลังการงานสร้าง

ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคช่วงสงกรานต์มองพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยว จะเน้นไปเมืองหลัก ที่มีงานใหญ่ เล่นแล้วสนุก

“พฤติกรรมคนเที่ยวสงกรานต์ ต้องอยากไปเมืองใหญ่ ที่เล่นแล้วสนุก เช่น เชียงใหม่ เมืองรองที่จัดแข่งอาจไม่มีนักท่องเที่ยว ดังนั้นในการจัดอีเวนต์ เมืองต้องรู้จุดแข็งหรือโพสิชันตัวเอง ไม่ใช่สร้างงานเหมือนกันไปแข่งขัน”

รัฐผนึกเอกชนบูมมหาสงกรานต์  กทม.คึกคักเงินสะพัด‘หมื่นล้าน’

สงกรานต์ปี 66 มีงานขาดทุน สกรีนงานแกร่งรอด!

แหล่งข่าวจากวงการอีเวนต์ กล่าวว่า ปี 2566 อีเวนต์สงกรานต์ถือว่ามีปริมาณล้นตลาดหรือโอเวอร์ ซัพพลาย ผู้จัดหลายรายประสบภาวะขาดทุน เนื่องจากเป็นปีแรกที่สามารถกลับมาจัดอีเวนต์สงกรานต์ สาดน้ำกันได้เต็มรูปแบบ หลังเผชิญวิกฤติโควิด ภาพดังกล่าว ยังส่งผลถึงปี 2567 ที่ผู้อยู่รอด จะได้ไปต่อ ยิ่งกว่านั้น การจัดงานจะมีความยิ่งใหญ่อลังการมากกว่าเดิมด้วย

“ปีก่อนงานอีเวนต์สงกรานต์โอเวอร์ซัพพลาย ทำให้มีผู้จัดงานเจ๊งกันจำนวนมาก เพราะคนร่วมงานเท่าเดิม จากมี 2-3 งาน กลายเป็นมี 10 งาน ปีนี้งานจึงถูกสกรีน รายที่เจ๊งออกจากตลาด รายที่ไปต่อก็จัดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งจนถึงวันนี้ภาพรวมบรรยากาศสงกรานต์จึงยังไม่หวือหวา”