AWC โหม ‘สงกรานต์’ ปลุกทราฟฟิก ‘เอเชียทีค’ ลุยเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ Q4/67
เทศกาล 'สงกรานต์' เรือธงเฟสติวัลของภาคการท่องเที่ยวไทยในปี 2567 ถูกสปอตไลต์ฉาย จับมูฟเมนต์ภาครัฐและเอกชน ว่าจะรวมพลังโปรโมตบิ๊กอีเวนต์นี้อย่างไร ให้ติดอันดับ TOP 10 ของโลกตามหมุดหมายใหญ่ของรัฐบาล!
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้เทศกาลสงกรานต์เป็น “งานเทศกาลระดับโลก” จัดยาว 21 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-21 เม.ย. ทาง AWC เตรียมโปรโมตความสนุกของเทศกาลสงกรานต์ใน “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์” ตลอดเดือน เม.ย. ด้วยการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตร จัดกิจกรรมมากมาย ไฮไลต์คือการจัดคอนเสิร์ต กิจกรรมเล่นสาดน้ำ และนำเครื่องเล่นใหม่ บ้านลมขนาดใหญ่มาให้บริการ รองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
AWC คาดว่าจากการโปรโมตงานสงกรานต์ที่เอเชียทีคในปีนี้ จะมีทราฟฟิกนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงเทศกาลฯ กว่า 80,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติในยุคหลังโควิดระบาดซึ่งมีจำนวนคนมาเที่ยว 30,000-50,000 คนต่อวัน ยังต่างจากเมื่อปี 2562 ยุคก่อนโควิด ที่มีเข้ามามากถึง 100,000 คนต่อวัน
“ทั้งนี้ เรามีแผนเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่แบบถาวรในเอเชียทีคเพิ่ม เตรียมให้บริการในไตรมาส 4 ปีนี้ รับช่วงไฮซีซัน”
ด้านแนวโน้มอัตราการเข้าพักของโรงแรมในเครือ AWC ทั้งหมด 22 แห่ง คิดเป็นจำนวนกว่า 6,029 ห้องพัก เริ่มเห็นยอดจองห้องพักช่วงเทศกาลสงกรานต์มากขึ้น หลังได้แรงส่งที่ดีตั้งแต่ต้นปี มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 80% เฉพาะกลุ่มโรงแรมด้านไมซ์ (MICE Hotels) มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 90%
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราการเข้าพักจะดีต่อเนื่องไปจนถึงเดือน มี.ค. ซึ่งปกติจะต้องชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่พบว่าตัวเลขยังดี จึงประเมินว่าแรงส่งดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจของ AWC มีผลการดำเนินงานที่ดีและแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 2-4 ของปีนี้ หลังจากปี 2566 โรงแรมในเครือ AWC ทำอัตราการเข้าพักเฉลี่ยดีที่ 60%
“จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการโปรโมตภาคท่องเที่ยว เรามองว่าสามารถเติมเรื่องแพสชัน (Passion) ประสบการณ์ และความสนุกเข้าไปได้ เสริมทัพจุดแข็งของประเทศไทยที่โดดเด่นเรื่องแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและคนไทยอยู่แล้ว หลังจากรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) แก่ตลาดเป้าหมาย ถือว่าเป็นตัวช่วยเรื่องการท่องเที่ยวอย่างมาก เห็นได้จากกระแสการเดินทางเข้าไทยในไตรมาส 1 ได้นักท่องเที่ยวมาช่วยเสริมอัตราการเข้าพักอย่างมาก”
ส่วนปัญหาฝุ่นพิษ “PM 2.5” เฉพาะที่เชียงใหม่ AWC มีโรงแรมให้บริการอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง, เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล และ มีเลีย เชียงใหม่ แม้ปัจจุบันจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้โดยตรง ไม่พบยอดการยกเลิกห้องพัก แต่มองว่าจำเป็นต้องหา “โซลูชัน” รับมือในระยะยาว ด้วยโมเดลการเติมออกซิเจนภายในอาคารซึ่งกำลังศึกษาอยู่
วัลลภา กล่าวเพิ่มเติมว่า วานนี้ (18 มี.ค.) AWC เปิดตัว “Pikul” (พิกุล) แอปพลิเคชันใหม่ล่าสุดที่นำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ครบครันไม่เหมือนใคร นับเป็นความมุ่งมั่นของ AWC ที่ตั้งใจผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสุขรวมไลฟ์สไตล์หลากหลายทั่วประเทศ ภายใต้โมเดล “FAMILY IN THAILAND FOR ALL” หรือครอบครัวในประเทศไทยของทุกคน ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) ของสินค้าและบริการด้านไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย
สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการร่วมสร้างประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ตอบโจทย์ประสบการณ์ “Omni-experience” ไลฟ์สไตล์แห่งความสุขให้กับคนไทยและนักเดินทางจากทั่วโลกผ่านแอปพลิเคชัน Pikul
โดยเฟสแรกเริ่มจากบริการห้องพัก ห้องอาหาร สปาและเวลเนส หลากหลายโรงแรมในเครือที่ AWC เป็นเจ้าของโครงการกว่า 22 แห่ง และห้องอาหารชั้นนำในเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วไทยอีกกว่า 80 แห่ง รวมถึงโครงการโรงแรม ห้องอาหาร และบริการด้านไลฟ์สไตล์สุดพิเศษจากเหล่าพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการทั่วประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อผสานชีวิตไลฟ์สไตล์แห่งความสุขของทุกคนเข้ากับคุณสมบัติอันโดดเด่นของ Pikul ได้อย่างลงตัว มอบประสบการณ์ความสุขอย่างไร้รอยต่อในประเทศไทยให้กับทุกคนจากทั่วโลก
