‘แมคโดนัลด์’ ชี้ ลูกค้าอยากได้เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ มากกว่าใช้ของดี-พรีเมียม ทำให้กิน

‘แมคโดนัลด์’ ชี้ ลูกค้าอยากได้เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ มากกว่าใช้ของดี-พรีเมียม ทำให้กิน

ใหญ่แล้ว และจะทำให้ใหญ่ขึ้นอีก! ผู้บริหาร “แมคโดนัลด์” ชี้ ลูกค้าไม่ได้ต้องการให้ร้านใช้ของดีขึ้น ขอเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่-น่ากินก็พอ เผย ขณะนี้ทดลองทำเมนูเบอร์เกอร์ “ดับเบิลบิ๊กไซซ์” หากฟีดแบ็กดี เตรียมขยายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

“แมคโดนัลด์” (McDonald’s) ยังคงรั้งแชมป์ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant: QSR) อันดับ 1 จากการจัดอันดับบนเว็บไซต์ “QSR Magazine” ด้วยจำนวนสาขากว่า 40,300 แห่งทั่วโลก เฉพาะในสหรัฐมีมากถึง 13,528 แห่ง เนื่องจากเป็นประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชื่อก้องโลก นโยบายและทิศทางการเติบโตโดยส่วนใหญ่จึงมักมีจุดเริ่มต้นที่สหรัฐเป็นแห่งแรก ซึ่งก็รวมไปถึงเมนูใหม่ที่ “แมคโดนัลด์” กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา-ทดลองทำกันหลังบ้าน เพื่อตอบสนองอินไซต์ผู้บริโภคให้ตรงจุดมากที่สุด

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าว “บิซิเนส อินไซเดอร์” (Business Insider) รายงานความเห็นของ “เอียน บอร์เดน” (Ian Borden) ผู้บริหาร “แมคโดนัลด์” โดยเขาได้กล่าวกับนักวิเคราะห์ในที่ประชุมเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตลอดหลายปีมานี้ “แมคโดนัลด์” พยายามกำหนดเป้าหมายการทำงาน ด้วยการยกระดับ-เสนอขายสินค้าแฮมเบอร์เกอร์ที่มีความพรีเมียมให้กับผู้บริโภค แต่ก็พบว่า แบรนด์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรนัก พร้อมยอมรับว่า พวกเขาอาจตีโจทย์ผิด

“บอร์เดน” มองว่า ความพรีเมียมอาจไม่ใช่คำตอบ หากแต่เป็นเบอร์เกอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น น่ากินมากขึ้นต่างหาก ที่จะเป็นการกำหนดเป้าหมายอย่างถูกต้องท่ามกลางส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ของ “แมคโดนัลด์”

ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดวิกฤติแพร่ระบาดใหญ่ ร้านค้าหลายแห่งรวมถึงแมคโดนัลด์เองได้มีการปรับปรุงเมนูต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินงานได้คล่องตัวมากขึ้น ร้านอาหารหลายแห่งเลือกตัดเมนูเสริมออกไป คงเหลือไว้เพียงเมนู “Signature” ด้านแมคโดนัลด์สหรัฐเองตัดสินใจทิ้งเมนูสลัดผักไปในช่วงเวลาดังกล่าว และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ถูกพิจารณานำกลับมาขายอีก

นโยบายในการพุ่งเป้าไปที่เมนูหลัก คือหนึ่งในสารัตถะสำคัญ ที่ทำให้ “แฮมเบอร์เกอร์” กลายเป็นโจทย์ใหญ่ ที่จะได้รับการพัฒนาทั้งในประเทศแม่และสาขาอื่นๆ ทั่วโลก “บอร์เดน” ระบุว่า ขณะนี้ “แมคโดนัลด์” อยู่ในช่วงพัฒนาเมนูเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่แบบแพ็คคู่ ซึ่งหากเมนูเหล่านี้ติดตลาด-ได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทจะขยายโอกาสเหล่านี้ไปยังร้านสาขาอื่นๆ ทั่วโลกแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ “แมคโดนัลด์” ยังไม่ได้มีการระบุว่า เบอร์เกอร์ไซซ์ใหญ่จะเพิ่มเติมในส่วนของแป้งขนมปังหรือเนื้อสัตว์ด้านใน ด้าน “บิซิเนส อินไซเดอร์” ระบุว่า กลยุทธ์ที่มุ่งพัฒนาเฉพาะเมนูหลักของร้านแมคโดนัลด์ มีชื่อเรียกว่า “Accelerating the Arches” โดยเฉพาะเมนูเบอร์เกอร์ไก่และเมนูกาแฟ ที่สร้างรายได้ให้กับร้านมากถึง “2 ใน 3” ของยอดขายทั่วโลก 

ในรอบปีที่ผ่านมา “แมคโดนัลด์” เริ่มมีการปรับเปลี่ยนส่วนผสมการทำแฮมเบอร์เกอร์ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังที่นิ่มลง เพิ่มหัวหอมในส่วนผสมของเนื้อสัตว์ รวมถึงการปรับปรุงสูตรซอส “Big Mac” เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ในการเสิร์ฟ “Best Burger” หรือเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดนั่นเอง

 

อ้างอิง: Business InsiderQSR MagazineScrape HeroStatista