'เบียร์ลีโอ' ไม่หวั่นแบรนด์ใหม่ชิงตลาดเบียร์ ชูมาร์เก็ตแชร์ 50% ครองผู้นำ

'เบียร์ลีโอ' ไม่หวั่นแบรนด์ใหม่ชิงตลาดเบียร์ ชูมาร์เก็ตแชร์ 50% ครองผู้นำ

'เบียร์ลีโอ' แบรนด์เบียร์ ภายใต้บุญรอด เบอร์หนึ่งในตลาดเบียร์ไทยมูลค่ากว่า 2.60 แสนล้านบาท ไม่กังวลมีแบรนด์ใหม่เข้ามาชิงตลาด เปิดมาร์เก็ตแชร์ทะลุ 50% ครองเบอร์หนึ่ง ส่งแผน มิวสิคมาร์เก็ตแบบเข้มข้นทั้งปี

ส่องสมรภูมิตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในประเทศไทยร้อนแรง โดยเฉพาะกลุ่มเบียร์ที่มีมูลค่ากว่า 2.60 แสนล้านบาท ภายหลังมีแบรนด์น้องใหม่ เข้ามาร่วมชิงตลาด ทำให้ภาพรวมตลาดเบียร์ของประเทศไทยร้อนระอุขึ้นอีกหลายด้าน

หากประเมินตลาดรวมเบียร์มูลค่ากว่า 2.60 แสนล้านบาทในปีก่อน แบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งการตลาด มากที่สุดคือ ลีโอ ด้วยส่วนแบ่ง 50% รองลงมา ช้าง ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 32% และ สิงห์ ประมาณ 15% ตามการประเมินของ นีลเส็น

 

“ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล” Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ฉาพภาพตลาดรวมของเบียร์ในที่ผ่านมามีการขยายตัวในระดับหลักเดียว แต่ในการผลิตรวมลดลงประมาณ 4% เนื่องจากช่วงสองปีก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตเบียร์ในตลาดมีการปรับขึ้นราคาไป ทำให้เอเยนต์สั่งซื้อสินค้าไว้จำนวนมาก ทำให้ปีต่อมาการผลิตในตลาดรวมจึงลดลง แต่ความต้องการซื้อในตลาดเพิ่มขึ้นประมาณ 3% 

หากประเมินภาพรวมตลาดเบียร์ สำหรับ เบียร์ลีโอ มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 50% ในปีก่อน เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดเบียร์มาร่วม 17 ปีแล้ว มาจากการแบรนด์ที่มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้มาตรฐาน การจัดทำแผนการตลาดที่ตรงใจกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

ลีโอ ส่งมิวสิคมาร์เก็ตติ้งรุกตลาดเข้มทั้งปี

ทั้งนี้หากประเมินตลาดรวมในปี 2567 มีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อน ได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย ที่มีการประเมินว่าจะถึงระดับ 36 ล้านคน รวมถึงการมีเทศกาลสำคัญที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายกัน รวมถึงเทศกาลสงกรานต์ ช่วยกระตุ้นตลาดให้คึกคักมากขึ้น

แนวทางรุกทำตลาดของแบรนด์ลีโอในปี 2567 ได้วางงบการตลาด เฉพาะด้านมิวสิค มาร์เก็ตติ้งไว้ที่ 150 ล้านบาท แบ่งเป็น งบกิจกรรมด้านออนไลน์ประมาณ 20-30 ล้านบาท โดยจะเป็นกิจกรรมออนกราวด์ ทั้งการจัดการลีโอ เฟสท์ รวมประมาณ 10 ครั้ง ในทั่วประเทศ คาดว่าจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้ามาร่วมประมาณงาน 1,000 คนจนถึงกว่า 1 หมื่นคน พร้อมได้วางแนวทางจัดกิจกรรมผ่านร้านค้าผับ บาร์ (ออนพรีมิส) รวมประมาณกว่า 400 ครั้งทั่วประเทศ ทั้งนี้กิจกรรมด้านมิวสิคมาร์เก็ตติ้งที่ได้จัดตลอดปี จะสูงถึงจากปีก่อนประมาณ 50%

ทั้งนี้ได้ร่วมดึง 3 ศิลปินยอดนิยมในประเทศไทยกับ อิ้งค์ วรันธร – Three Man Down – ไททศมิตร โดยเป็นศิลปินที่มีคาแรกเตอร์แตกต่างกัน มาร่วมจัดกิจกรรมมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ทั้งออนกราวน์และออนไลน์แบบทั่วประเทศ รวมทั้งนำเสนอเพลง “ไปด้วยกันนะ” มารีอเรนจ์เป็น เพลงธีมของปีนี้ และจัดทำมิวสิควีดีโอ ร่วมนำเสนอ ต่อยอดแคมเปญอย่างต่อเนื่อง

“ลีโอ เป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมาร่วม 26 ปีแล้ว กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่ของแบรนด์ ในปัจจุบันก็มีอายุมากขึ้นแล้ว ทำให้แบรนด์ต้องเน้นจัดกิจกรรมเข้มข้นในทุกปี เพื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้สนใจในแบรนด์”

นอกจากนี้ เบียร์ลีโอ สนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาสู่ตลาด โดยอยู่ระหว่างการพัฒนา มีโอกาสเปิดตัวเข้ามาทำตลาดภายในปีนี้

ลีโอ มองมีคู่แข่งท้าชิง หนุนตลาดตื่นตัว-ย้ำไม่เคยปิดกั้น

“ธิติพร" ประเมินถึง การมีแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดว่า มีผลทำให้แบรนด์ที่อยู่เดิมต้องมีความตื่นตัวและทำงานอย่างรอบคอบมากขึ้น และในอีกด้านจะร่วมกระตุ้นทำให้ตลาดเบียร์โดยรวมให้มีการเติบโตมากขึ้น

ส่วนที่มีกระแสข่าวมีบางแบรนด์การปิดกั้นช่องทาง ออนพรีมิส ไม่น่าจะเป็นในแบบนั้น เพราะทุกแบรนด์ต่างมีโอกาสในการทำตลาดและขยายช่องทางนี้ โดยภาพรวมช่องทางออนพรีมิสในปีนี้มีร้านค้ากลับมาเปิดให้บริการในทั่วประเทศจำนวนมาก ตามแรงหนุนของตลาดท่องเที่ยวที่กลับมาขยายตัว ขณะที่ ลีโอ เป็นแบรนด์ผู้นำและอยู่ในตลาดมานาน จึงได้ข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าต่างๆ ในช่องทางนี้อยู่นี้แล้ว รวมถึงแบรนด์เบอร์อื่นๆ ในตลาด จะได้ข้อเสนอต่างๆ ที่แตกต่างกันไป 

ทั้งนี้จากแผนที่วางไว้ ประเมินว่าในสิ้นปีนี้ 2567 ลีโอ ยังสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ที่ 50% อยู่อันดับหนึ่งในตลาดต่อไป โดยในช่วงปีที่ผ่านมา สร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ล้านลิตร สัดส่วนยอดขายมาจาก ออนพรีมิส 15% และออฟพรีมิส 85% ซึ่งลีโอ เป็นเบียร์ในตลาดแมส ทำให้สัดส่วนยอดขายแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด