อ้วยอันโอสถส่ง ‘ตรามังกรทอง’ ลงสนามยาดมสมุนไพร ดึง ‘นนกุล’ เป็นพรีเซนเตอร์

อ้วยอันโอสถส่ง ‘ตรามังกรทอง’ ลงสนามยาดมสมุนไพร ดึง ‘นนกุล’ เป็นพรีเซนเตอร์

“อ้วยอันโอสถ” แบรนด์ยาสมุนไพรไทยเก่าแก่ เปิดตัวยาดม “ตรามังกรทอง” ลงสนามยาดมสมุนไพร พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยขึ้น หวังบุกตลาดคนรุ่นใหม่ และดึงตัว “นนกุล” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก

KEY

POINTS

  • “อ้วยอันโอสถ” เปิดตัวยาดมสมุนไพร “ตรามังกรทอง” ลงแข่งในสนามยาดมสมุนไพร เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นหลัก
  • นอกจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยแล้ว แบรนด์ยังมองว่า “คุณภาพ” ที่มีมานานถึง 77 ปี คือจุดแข็งสำคัญ
  • อีกหนึ่งจุดเด่นของยาดมตรามังกรทองก็คือ การเชิญ “นนกุล” มารับตำแหน่งพรีเซนเตอร์คนแรก ตอกย้ำภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่

“อ้วยอันโอสถ” แบรนด์ยาสมุนไพรไทยเก่าแก่ เปิดตัวยาดม “ตรามังกรทอง” ลงสนามยาดมสมุนไพร พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยขึ้น หวังบุกตลาดคนรุ่นใหม่ และดึงตัว “นนกุล” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก

บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ถือเป็นแบรนด์ยาสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 77 ปี โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรมากมายหลายหมวด ทำให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้า ทั้งเรื่องของกลุ่มอายุ และกลุ่มความต้องการ เรียกได้ว่าเป็น “แบรนด์ยาสมุนไพร” ยุคใหม่ที่ก้าวทันในทุกกระแส โดยเฉพาะการสร้างสิ่งใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ

ล่าสุด “อ้วยอันโอสถ” เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาดมสมุนไพร “ตรามังกรทอง” พร้อมลงเล่นในตลาดยาดมสมุนไพร หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสตอบรับด้านยาดมสมุนไพรไทยเป็นอย่างมากจนอาจเรียกได้ว่าเป็นความ “ฟีเวอร์” โดยยาดมตรามังกรทองมาพร้อมกับสโลแกน “หอม เย็น ชื่นใจ” และเพื่อเป็นการเอาใจผู้บริโภครุ่นใหม่ ทางแบรนด์จึงคว้าตัวนักแสดงหนุ่ม “นนกุล ชานน สันตินธรกุล” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์

นางสาวนิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวว่า “อ้วยอันโอสถอยู่กับแวดวงสมุนไพรไทยมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ รุ่นคุณพ่อ และมาจนถึงรุ่นที่สาม ทำให้มีการถ่ายทอดความชำนาญในด้านสมุนไพรไทยมาจนถึงปัจจุบัน และที่ผ่านมามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งยาสมุนไพรในกลุ่มยาสามัญ ยาน้ำสำหรับเด็ก ยาสมุนไพรไทยอื่น ๆ รวมไปถึงเรายังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และวิตามิน

อ้วยอันโอสถส่ง ‘ตรามังกรทอง’ ลงสนามยาดมสมุนไพร ดึง ‘นนกุล’ เป็นพรีเซนเตอร์

นางสาวนิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด

บางคนอาจเริ่มสงสัยว่าในเมื่อ “อ้วยอันโอสถ” เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์สมุนไพรไทยมาอย่างยาวนาน ทำไมจึงตัดสินใจส่ง ยาดมสมุนไพร “ตรามังกรทอง” เข้าสู่ตลาดที่มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เจ้าตลาดไปจนถึงผู้เล่นรายใหม่

แท้จริงแล้วนอกจากแบรนด์หลักอ้วยอันโอสถแล้ว ยังมีแบรนด์ Herbal One ที่เกี่ยวกับอาหารเสริมและวิตามิน รวมถึงแบรนด์ มังกรทอง ที่เป็นยาอมสมุนไพรหลายรสชาติวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาทั่วประเทศ

ปัจจุบันตลาดยาดมมีมูลค่าสูงถึง 4,500 ล้านบาทต่อปี ทางอ้วยอันโอสถจึงมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดนี้ ยาดมสมุนไพร “ตรามังกรทอง” จึงเป็นสินค้าตัวใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ของ “อ้วยอันโอสถ” มีสรรพคุณสำคัญ คือ บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ 

ยาดมสมุนไพร “ตรามังกรทอง” เตรียมบุกตลาดคนรุ่นใหม่

ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะมองว่า “ยาดมสมุนไพร” มีภาพลักษณ์เป็นผลิตภัณฑ์ของคนวัยกลางคนขึ้นไป แต่ปัจจุบันก็เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยลง หรือที่เรียกว่า “คนรุ่นใหม่” ทำให้ยาดมสมุนไพรเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นและมีหลายแบรนด์ที่อยู่ในตลาด

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันยาดมสมุนไพรเป็นที่นิยมมากขึ้น และมีอยู่ในตลาดหลายแบรนด์ แต่สำหรับอ้วยอันโอสถที่นอกจากมีจุดเด่นเรื่องความแข็งแรงของแบรนด์ และความเชี่ยวชาญในเรื่องของสมุนไพรแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นการใช้กลยุทธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์ โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้า เจาะตลาดคนรุ่นใหม่” นางสาวนิชากล่าว

แน่นอนว่าสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่จะดึงคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจแบรนด์ได้ก็คือ “พรีเซนเตอร์” ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ทางแบรนด์จึงได้เชิญ “นนกุล” หรือ ชานน สันตินธรกุล ให้มาดำรงตำแหน่งพรีเซนเตอร์คนแรกของยาดม “ตรามังกรทอง” เพราะมองว่าไม่ได้เป็นแค่ภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่มีเสน่ห์เท่านั้น แต่ยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจในการทำงาน และเชื่อว่าความสดใสของนนกุลจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้ยาดมตรามังกรทองเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นได้ เพราะมังกรทองไม่ใช่แบรนด์ใหม่ เพียงแต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก

นอกจากนี้การเลือกพรีเซนเตอร์ตามสโลแกนอาจจะไม่ได้ขยายตลาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว แต่อาจไปจนถึงวัยทำงานที่เป็นฐานแฟนคลับของศิลปินอยู่แล้ว และที่สำคัญการมี “พรีเซนเตอร์” จะช่วยให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำได้ง่ายขึ้น เพราะในท้องตลาดนั้นหากเลือกใช้พรีเซนเตอร์ที่ใช่คนก็จะจำได้ แต่สิ่งที่จะทำให้แบรนด์ไปต่อได้ก็คือเรื่องของคุณภาพ

อ้วยอันโอสถส่ง ‘ตรามังกรทอง’ ลงสนามยาดมสมุนไพร ดึง ‘นนกุล’ เป็นพรีเซนเตอร์

ชานน สันตินธรกุล (นนกุล) และผู้บริหาร

“อ้วยอันโอสถ” และจุดแข็งด้านคุณภาพ

แน่นอนว่าจุดเด่นของ “อ้วยอันโอสถ” ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ “สมุนไพรไทย” และที่สำคัญเป็นการสืบทอดมาแบบรุ่นต่อรุ่น ตั้งแต่สมัยเป็นร้านขายยาเล็กๆ ที่อยู่เชิงสะพานพุทธ ไปสู่การเริ่มเปิดตัวโรงงาน และกลายเป็นโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่ผลิตและจัดจำหน่าย ตามร้านขายยากว่าหมื่นแห่ง และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ

สิ่งที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจที่จะทำให้แบรนด์อ้วยอันโอสถอยู่ต่อไป คือการรักษาองค์ความรู้โบราณที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น และการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาสินค้า โดยเน้นทางด้านคุณภาพและสรรพคุณของสินค้าเพื่อครองใจผู้บริโภคดร.ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าว

อีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้แบรนด์อยู่มาได้ถึง 77 ปี ก็คือ ความสามารถในการปรับตัวอย่างยั่งยืน สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือช่วงวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ. 2540 ที่ในช่วงนั้นมีแคมเปญ “สมุนไพรไทย กู้ภัย IMF” และในช่วงการระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าวัตถุในการผลิตฟ้าทะลายโจรจะพุ่งขึ้นไปถึง 10 เท่าตัว แต่ทางแบรนด์ก็ยังคงอัตราการผลิตและราคาไว้เท่าเดิมเพื่อให้ผู้บริโภคยังเข้าถึงได้

นอกจากนี้ในช่วงโควิดที่ผ่านมาผู้บริโภคหลายกลุ่มก็ได้ทำความรู้จักฟ้าทะลายโจรมากขึ้น ก็ทำให้ขยายฐานผู้บริโภคได้ ส่งผลต่อการกระตุ้นยอดขายและโอกาสในการเติบโตของแบรนด์

แม้จะเจอวิกฤติมามากกว่าหนึ่งครั้งแต่ทางอ้วยอันโอสถก็ยังพยายามทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าในช่วงอายุที่แตกต่างกันเพื่อเป็นการลงทุนให้แบรนด์เป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค

อ้วยอันโอสถส่ง ‘ตรามังกรทอง’ ลงสนามยาดมสมุนไพร ดึง ‘นนกุล’ เป็นพรีเซนเตอร์

ดร.ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด

ในส่วนของทิศทางการผลิตนั้น ดร.ชนรรค์ กล่าวเสริมว่า “อ้วยอันโอสถจะเน้นการสร้างสรรค์และคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากสมุนไพรไทยที่มักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ทันสมัย รสชาติไม่ดี ก็ต้องคิดว่าจะเอามาทำอย่างไรให้คนเข้าถึง เช่นยาอมสมุนไพร ยาแก้ไอน้ำเด็ก ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่ทำให้เด็กทานได้

สำหรับคำถามที่ว่า “ทำไมถึงผลิตยาดม ?” ดร.ชนรรค์ เล่าว่าเป็นช่วงที่ติดโควิดครั้งแรกแล้วหายารักษาตามอาการ จนไปเจอยาดมหลายยี่ห้อ ในตอนนั้นแม้จะยังไม่ได้กลิ่น แต่รู้สึกว่าได้รับความเย็น ลดการคัดจมูก เลยคิดว่าทำไมถึงไม่ทำดูบ้าง ซึ่งหลังจากทดลองประมาณ 2 เดือน ก่อนที่จะได้ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ส่งไปให้คนหลายกลุ่มทดลองใช้ก็รับคำติชมมาปรับปรุงจนกลายเป็นยาดมสมุนไพรตรามังกรทองในปัจจุบัน

ทั้งนี้ทางด้านภาพรวมของผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ผ่านมาในไตรมาสแรกจะเห็นได้ว่าลูกค้าเริ่มระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ยายังอยู่ในกลุ่มปัจจัย 4 ทำให้ไม่กระทบกับกำลังซื้อมากนัก แต่ก็อาจจะกระทบในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ในขณะเดียวกันก็จะมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางอ้วยอันโอสถเองก็เลือกที่จะขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ และใช้จุดแข็งด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ในการแข่งขันครั้งนี้ โดยข้อดีสำหรับผู้บริโภคก็คือจะมีตัวเลือกมากขึ้น

ท้ายที่สุดนี้จากข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ระบุว่า ตลาดสมุนไพรไทยมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท ขณะที่ Euromonitor เคยคาดการณ์ว่าปี 2569 ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 59,500 ล้านบาท ขณะที่ตลาดยาดมมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาทต่อปี