ถอดรหัส ‘คอนเสิร์ต’ ระดับโลก บูมเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวไทย ลุ้นมาตรการรัฐจูงใจ

คอนเสิร์ตของ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี 2023 ของนิตยสารไทม์ สร้างอิมแพ็คต่อ “เศรษฐกิจคอนเสิร์ต” (Concert Economics) ครั้งใหญ่!

เมื่อเวิลด์ทัวร์ “Taylor Swift : The Eras Tour” ทุบสถิติใหม่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 60 วัน นับตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ย. 2566 โดยทางนิตยสารคอนเสิร์ต “โพลสตาร์” คาดว่าจะทำรายได้รวมเกิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งยังสร้างบทสนทนาร้อนแรงข้ามประเทศ! โดยในช่วงก่อนวันจัดคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ “สิงคโปร์” รวม 6 รอบ ตั้งแต่วันที่ 2, 3, 4, 7, 8 และ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็น “ประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่เทย์เลอร์ สวิฟต์ เลือกจัดคอนเสิร์ต ทาง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเผยว่า รัฐบาลสิงคโปร์เสนอเงินสนับสนุนเพื่อแลกกับเงื่อนไขที่ว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ จะไม่ไปจัดแสดงคอนเสิร์ตที่อื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้าน ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ออกมาเผยถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่า “หน่วยงานของเราได้เจรจาข้อตกลงกับเธอให้มาสิงคโปร์และจัดแสดงที่นี่ ทำให้สิงคโปร์เป็นที่เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เธอมาจัดคอนเสิร์ต”

“เงินจูงใจจำนวนหนึ่งที่ให้กับเธอ ก็มาจากกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยวของเรา ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อฟื้นการท่องเที่ยวหลังยุคโควิด และเราก็ปิดดีลได้ นับเป็นข้อตกลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผมไม่เห็นว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่เป็นมิตร (ต่อเพื่อนบ้าน) ตรงไหน บางครั้งประเทศหนึ่งทำข้อตกลงได้ บางครั้งอีกประเทศก็ทำได้”

นักเศรษฐศาสตร์จากเมย์แบงก์ (Maybank) ประมาณการตัวเลขว่ามีผู้มาชมคอนเสิร์ต เทย์เลอร์ สวิฟต์ มากถึง 300,000 คนในสิงคโปร์ กว่า 70% หรือราว 210,000 คนเป็นผู้ชมที่บินมาจากต่างประเทศ โดยจะมีการใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร และสิ่งบันเทิงต่างๆ สูงถึง 350-500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 9,300-13,200 ล้านบาท

เม็ดเงินสะพัดดังกล่าวชวนให้ “เพื่อนบ้าน” มองตาปริบๆ รวมถึงประเทศไทยที่รัฐบาลเพิ่งประกาศวิสัยทัศน์ 8 ด้าน หนึ่งในนั้นคือการพุ่งสู่เป้าหมาย “ศูนย์กลางการท่องเที่ยว” และการจัดกิจกรรมต่างๆ ระดับโลก!

‘หมอมิ้ง’ ชูมาตรการดึงคอนเสิร์ต-อีเวนต์-หนัง

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการดึงดูดภาพยนตร์และการจัดคอนเสิร์ตในการสนับสนุนธุรกิจและอีเวนต์ต่างๆ (Concert Economics) ว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการร่างกฎระเบียบ ในรูปแบบของมาตรการจูงใจทางภาษี (Tax Rebate) สำหรับการจัดงานต่างๆ ในประเทศไทย แต่สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ โดยมาตรการนี้ครอบคลุมตั้งแต่การถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย งานคอนเสิร์ต รวมถึงงานอีเวนต์ (Event) ต่างๆ เช่น การแข่งอี-สปอร์ต และการจัดงานแสดงสินค้า

“การให้เงินสนับสนุนจะมีหลักเกณฑ์ในการคำนวณถึงความคุ้มค่าและผลดีที่ประเทศจะได้รับที่เป็นรูปธรรม”

โดยระหว่างนี้รัฐบาลได้ดำเนินการในส่วนของงานที่สามารถทำได้ เช่น การปลดล็อกกฎระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ เช่น อนุญาตการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสนามกีฬาของรัฐ กรณีที่มีการจัดงานกิจกรรมในสนามกีฬาของรัฐ, การขอ Group Visa สำหรับ Crew Member, ช่อง Fast-track Immigration สำหรับผู้เข้าร่วมงานไมซ์ (MICE: การประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และงานแสดงสินค้า) และการปลดล็อกภาษีการนำอุปกรณ์/สินค้า เข้า-ออกประเทศเพื่อการจัดแสดงงาน MICE

ส่วนกรณีนายกฯ เศรษฐา ได้ออกมาพูดถึงรัฐบาลสิงคโปร์เกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงกับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ให้มาจัดแสดงคอนเสิร์ตในสถานที่แห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ตนยืนยันได้ว่านายกฯ เศรษฐา พูดชื่นชมรัฐบาลสิงคโปร์ และมองว่าควรศึกษาเป็น “ตัวอย่าง” ในเชิงนโยบายและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว

“ทางรัฐบาลไทยยืนยันอยู่แล้วว่าจะเดินหน้ามาตรการดึงดูดการจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบการสนับสนุนธุรกิจและอีเวนต์ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้มีการแข่งขันได้กับประเทศต่างๆ โดยจะมีผลดีต่อประเทศในระยะยาวต่อไป และยังเป็นการกระตุุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย ซึ่งขณะนี้มีไม่น้อยกว่า 3 รายใหญ่ระดับโลกที่ติดต่อรัฐบาลเพื่อจัดคอนเสิร์ต ถ่ายภาพยนตร์ รวมถึงใช้ประเทศไทยเป็นฉากหลังของเกมส์”

 

‘สุดาวรรณ’ จ่อหารือผู้จัดคอนเสิร์ต

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนจะนัดหมายบริษัทระดับท็อปด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์และจัดคอนเสิร์ต เช่น เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนต์, วอร์เนอร์ มิวสิก กรุ๊ป และ โซนี่ มิวสิก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มาสอบถามและหารือเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรค ว่าต้องการให้ภาครัฐช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขกฎระเบียบเรื่องใดบ้าง เพื่อสนับสนุนการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินต่างประเทศในไทย

สำหรับเหตุผลที่จะขอหารือกับผู้จัดคอนเสิร์ต ไม่ใช่เพราะจะเสนอเงินสนับสนุนการจัดงาน แต่จะขอรับฟังความต้องการจากผู้จัด เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดคอนเสิร์ต เฟสติวัล และอีเวนต์ระดับนานาชาติของภูมิภาค และไม่ใช่แค่มุมผู้จัดคอนเสิร์ต ศิลปิน และทีมงาน ให้ได้รับการอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่รวมถึงมุมผู้ชมคอนเสิร์ต ต้องได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดการมาชมคอนเสิร์ตและท่องเที่ยวในไทยด้วย เช่น การประสานงานไปยังกระทรวงคมนาคมให้เข้ามาดูแลการจราจรทั้งระบบ โดยเฉพาะการเดินทางเข้า-ออกสถานที่จัดคอนเสิร์ต

 

ล็อกเป้าดึงศิลปินระดับ A-List ของโลก

“ตอนนี้หน่วยงานภาครัฐเองได้มีการพูดคุยถึงหลายๆ แนวทางเกี่ยวกับมาตรการดึงดูดคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศให้มาจัดที่ไทย โดยเฉพาะศิลปินระดับ A-List ของโลก รวมถึงศิลปินที่มีฐานแฟนคลับในระดับภูมิภาค ให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดการเดินทางเข้าไทย”

จากกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.พ.) พบว่าในช่วงที่มีการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินต่างประเทศชื่อดัง หนุนยอดชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแตะ 1.4 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากปกติที่มีจำนวน 1 แสนคนต่อวัน

“นักท่องเที่ยวกลุ่มมาดูคอนเสิร์ต เป็นกลุ่มที่มีเงิน พร้อมใช้จ่ายสูง อยากมาเอ็นจอยคอนเสิร์ต และได้เที่ยวไทยไปพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกันศิลปินต่างประเทศ เมื่อมาจัดคอนเสิร์ตในไทย ก็มีพาวเวอร์ในการช่วยโปรโมตซอฟต์พาวเวอร์ ดึงคนมาเที่ยวไทยด้วย อย่างเช่น เอ็ด ชีแรน (Ed Sheeran) ที่ได้ไปเยือนร้านเจ๊ไฝ และไปสักยันต์ 8 ทิศ”

 

คนไทย-ต่างชาติแห่ดูคอนเสิร์ต ‘อิมแพ็ค’ ปี 66 เฉียด 1 ล้าน

พอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ภาพรวมการจัดคอนเสิร์ตที่ “อิมแพ็ค เมืองทองธานี” ตลอดปี 2566 มีจำนวนคอนเสิร์ตทั้งหมด 88 งาน เพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับปี 2565 แบ่งเป็นคอนเสิร์ตศิลปินไทย 36 งาน และคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศ 52 งาน ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา อิมแพ็ค เมืองทองฯ มีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่จัดคอนเสิร์ตคิดเป็นสัดส่วน 18% ของรายได้ให้เช่าพื้นที่จัดงานทั้งหมด โดยมีจำนวนผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมทั้งปีประมาณ 950,000 คน หรือเกือบ 1 ล้านคน

“การจัดคอนเสิร์ตที่อิมแพ็ค เมืองทองฯ ในปี 2567 ขณะนี้มียอดจองพื้นที่จัดคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 27% และรายได้เพิ่มขึ้น 44% โดยในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) มียอดจัดคอนเสิร์ตที่นี่รวม 41 งาน”

 

'ซัมเมอร์ โซนิก แบงค็อก 2024' ครั้งแรกในอาเซียน

ไฮไลต์คอนเสิร์ตเด่นในปีนี้ คืองานเทศกาลดนตรีระดับโลก “ซัมเมอร์ โซนิก แบงค็อก 2024” (SUMMER SONIC BANGKOK 2024) วันที่ 24-25 ส.ค. ซึ่งเป็นงานเทศกาลดนตรียิ่งใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาจัดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ใช้พื้นที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 รวม 60,000 ตร.ม. ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับการจัดงานมอเตอร์โชว์

 

‘อิมแพ็ค อารีน่า’ ฮอต! ยอดจองพื้นที่เกือบเต็ม

พื้นที่จัดคอนเสิร์ตภายใน อิมแพ็ค เมืองทองธานี ประกอบด้วย 4 พื้นที่หลัก ได้แก่ อิมแพ็ค อารีน่า เป็นอารีน่าแห่งเดียวของประเทศไทยที่เป็นอัฒจันทร์ในร่ม พื้นที่ขนาดใหญ่รวม 4,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้กว่า 12,000 ที่นั่ง เหมาะกับการจัดงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจัดประชุม สัมมนา กิจกรรมอินเซนทีฟ กิจกรรมความบันเทิง กิจกรรมการแข่งกีฬา คอนเสิร์ต ทำให้ยอดจองพื้นที่อารีน่าจัดงานมีอย่างต่อเนื่อง เป็นอาคารที่ได้รับเลือกจัดงานในทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์, อิมแพ็ค เอ็กซิบิชัน เซ็นเตอร์ และธันเดอร์ โดม

“ยอดจองพื้นที่สำหรับจัดคอนเสิร์ตต่างประเทศและไทยได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่ไฮไลต์อย่าง อิมแพ็ค อารีน่า ถือว่ามียอดจองเกือบเต็มแล้ว จนทำให้ทางศูนย์ฯ ต้องขยายพื้นที่จัดคอนเสิร์ตในอาคารชาเลนเจอร์และอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ เพิ่มเติม ซึ่งบางวันรองรับการจัดคอนเสิร์ตในพื้นที่มากถึง 3 งาน”

นอกจากคอนเสิร์ตแล้ว ยังมีกิจกรรมความบันเทิงอื่นๆ เข้ามาจัดใน อิมแพ็ค เมืองทองฯ โดยกิจกรรมพิเศษของปีนี้ เช่น งานฉลอง 100 ปีดิสนีย์ “Disney On Ice presents 100 Years of Wonder” จัดงานถึง 10 วัน ระหว่างวันที่ 21 - 31 มี.ค. จากเดิมระยะเวลาจัดงานอยู่ที่ 5-7 วัน และการแข่งขันชกมวยไฟต์ยิ่งใหญ่ “เดอะ แมทช์ ออฟ เดอะ เลเจ้นด์” ของสองตำนาน “พี่ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดมวยไทยขวัญใจแฟนมวย กับ “แพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว ยอดมวยฟิลิปปินส์แชมป์โลก 8 รุ่นพิกัดน้ำหนัก วันที่ 20 เม.ย.นี้

 

‘ศูนย์ฯ สิริกิติ์’ รุกงานคอนเสิร์ต-แฟนมีตติ้ง

สุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า จากเป้าหมายหลักมุ่งผลักดันให้ “ศูนย์ฯ สิริกิติ์” เป็นที่สุดของอีเวนต์แพลตฟอร์ม พร้อมรองรับการจัดงานที่ “มากกว่าไมซ์” ไม่ว่าจะเป็นงานไลฟ์สไตล์ทุกประเภท เช่น คอนเสิร์ต แฟนมีต เกม และอีสปอร์ต จุดนี้ทำให้เห็นว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของศูนย์ฯ สิริกิติ์ จะไม่ได้จำกัดแค่ผู้จัดงาน ผู้ออกบูธ ผู้เข้าร่วมงานประชุมสัมมนา หรือผู้มาเดินชมงานนิทรรศการเหมือนแต่ก่อน แต่จะเพิ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความชื่นชอบในการทำกิจกรรมและมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน

สำหรับคอนเสิร์ต 3 งานตลอดเดือน มี.ค.นี้ที่ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้แก่ 1.CHA EUN-WOO 2024 Just One 10 Minute [Mystery Elevator] in Bangkok งานแฟนมีตฯ คอนเสิร์ตเดี่ยวของนักแสดงหนุ่ม “ชาอึนอู” วันที่ 9 มี.ค. 2.2024 YOUNGJAE ASIA TOUR <INSIDE OUT> CONCERT in THAILAND เอเชียทัวร์คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของ “ยองแจ” สมาชิกวง GOT7 จำนวน 2 รอบการแสดง วันที่ 16-17 มี.ค. และ 3.AssetWhite Presents PIANO&i The Magic 7 Concert คอนเสิร์ตของ “โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” จำนวน 2 รอบในวันที่ 23 มี.ค. โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 50,000 คน จากคอนเสิร์ตทั้ง 3 งานข้างต้นในเดือน มี.ค.นี้

 

‘คนรุ่นใหม่-แฟนด้อม’ พร้อมเปย์

หลังจาก ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เปิดให้บริการเมื่อเดือน ก.ย. 2565 จนถึงปัจจุบัน ได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดงานทั้งไทยและเทศที่เล็งเห็นถึงความพร้อมของพื้นที่ ให้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต-แฟนมีตติ้ง มากกว่า 20 งาน ร่วมสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมบันเทิงไทย

“จากการขยายโปรไฟล์การจัดอีเวนต์ของเราไปยังอุตสาหกรรมบันเทิง และขยายกลุ่มผู้ใช้บริการไปยังคนรุ่นใหม่และแฟนด้อม ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของงานคอนเสิร์ตและแฟนมีตติ้ง เรามั่นใจว่าการเป็นมากกว่าศูนย์ฯประชุมของเราที่พร้อมด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านกีฬา ร้านสปา ตลอดจนบริการห้องอาบน้ำในโซนรีเทล จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและสร้างความประทับใจให้กับผู้มาชมคอนเสิร์ต”