โลตัส เร่งเครื่องชอปปิงออนไลน์ ชูบริการใหม่ส่งเร็ว 1-3 ชั่วโมง ชิงดีมานด์!

เจาะตลาดค้าปลีกในไตรมาสแรก ผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างเร่งเครื่องขยายสาขาในทำเลทองที่มีศักยภาพสูง พร้อมรุกขยายตลาดผ่านออนไลน์ รับพฤติกรรมลูกค้าเลือกชอปปิงสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาเดินทาง สอดรับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

“โลตัส” ค้าปลีกเรือธงของกลุ่มซีพี มุ่งขยายตลาดผ่านออนไลน์อย่างหนักมาในช่วงหลายปี เพื่อวางกลยุทธ์การเป็นผู้นำในตลาดนี้ จึงทำให้ในปี 2567 ได้เร่งเครื่องธุรกิจและแผนกลยุทธ์ร่วมนำเสนอประสบการณ์ชอปปิงให้แก่ลูกค้าได้รับความสะดวกมากที่สุด สร้างความคุ้มค่าแก่ลูกค้า

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลตัส สะท้อนภาพตลาดค้าปลีกของประเทศไทยในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าต่างให้ความสนใจการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว จึงส่งผลทำให้ภาพรวมยอดขายผ่านออนไลน์ของโลตัสในปีก่อน สูงกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตสูงมากกว่าค้าปลีกแห่งอื่น ๆ

ทั้งนี้การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งมาจากการลงทุนของบริษัทในการพัฒนาระบบ ลงทุนเทคโนโลยีมาตลอด จึงส่งผลสร้างการตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้า ท่ามกลางตลาดรวมที่มีการแข่งขันสูง รวมถึงยังมีความท้าทายจากมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ อยู่ในตลาดด้วย

กลยุทธ์ของบริษัทที่ได้วางแผนไว้และได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งการพัฒนาให้สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ในระยะเวลา 1-3 ชั่วโมงเป็นรายแรกในประเทศไทย พร้อมมีการส่งสินค้าฟรีโดยไม่มีขั้นต่ำในการส่งสินค้า รวมถึงการจัดโปรโมชันในทุกวัน และการให้คอยน์ ไปจนถึงการให้สิทธิพิเศษจากกลุ่มธุรกิจในเครือกับทรู

อีกทั้งยังมาจากจุดแข็งในการวางกลยุทธ์เปิดสาขาของโลตัส ที่มีสาขาเปิดให้บริการรวมกว่า 2,100 สาขาในทั่วประเทศ แบ่งเป็น สาขาขนาดใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 200 สาขา สาขาขนาดกลาง ประมาณ 200 สาขา และสาขาเล็ก ประมาณ 1,700 สาขา จึงสามารถจัดส่งสินค้าทั้งสาขาเล็กและใหญ่ไปถึงลูกค้าในแต่ละทำเลได้อย่างสะดวก ปิดช่องว่างในแต่ละพื้นที่ได้

อย่างไรก็ตามแผนในปีนี้ยังเดินหน้า กลยุทธ์การจัดการโปรโมชั่นส่งฟรี ส่งเร็ว ภายในระยะเวลา 1-3 ชั่วโมง ครอบคลุมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และสินค้าขนาดใหญ่จะจัดส่งในวันถัดไป รวมถึงลูกค้าสามารถเลือกเวลาในการจัดส่งได้เองด้วย

“แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มอื่นๆ กับอีคอมเมิร์ซให้บริการส่งสินค้า แต่ไม่มีผลกระทบกับโลตัส ที่ทำส่งฟรีและส่งเร็ว พร้อมกำหนดระยะเวลาในการส่งได้ จึงช่วยกระตุ้นลูกค้า"

นอกจากนี้ยังวางแผนยกระดับบริการและสิทธิกับ รีวอร์ดโปรแกรม มายโลตัส พร้อมร่วมเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้า การร่วมยกระดับลูกค้าที่สมัครสมาชิกผ่านแอปพลิเคชัน “โลตัส สมาร์ท แอป” พร้อมร่วมทำแคมเปญส่วนลดสินค้าในแต่ละวันตลอดสัปดาห์ อาทิ วันจันทร์ รับคูปองส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม วันอังคาร รับโลตัสคอยน์เพิ่ม 5 เท่าทุกๆ การช้อป พร้อมคูปองส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสด หรือวันศุกร์ โปรเติมสุขยกครอบครัว รับคูปองส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก และผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง เป็นต้น

ปัจจุบัน สัดส่วนยอดซื้อของลูกค้าผ่านออนไลน์จะอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาท มีการซื้อสินค้าที่ถี่มากขึ้น เฉลี่ยประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนลูกค้าที่ซื้อผ่านสาขา จะมียอดการซื้อประมาณสัปดาห์ละครั้ง โดยสินค้าที่ลูกค้านิยมซื้อมากสุดคือ ของสด ในสัดส่วนถึง 50% รองลงมา สินค้าของแห้ง รวมถึงวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ทำให้ในปัจจุบันโลตัส มียอดลูกค้าสั่งซื้อออเดอร์ผ่านแอปพลิเคชันเฉลี่ยประมาณที่ 1 ล้านออเดอร์ต่อเดือนแล้ว

วรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส ย้ำว่า การจัดทำรีวอร์ดโปรแกรม “มายโลตัส” ได้มีการทราน์สฟอร์มจากการเป็นเพียงบัตรสะสมคะแนน สู่ ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มแบบปัจเจกบุคคล (Personalized Lifestyle Platform) มุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าบนฐานข้อมูลลูกค้ามายโลตัสกว่า 17 ล้านคนทั่วประเทศ แบบรู้ใจและเข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านยูสเคสกว่า 10 ล้านยูสเคสต่อสัปดาห์ ซึ่งมีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน มายโลตัส ของลูกค้าจากจุดให้บริการของโลตัสกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ ควบคู่กับการทำงานร่วมกับพันธมิตรกว่า 10,000 แบรนด์ ทั้งในเครือ และนอกเครือ

ประเมินว่า ภาพรวมในสิ้นปีนี้จะสร้างการเติบโตได้มากกว่าปีก่อน ที่เติบโต 30-40%