ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารฝรั่งเศส ‘โซ่เด็กซ์โซ่’ รุกสร้างคลังสินค้าใหญ่สงขลา

ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารฝรั่งเศส ‘โซ่เด็กซ์โซ่’ รุกสร้างคลังสินค้าใหญ่สงขลา

‘โซ่เด็กซ์โซ่’ เอกชนธุรกิจบริการอาหารรายใหญ่จาก ฝรั่งเศส รุกลงทุนในไทยสร้างคลังสินค้าขนาดใหญ่ปักหมุดที่สงขลา ย้ำผู้นำเบอร์หนึ่งตลาดพรีเมียมอาหารและโภชนาการในประเทศไทย

นายอาร์โนด์ เบียเลคกิ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โซเด็กซ์โซ่ (Sodexo) กล่าวว่า แผนของบริษัท โซ่เด็กซ์โซ่ (Sodexo) ประเทศไทยปี 2567 มุ่งเดินหน้าขยายธุรกิจ ผ่านทั้งบริการด้านอาหาร ด้านอาคาร บริการด้านเทคนิคและวิศวกรรมอาคารและบริการทั่วๆ ไป โดยแนวโน้มในปีนี้ธุรกิจมีทิศทางขยายตัวดี ตามการเติบโตของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย

สำหรับแผนขยายธุรกิจของบริษัท ได้มีการสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ ในจังหวัดสงขลา ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจบริการอาหารให้แก่ภาคเอกชน ในกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียม ที่มีการทำแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งจำนวนหลายแห่ง โดยลูกค้าของบริษัทเป็นบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ในไทย ในปัจจุบันมีพนักงานให้บริการในพื้นที่รวมประมาณ 500-600 คน ร่วมให้การดูแลลูกค้ารวมประมาณ 2,500 คนต่อวัน ทั้งนี้บริษัทมีแผนขยายการบริการไปยังภาคธุรกิจอื่นๆ เช่น เหมืองถ่านหิน เหมืองทอง เหมืองลิเธียม

 

“แนวทางการขยายธุรกิจในประเทศไทย เน้นการให้บริการอย่างครบวงจรในประเทศไทย จากทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเน้นฐานลูกค้าระดับบน เป็นตลาดสำคัญที่บริษัทมุ่งขยายต่อเนื่องมาร่วม 20 ปีแล้ว โดยในปัจจุบันบริษัทมีพนักงานกว่า 3,700 คน ประจำอยู่กว่า 200 แห่ง พร้อมมีธุรกิจหลักจะเป็นการให้บริการด้านอาหาร จากความเชี่ยวชาญมายาวนาน”

นอกจากนี้ ในปีนี้มีไฮไลท์ครั้งสำคัญของบริษัท จากการจัดแข่งขันมหกรรมโอลิมปิก จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสในช่วงเดือน ก.ค.นี้ เป็นโอกาสสำคัญของ บริษัทแม่ โซเด็กซ์โซ่ ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้ร่วมเป็นผู้ดูแลอาหารให้แก่นักกีฬาที่เข้าแข่งขันจากทั่วโลก ทำให้ โซเด็กซ์โซ่ ที่ประเทศไทย มีแผนจัดอีเว้นท์ใหญ่ในเดือน มิ.ย.นี้ ร่วมกับสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อร่วมโปรโมตมหกรรมการแข่งขันโอลิมปิกให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย

 

ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารฝรั่งเศส ‘โซ่เด็กซ์โซ่’ รุกสร้างคลังสินค้าใหญ่สงขลา

อีกกลยุทธ์สำคัญของบริษัทที่มุ่งดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จากการเลือกผู้ผลิตวัตถุดิบที่ใช้วัตถุดิบด้วยความปลอดภัย และเป็นผู้ผลิตที่มีแนวทางดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงมุ่งเน้นรับซื้อจากผู้ผลิตเอสเอ็มอีรายย่อยในประเทศ เพื่อส่งเสริมธุรกิจรายย่อยให้แข็งแรงเติบโตไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ประเมิน ภาพรวมในสิ้นปี 2567 ผลประกอบการจะเติบโตกว่า 10% จากปีก่อน พร้อมเป็นผู้นำในตลาดบริการและโภชนาการในกลุ่มพรีเมียมของประเทศไทยต่อไป โดยบริษัทได้เข้ามาขยายธุรกิจในประเทศกว่า 20 ปีแล้ว และมีลูกค้าประจำที่ใช้บริการมาตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน ส่วนบริษัทแม่ของ โซเด็กซ์โซ่ มีสำนักงานใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส มีพนักงานทั่วโลก 430,000 คนให้บริการครอบคลุม 45 ประเทศ และมีผู้บริโภคทั่วโลก 80 ล้านคนต่อวัน

นายอาร์โนด์ กล่าวต่อว่า จากการเข้ามาดูแลและบริหารตลาดประเทศไทยร่วม 20 ปีแล้ว จึงได้รับการแต่งตั้งจาก รัฐบาลฝรั่งเศส สู่การเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ สำหรับนักธุรกิจฝรั่งเศสที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และนักธุรกิจไทยจะต้องการไปลงทุนที่ฝรั่งเศส โดยพบว่า เอกชนจากประเทศฝรั่งเศส ยังให้ความสำคัญในการขยายลงทุนในประเทศไทย จากพื้นฐานด้านโลจิสติกส์และการคมนาคม สถานการศึกษา รวมถึงพื้นฐานของวัฒนธรรมและผู้คนในประเทศที่เป็นแรงดึงดูด เชื่อว่าแนวโน้มในปีต่อไป ยังมีภาคเอกชนรายใหม่ต้องการขยายลงทุนต่อเนื่อง

ในช่วงปีที่ผ่านมีภาคเอกชนที่สนใจลงทุนทั้ง ผู้ผลิตแว่นตาขนาดใหญ่ในโลก กับ บริษัท เอสซีลอร์ลูซอตติกา (EssilorLuxottica) (ประเทศไทย) จำกัด ลงทุนสร้างโรงงานในระยอง มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท บริษัท Revima Asia Pacific Company ประกอบธุรกิจซ่อมอากาศยานหรือชิ้นส่วนของอากาศยาน เช่น ล้อหรือส่วนใดๆ ที่ใช้รับน้ำหนักเมื่อลงสู่พื้น และ FORVIA เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับบริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก เข้ามาลงทุนสร้างโรงงานในไทยเช่นกัน โดยได้ประเมินถึงโอกาสและศักยภาพของประเทศไทย