‘เดกซ์’ ผนึกพลัง ‘ไอดอลแฟคทอรี่’ ลุยคอนเทนต์ ‘ซีรีส์วายไทย’ เจาะตลาดญี่ปุ่น

‘เดกซ์’ ผนึกพลัง ‘ไอดอลแฟคทอรี่’ ลุยคอนเทนต์ ‘ซีรีส์วายไทย’ เจาะตลาดญี่ปุ่น

“เดกซ์” ผู้นำเข้ามังงะ การ์ตูน ซีรีส์ คาแร็กเตอร์ฯ คอนเทนต์ลิขสิทธิ์จากประเทศญี่ปุ่นยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ได้เวลาที่คอนเทนต์ไทยจะตีตลาดแดนอาทิตย์อุทัย ตอบโจทย์คนดูบ้าง อย่างน้อยเป็นการปูทางสร้างรายได้เข้าประเทศ ถือเป็นโจทย์สำคัญในการเคลื่อนธุรกิจ ขยายตลาดปี 2567

ล่าสุด “เดกซ์” ผนึก “ไอดอลแฟคทอรี่” เพื่อส่งออกคอนเทนต์ “ซีรีส์วาย” ผ่าน “บีเวล”(Be Whale) ที่จะเบ่งพลังอำนาจละมุนหรือ Soft Power ของไทย ทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ คอนเสิร์ต การจัดแฟนมีตติ้ง การโปรโมทและจัดจำหน่ายสินค้าของนักแสดง ศิลปิน เจาะกลุ่มเป้าหมาย ฐานแฟนชาวญี่ปุ่น

กฤษณ์ สกุลพานิช ประธานบริหาร บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเคยสร้างสรรค์คอนเทนต์การ์ตูนสัญชาติไทยอย่าง “เดอะ สลัด”(The Salads)ไปฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นราว 10 ปีก่อน ซึ่งขณะนั้นเป็นมือใหม่มากในตลาด แม้เนื้อหาดี แต่โปรดักชัน การตลาดอาจยังไม่แกร่งจนจะในคนดูชาวญี่ปุ่นที่มีคอนเทนต์ดังกล่าวมากมายและขึ้นหิ้ง

ทว่า ประสบการณ์ในอดีต ทดลองทำตลาด ทำให้ได้บทเรียนถอยมาตั้งหลัก เพื่อปรับตัว พัฒนาแนวทางการลุยตลาดต่างประเทศครั้งใหม่ โดยเฉพาะการเห็นโอกาส “ซีรีส์วาย” ในการเขย่าโลกคอนเทนต์ประเทศญี่ปุ่น ที่มีความต้องการรับชมหรือดีมานด์ แต่การสร้างสรรค์เนื้อหาหรือซัพพลายยังไม่มากนัก

‘เดกซ์’ ผนึกพลัง ‘ไอดอลแฟคทอรี่’ ลุยคอนเทนต์ ‘ซีรีส์วายไทย’ เจาะตลาดญี่ปุ่น

“ตลาดญี่ปุ่นเปิดรับซีรีส์วายมากสุดในเอเชีย แต่ซัพพลายยังไม่มาก เนื่องจากผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ยังไม่ลงสนาม เพราะต้องค่อยๆดูเทรนด์ว่าจะเป็นไปทิศทางใด”

“ขุมทรัพย์ทางการตลาด” คนดูมีไม่น้อย ส่วนหนึ่งเพราะคนญี่ปุ่นเป็นโสดกันมากขึ้น ทำให้มีอิสระทางความรัก มีทางเลือก มีพลังล้นเหลือในการรักศิลปิน ไอดอลคนโปรด เหมือนรักน้องหมาแมวจนเป็นทาส บริษัทจึงตั้ง “บีเวล” เพื่อจัดทัพลุยตลาด ที่มาพร้อมจิ๊กซอว์สำคัญ คือการร่วมมือกับ “ไอดอลแฟคทอรี่” เพื่อผลิตซีรีส์วายป้อนคนดูผ่านแพลตฟอร์มรับชมวิดีโอออนไลน์หรือโอทีที “Telasa” ในเครือสื่อยักษ์ใหญ่ “TV Asahi” เพื่อออกอากาศคู่ขนานกับประเทศไทย(Simulcast)

เป้าหมายการรุกตลาดครั้งนี้ เดกซ์ ต้องการให้คอนเทนต์ไทยสร้างรายได้จากต่างประเทศสัดส่วน 50% จากปัจจุบันน้อยมาก และการนำเข้าลิขสิทธิ์จากต่างประเทศยังเป็นรายได้หลัก

“ความท้าทายในการส่งออกคอนเทนต์ไทยไปบุกตลาดญี่ปุ่น คือความต่อเนื่อง เพราะยังมีคอนเทนต์ชาติอื่นอย่างจีน เกาหลี ไปบุกญี่ปุ่นเหมือนกัน เราต้องพัฒนาเนื้อหาป้อนคนดูไม่ให้ขาดช่วง แต่การได้ไอดอลแฟคทอรี่มาเป็นพันธมิตร และมีคอนเทนต์ดี จะช่วยเร่งสปีดในญี่ปุ่นได้ เพราะเรายังมีพาร์ทเนอร์ 5 บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นที่จะต่อยอด ไม่เพียงแค่ทีวีอาซาฮีเท่านั้น”

‘เดกซ์’ ผนึกพลัง ‘ไอดอลแฟคทอรี่’ ลุยคอนเทนต์ ‘ซีรีส์วายไทย’ เจาะตลาดญี่ปุ่น

ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา ประธานกรรมการ บริษัท ไอดอลแฟคทอรี่ จํากัด กล่าวว่า นอกจากภาครัฐต้องการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้ผงาดในเวทีโลก เพื่อสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ “ไอดอลแฟคทอรี่” เป็นอีกผู้ผลิตคอนเทนต์ที่อยากเห็นประเทศไทย สามารถดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศกลับเข้ามาเช่นกัน ในฐานะที่เป็นหนึ่งในฟันเฟืองของอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง บริษัทจึงเดินหน้าผลิต “ซีรีส์วาย” เสิร์ฟคนดูทั่วโลก โดยมี “ญี่ปุ่น” เป็นหนึ่งในหมากรุกสำคัญ

ทั้งนี้ การกรุยตลาดต่างแดนลำพังไม่ง่าย จึงต้องพึ่งพลังพันธมิตรอย่าง “บีเวล” ของกลุ่มเดกซ์ ที่แข็งแกร่งการทำธุรกิจกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตามแผน นอกจากผลิตซีรีส์วายออกอากาศคู่ขนานกับประเทศไทย จะมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ เพื่อสร้างเม็ดเงินกลับสู่ประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นจัดแฟนมีตติ้ง การนำสินค้า ของที่ระลึกไปตอบสนองกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น 

“ต้องการผลักดันเศรษฐกิจ ทำให้จีดีพีไทยเติบโต จากสินค้าและบริการของอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะซีรีส์วาย ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่มีมูลค่ามหาศาล และซีรีส์วายของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับโลกด้วย เราจึงต่อยอดจุดแข็งด้านโปรดักชัน มีศิลปิน การสร้างสรรผลงานซีรีส์วาย และซีเนอร์ยีกับบีเวล ป้อนคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูสีฟเพื่อตอบโจทย์คนดูชาวญี่ปุ่น”

สำหรับซีรีส์วายที่จะเจาะตลาดญี่ปุ่น ได้แก่ ทฤษฏีสีชมพู (GAP The series) ลางสังหรณ์ (The Sign) รวมถึงซีรีส์ยูริ(Girl' s Love)เรื่องปิ่นภักดิ์ เป็นต้น

‘เดกซ์’ ผนึกพลัง ‘ไอดอลแฟคทอรี่’ ลุยคอนเทนต์ ‘ซีรีส์วายไทย’ เจาะตลาดญี่ปุ่น

ศุภพงษ์ กล่าวอีกว่า 4-5 ปีก่อน ซีรีส์วายยังไม่เติบโตนัก มีคอนเทนต์ออกสู่ตลาดไม่ถึง 10 เรื่องต่อปี ในประเทศไทยออกอากาศหลัง 23.00 น. ซึ่งไม่ใช่เวลาไพรม์ไทม์(18.00-22.59 น.) แต่ปัจจุบันมีผู้จัดเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และผลิตซีรีส์วายป้อนคนดู 100-200 เรื่อง และออกอากาศไพรม์ไทม์เพิ่มขึ้น นักแสดง ไอดอลสายวายมีงานพรีเซ็นเตอร์ได้สัดส่วน 50% ของตลาด ฯ สะท้อนกระแส การยอมรับและมีฐานแฟนจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไอดอลแฟคทอรี่ วางแผนจะผลิตคอนเทนต์ปีนี้ 3-4 เรื่อง ภายใต้งบลงทุนหลัก “ร้อยล้านบาท”