'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์' ทุ่ม 3,000 ล้านบาท สยายปีกในประเทศ-ต่างประเทศ

'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์' ทุ่ม 3,000 ล้านบาท สยายปีกในประเทศ-ต่างประเทศ

'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์' แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทย ประกาศแผนรุกตลาดครั้งใหญ่หลังโควิดผ่านพ้น วางงบ 3,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ รักษาเบอร์หนึ่งในตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ท่ามกลางแบรนด์ต่างชาติพาเหรดเข้ามารุกในไทย

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของตกแต่งบ้าน รวมถึงผู้ให้บริการพื้นที่เช่า ภายใต้โครงการ The Walk, Little Walk และ Index Mall เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในช่วง 3 ปีนับจากนี้ เตรียมใช้งบลงทุนรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศ หรือในแต่ละปีใช้งบไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจนับจากนี้ โดยวางแผนเปิด อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาใหม่ 1-2 สาขาต่อปี ส่วนต่างประเทศจะมุ่งเปิดตามโอกาสที่เหมาะสม ผ่านการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศ กำหนดในรูปแบบแฟรนไชส์

สำหรับในปี 2567 เตรียมงบ 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ นับเป็นการกลับมาขยายธุรกิจครั้งใหญ่นับตั้งแต่เกิดโควิด โดยวางแผนขยาย Little Walk จำนวน 1-2 สาขา ได้แก่ สาขารัตนาธิเบศร์ ใช้งบ 550 ล้านบาท มีพื้นที่ขนาด 12 ไร่ ประกอบด้วย อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ขนาด 6,340 ตร.ม. และพื้นที่ร้านค้าเช่า 10,100 ตร.ม. พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสที่สี่ของปีนี้  

พร้อมกันนี้มีแผน รีโนเวทสาขาเดิมด้วยดีไซน์ใหม่ 1-2 สาขา ได้แก่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ และอุดรธานี

รวมถึงมีโมเดลใหม่กับ “DecorScape” วางให้เป็น ไลฟ์สไตล์มอลล์ ที่มีดีไซน์ โมเดิร์น ลักชัวรี เพื่อให้เป็นแหล่งช้อปแห่งใหม่ใจกลางทองหล่อ ใช้งบประมาณร่วม 150 ล้านบาท รูปแบบอาคาร 3 ชั้น มีพื้นที่ขนาด 3,000 ตร.ม.

สำหรับสาขาต่างประเทศในปีนี้วางแผนเปิดเพิ่มอีก 4 สาขา ที่เวียดนาม 2 สาขา เมืองโฮจิมินห์ และเมียนมาร์ 1 สาขา เมืองมัณฑะเลย์ และได้เข้าไปขยายตลาดไปยังอินเดีย ที่เมืองปุเณ เป็นครั้งแรก ผ่านพาร์ทเนอร์ในการขยายธุรกิจ รวมถึงสนใจขยายการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่โซนตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ และ ซาอุดิอาระเบีย ส่วนในปัจจุบันขยายไปแล้ว 12 สาขา ใน 6 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม 2, เมียนมาร์ 4, ลาว 1, กัมพูชา 2,  เนปาล 2 และ มัลดีฟส์ 1 สาขา 

 

อีกไฮไลต์โมเดลสาขาใหม่ กับการเปิด อีโครีเทล กับ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาสระบุรี วางคอนเซ็ปต์สาขาในรูปแบบใหม่ ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานรายแรกของธุรกิจค้าปลีกไทยและรายแรกในภูมิภาคอาเซียน มีพื้นที่กว่า 10 ไร่ ใช้งบกว่า 170 ล้านบาท มีแผนเปิดในไตรมาสแรกของปี 2568 

\'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์\' ทุ่ม 3,000 ล้านบาท สยายปีกในประเทศ-ต่างประเทศ

แผนกลยุทธ์ของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จะเดินหน้า “INDEX NEXTPERIENCE & BEYOND + SUSTAINABLE FUTURE”  เป็นนโยบายและกรอบแผนงานภายใน 3 ปีนับจากนี้ โดยยึดแนวคิด Triple Bottom Line สูตร 3P Performance - People - Planet เพื่อร่วมผลักดันองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ผสมผสานด้วยการดำเนินงานใน 5 ด้านหลัก ประกอบด้วย 

  • Speed to Market กลยุทธ์ความรวดเร็วและว่องไว รุกไวและปรับตัวเร็ว
  • Customer Centric  ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างประสบการณ์ที่ดี รับฟังและเข้าใจลูกค้า
  • Data Driven ตัดสินด้วยข้อมูลเป็นหลัก นำมาซึ่งถูกทาง ถูกใจ ถูกต้อง
  • Space Optimization การจัดสรรพื้นที่ การขยายสาขาใหม่ การปรับปรุงสาขาเดิมให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต พฤติกรรมความชื่นชอบของลูกค้า และ
  • Automation  การนำเทคโนโลยีมาบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล 

ทั้งนี้ประเมินว่าในปี 2567 จะสร้างผลประกอบการเติบโตในระดับสองหลัก ส่วนผลประกอบการในปี 2566 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 9,416 ล้านบาท เติบโต 4.5% จากปี 2565 ด้านกำไรอยู่ที่ 726 ล้านบาท เติบโต 10.2% สร้างผลประกอบการทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยทั้งหมดเพื่อการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทยต่อไป 

\'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์\' ทุ่ม 3,000 ล้านบาท สยายปีกในประเทศ-ต่างประเทศ