ทำไม ‘ท็อปส์’ เร่งเกมโตทางลัดสู่ 'แฟรนไชส์' ครั้งใหญ่!

ส่องภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไทยในปี 2567 ที่มีมูลค่ากว่า 4.4 ล้านบาท คาดว่าจะขยายตัว 3-5% ตามการประเมินของ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ประเมินตลาดในช่วงนี้มีความคึกคัก จากการรุกขยายธุรกิจของยักษ์ใหญ่ค้าปลีก กระตุ้นสมรภูมิค้าปลีกให้ร้อนแรง โดยกลุ่มเซ็นทรัล จาก บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) วางแผนใช้งบ 2.2-2.4 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจค้าปลีกในเครือใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ทั้ง กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฟู้ด กลุ่มฮาร์ดไลน์ กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้

หากประเมินกลุ่มธุรกิจที่มาแรงและมีแนวโน้มขยายตัวสูงกับกลุ่มฟู้ดของ เซ็นทรัลรีเทล สะท้อนได้จากผลการดำเนินของกลุ่มฟู้ดในปีก่อน 2566 อยู่ที่ 8.51 หมื่นล้านบาท เติบโต 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสาขาในไทย ทั้งการเปิดสาขาใหม่ ยอดขายในตลาดท่องเที่ยวที่ขยายตัว การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ (รีแบรนด์ดิ้ง) ของท็อปส์ ทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย

 

ในปีนี้ เซ็นทรัลรีเทล ได้วางแผนขยายธุรกิจในกลุ่มฟู้ดกับ โก โฮลเซลล์ GO Wholesale) รวมประมาณ 7-8 สาขา และ การขยาย ท็อปส์ (Tops) เปิดเพิ่ม รวม 10 สาขา

ล่าสุด ท็อปส์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้ประกาศโมเดลธุรกิจสู่แฟรนไชส์ครั้งใหญ่ในรอบปี กับ ท็อปส์เดลี่ “มินิซูเปอร์มาร์เก็ต” หัวหอกในการเร่งขยายสาขาครั้งสำคัญในรอบปี

 

หากประเมินภาพรวมของ ท็อปส์ มีสาขาในไทยรวมใกล้เคียงที่ 700 สาขา มีโมเดลหลากหลายทั้ง ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เน้นสินค้ากลุ่มพรีเมียมและนำเข้าจากต่างประเทศ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด เน้นสินค้าพรีเมียมที่คัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งผลิตโดยตรง สำหรับคนรักอาหารและชื่นชอบการปรุงอาหาร และ ท็อปส์ ที่มี ท็อปส์ เดลี่ เน้นสินค้าที่หลากหลาย เจาะกลุ่มครอบครัวและคนรุ่นใหม่

โมเดลแฟรนไชส์ของ ท็อปส์ ที่แตกต่าง 

การรุกโมเดลแฟรนไชส์ ของท็อปส์ เดลี่ ได้วางกลยุทธ์ความแตกต่างกับรูปแบบแฟรนไชส์กับการการันตีรายได้เป็นเวลาสองปีให้แก่ผู้ที่เข้ามาลงทุน ผ่านการนำเสนอ 2 แบบ ให้เลือก ได้แก่

• แบบแรก สำหรับคนที่มีที่ของตัวเองและอาคาร ขนาดกว่า 200 ตร.ม. ใช้เงินลงทุน เป็นเวลามากกว่า 9 ปี ใช้เงินลงทุน 4 - 6 ล้านบาท การันตีรายได้ 150,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา
• แบบที่สอง สำหรับคนที่ไม่มีที่ดิน แต่สนใจที่จะเข้าสวมสิทธิ์บริหารร้านท็อปส์ เดลี่ ที่เปิดอยู่เดิม ใช้เงินลงทุน 1.07 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมการันตีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา เรียกว่าผู้ลงทุนสามารถเลือกทำเลที่สนใจ เข้ามาร่วมเป็นผู้ประกอบการได้ทันที

ทางด้าน “เมทินี พิศุทธิ์สินธพ” รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ให้เหตุผลสำคัญในการขยายธุรกิจโมเดล มินิซูเปอร์มาร์เก็ต มาสู่ตลาด เพื่อสร้าง Growth Engine ให้กับธุรกิจ ตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของบริษัท ผ่านกลยุทธ์ การเป็นผู้นำร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตทุกฟอร์แมท ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์

พร้อมประเมินว่า ท็อปส์ เดลี่ จะช่วยทำให้จำนวนของแฟรนไชส์ ให้เป็นสัดส่วน 45% จากเดิม 30% ของสาขาทั้งหมด รองรับการขยายตัวของธุรกิจมินิซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยที่มีทิศทางขยายตัวดีต่อเนื่อง

การเร่งโตจากภายนอก 

การวางหมาก ท็อปส์ สู่ แฟรนไชส์ ด้วยการนำเสนอโมเดลใหม่นี้ จึงเป็นอีกแผนในการเร่งโตของธุรกิจครั้งใหม่ สู่การเติบโตแบบทางลัด จากที่ผ่านมาเป็นการขยายแบบเดิมที่เป็นการลงทุนเอง "โตจากภายใน อาจช้าเกินไป"

แม้ว่า การรุกท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต โมเดลสาขาที่ลดขนาดจาก ซูเปอร์มาร์เก็ต ลงมา เป็นค้าปลีกไซส์เล็ก สำหรับ ซูเปอร์มาร์เก็ต เน้นกลุ่มสินค้าอาหารสดเป็นหลัก อย่างเนื้อสัตว์และผัก และผลไม้ สำหรับการปรุงอาหาร  

 

ขณะที่ ท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต มีขนาดพื้นที่ 100 – 200 ตร.ม. จึงเน้นนำเสนอสินค้าอาหารพร้อมรับประทาน ขนมและเครื่องดื่ม สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส เรียกว่า มีโมเดลใกล้เคียงกับ ร้านสะดวกซื้อเช่นกัน

ในปัจจุบัน ท็อปส์ เดลี่ มีสาขารวมทั้งหมด 515 สาขา ได้นำเสนอในโมเดล Joy-venience Store ในแนวคิด "Every Day for Everyone" ศูนย์รวมแห่งความสุขที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ให้กับลูกค้าในทุกวัน เป็นแนวรุกธุรกิจครั้งใหญ่นับจากนี้ไป โดยการโมเดลใหม่นี้เกิดขึ้นภายหลังที่มีการแปลงสาขาของ ร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่ มาร์ท สัญชาติญี่ปุ่น ไปสู่ท็อปส์ หลังจากปิดฉากแฟมิลี่ มาร์ทในประเทศไทย ในตลาดร้านสะดวกซื้อช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา 

 

เซเว่น อีเลฟเว่น รุกเปิดใหม่ 700 สาขา

แต่หากมาประเมินเจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศ อย่าง เซเว่น อีเลฟเว่น โดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่มีสาขาในประเทศไทย ณ สิ้นปี 2566 รวมประมาณ 14,545 สาขาทั่วประเทศ

ได้มีการประกาศแผนในปี 2567 พร้อมขยายเปิดสาขาใหม่ 700 สาขา ใกล้เคียงกับปีก่อน ด้วยงบลงทุนตลอดปีประมาณ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงสาขา เปิดสาขาใหม่ และลงทุนเทคโนโลยีและระบบต่างๆ

อีกทั้งแนวทางการลงทุนเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ของเซเว่น อีเลฟเว่น รูปแบบ การได้รับสิทธิการบริหาร (Store Partner) แบ่งเป็น 2 แบบ

• รูปแบบที่หนึ่ง ลงทุน 1.48 ล้านบาท รูปแบบที่สอง ลงทุน 2.63 ล้านบาท โดยรูปแบบแรก มีระยะเวลาการทำสัญญา 6 ปี
• รูปแบบที่สอง ลงทุน 2.63 ล้านบาท มีระยะเวลาการทำสัญญา 10 ปี

ทั้งสองรูปแบบวางแนวทางให้แก่ลูกค้าเข้ามาลงทุนที่แตกต่างกัน 

ต้องติดตามการรุกครั้งใหญของ ท็อปส์ เดลี่ กับแฟรนไชส์ จะพลิกโฉมตลาด ร้านมินิซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อของประเทศไทยอย่างไร รวมถึงโมเดลแบบใดที่คนไทยจะให้การตอบรับมากที่สุด เนื่องจากสมรภูมินี้ ทำเล และ สินค้าเป็นตัวแปรที่สำคัญ!