‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

วานนี้ (2 เม.ย.) 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง พร้อมด้วย 'สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล' รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล แสดงวิสัยทัศน์ 'IGNITE TOURISM THAILAND' จุดพลังการท่องเที่ยวไทย ปักหมุด 5 กลยุทธ์เคลื่อนสู่ 'ศูนย์กลางการท่องเที่ยว'

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฉายภาพวิสัยทัศน์ของนายกฯ ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยการขับเคลื่อนรายได้รวมการท่องเที่ยวของไทยให้มากขึ้นทุกปี! จากปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด ทำรายได้รวม 2.99 ล้านล้านบาท กระทั่งฟื้นตัวดีขึ้นปี 2566 มีรายได้รวม 2.09 ล้านล้านบาท เดินหน้าสู่เป้าหมาย 3.5 ล้านล้านบาท ในปี 2567 ตามโจทย์ใหญ่ของนายกฯ สอดรับการขับเคลื่อนสู่การเป็น “ศูนย์กลางการบิน” (Aviation Hub) ที่จะรองรับผู้เดินทางได้มากถึง 150 ล้านคนต่อปีในปี 2573

“ปี 2568 จะเป็นปีที่ปักหมุดการท่องเที่ยวไทยให้ปังกว่าเดิม ด้วยการเพิ่มมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยว และผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

หลังตกผลึกผลการประชุมระดมสมองจากทุกภาคส่วนใน “Workshop IGNITE Thailand’s Tourism” เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา  กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะจุดพลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยแนวคิด “Up Level” ผ่านประสบการณ์ที่เหนือกว่า พร้อม “Add Story” เพิ่มเรื่องราวมากกว่าที่เคยสัมผัส และ “Create Value” สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นจากความเป็นไทย ด้วย “5 กลยุทธ์หลัก” มัดใจนักท่องเที่ยว ให้ปี 2568 เป็นปีที่นักท่องเที่ยวจะประทับใจในทุกย่างก้าว ทุกประสบการณ์ที่ได้สัมผัส และสะดวกสบายในทุกทัชพอยต์ (Touch Point)

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

กลยุทธ์ที่ 1 “ประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าว” 

มุ่งยกระดับประสบการณ์ โปรโมตการท่องเที่ยวไทยทุกมิติ และสร้างความประทับใจตลอด “Customer Journey” ด้วยการสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยก่อนการเดินทาง (Before Trip) ให้ข้อมูลครบถ้วนหลากหลาย ทำโปรโมชันกับพันธมิตรให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ทุกมิติ และระหว่างการเดินทาง (During Trip) จะให้ข้อมูลสำคัญกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่บนเครื่องบิน เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการในสนามบิน สร้างความประทับใจด้วยมัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวที่มีมาตรฐาน ความพร้อมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกสถานที่ สร้างความน่าสนใจของเส้นทางการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาด พร้อมรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มโดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ (Tourism for All) 

สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงด้วย 1155 Call Center ซึ่งจะเป็น one-stop service เชื่อมต่อตำรวจท้องที่และหน่วยงานเกี่ยวข้อง และยกระดับ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) ในการคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยว

“ภายใน 3 เดือนนี้ จะอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องรอคิวนานที่สนามบิน ยกระดับมาตรฐานโรงแรมทั่วประเทศพร้อมโปรโมชันที่พัก เปิดมาตรการยกเว้นวีซ่า (Visa-Free) ให้หลากหลายประเทศ ยกระดับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ดูแลความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ”

และภายใน 6 เดือน จะปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม กฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การจัดเก็บภาษีนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมระดับโลกให้แล้วเสร็จ และอำนวยความสะดวกให้มีจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) ในหลายจุด ผ่านการร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าและผ่านตู้คีออสก์ (Kiosk)

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

 

กลยุทธ์ที่ 2 “5 สิ่งที่ต้องทำในประเทศไทย” (5 Must Do in Thailand)

นำร่องคัดสรรเอกลักษณ์ไทย หรือ “เสน่ห์ไทย” ด้วยการนำเสนอเรื่องราว (Story) ให้มากกว่าที่นักท่องเที่ยวเคยรู้จัก เพิ่มมูลค่าด้วยการนำจุดแข็งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย 5 สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัส ได้แก่ “Must Beat มวยไทย” เปิดประสบการณ์แม่ไม้มวยไทย 4 ภาค ต่อยอดสู่การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) ในฟิตเนส “Must Eat อาหารไทย” ต่อยอดครัวไทยสู่ครัวโลก นำเสนอ 77 อาหารถิ่น 77 ขนมไทย ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ “Must Seek วัฒนธรรมไทย” สร้างเรื่องราวบนเส้นทางศรัทธา วัฒนธรรมสายมูที่กำลังโด่งดัง “Must Buy ผ้าไทย” ร่วมทำโค-แบรนดิง (Co-branding) กับแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลกให้ผ้าไทยเป็นสินค้าแฟชันที่ทุกคนหลงใหล และ “Must See โชว์ไทย” นำเสนอทั้งรูปแบบไทยดั้งเดิมและไทยร่วมสมัย ให้เป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลก

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

 

กลยุทธ์ที่ 3 “เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว” 

เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียง กระจายนักท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคต่างๆ และเมืองน่าเที่ยว เช่น เส้นทาง Lanna Culture (เชียงใหม่ - ลำพูน - ลำปาง) โปรโมตท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อารยธรรมล้านนา นำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและประเพณีที่ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมกับโบราณสถาน โดยจะจัดเตรียมความพร้อม อัปเกรดที่พักให้มีความสะดวกสบาย ร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน พร้อมอัปเดตแพ็กเกจการเดินทางและโปรโมชันให้ตอบโจทย์ทุกเส้นทาง ตลอดจนอำนวยความสะดวกเส้นทางในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub ‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

 

กลยุทธ์ที่ 4 “ศูนย์กลางแห่งอาเซียน” (Hub of ASEAN)

เปิดประตูการท่องเที่ยวสู่อาเซียนเชื่อมโยงการเดินทางประเทศเพื่อนบ้านพันธมิตรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานให้การเดินทางท่องเที่ยวไร้รอยต่อ ให้อาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางเดียว หรือ “Single Destination” ด้วย “ASEAN Pass” จากความร่วมมือของพันธมิตรสายการบินในการออกแพ็กเกจตั๋วเครื่องบิน ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้สะดวก ประหยัด มีช่องทางชำระเงินให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายได้สะดวกด้วย “Cross Border QR Payment”

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

 

กลยุทธ์ที่ 5 “ศูนย์กลางแห่งอีเวนต์ระดับโลก” (World Class Event Hub)

ผลักดันให้เมืองไทยเป็นศูนย์รวม “ประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส” (World Class Experience) จากการนำอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาจัดแสดง ทั้งด้านดนตรี กีฬา อาหาร และไลฟ์สไตล์ ซึ่งอีเวนต์ที่คอนเฟิร์มว่าจัดแน่นอนแล้ว อาทิ Summer Sonic Bangkok 2024, KAWS Arts, Moto GP, Volleyball World Championship เป็นต้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศ

ด้านอีเวนต์ที่อยู่ระหว่างการเจรจานำมาจัดในไทย อาทิ Tomorrowland ในปี 2568, Bangkok Art Biennale ในไตรมาส 2 ปี 2567, Formula E ในไตรมาส 3 ปี 2568, Motocross ในปี 2568 นอกจากนี้ยังมีอีเวนต์อื่นๆ ที่ต้องการดึงเข้ามาจัดในอนาคต อาทิ Tennis WTA 500, Formula 1 Pylon Air Racing, Formula 1 และ Creamfields

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

 

'เศรษฐา' ประกาศคิกออฟ 'ปีท่องเที่ยวไทย 2568' อย่างยิ่งใหญ่

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ “Thailand Tourism 2025” ว่า ในฐานะคนไทยรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยเป็น “เวทีต้อนรับ” ผู้มาเยือนจากทั่วโลก โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมใจกันผนึกกำลังขับเคลื่อนให้ไทยเป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยว” ซึ่งเป็น 1 ใน 8 เสาหลักภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ “IGNITE THAILAND”

โดยทาง สุดาวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ “สุภาพสตรีตัวเล็ก ใจใหญ่” ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ซึ่งผ่านกระบวนการระดมความคิดเห็นที่ครบทุกอย่าง ตั้งแต่ก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวเข้ามา ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ เช่น แท็กซี่ รวมไปถึงมัคคุเทศก์ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไปจนถึงขั้นตอนการส่งนักท่องเที่ยวกลับไปด้วยความประทับใจ

“น่าเสียดายที่เรื่องการจัดอีเวนต์ระดับโลกบางงาน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในวันนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการเจรจา แต่ในช่วง 3-6 เดือนนี้ ผมมั่นใจว่าจะมีอีเวนต์ระดับโลกทยอยมาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างแน่นอน”

‘เศรษฐา’ คิกออฟยิ่งใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย 2568 เคลื่อน 5 กลยุทธ์สู่ Tourism Hub

ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็น “พี่ใหญ่” ด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศ CLMV เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนพูดเอง แต่ท่านผู้นำประเทศอื่นๆ ได้พูดไว้ โดยประเทศไทยพร้อมเป็น “ตัวเชื่อม” ในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยว ด้วยการเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง มุ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อคน เพิ่มวันพำนัก ยกระดับภาคการท่องเที่ยวของไทยไปสู่ “ระดับโลก” ให้ได้

“การท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ทำได้ทันที!” สามารถนำเงินเข้ากระเป๋าประชาชนได้ทันที ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ โดยหนึ่งในอีเวนต์ใหญ่ของไทยคืองาน “Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” ที่เริ่มขึ้นแล้วในเดือน เม.ย.

และขอ “คิกออฟ” ประกาศให้ “ปี 2568” เป็น “ปีการท่องเที่ยว” ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย!