ทุนใหญ่ชิงทำเล ย่านบางนา รุกรีโนเวท-ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์รีเทล

ทุนใหญ่ชิงทำเล ย่านบางนา รุกรีโนเวท-ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์รีเทล

ส่องทำเลทองย่านบางนา ทุนใหญ่ชิงขยายสาขาค้าปลีก ผุดโครงการใหญ่ กลุ่มทุนเดิมเร่งรีโนเวท ปรับพื้นที่ให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า

KEY

POINTS

  • ทำเลทองย่านบางนา ทุนใหญ่เดินหน้าชิงพื้นที่
  • ลงทุน ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์รีเทลขนาดใหญ่ ครั้งสำคัญ 
  • กลุ่มทุนเดิม เร่งขยายโครงการใหม่- รีโนเวทพื้นที่ดึงลูกค้า

ส่องทำเลทองย่านบางนา ทุนใหญ่ชิงขยายสาขาค้าปลีก ผุดโครงการใหญ่ กลุ่มทุนเดิมเร่งรีโนเวท ปรับพื้นที่ให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า

หนึ่งในทำเลค้าปลีกที่กำลังมาแรงในปี 2567 กับ “ย่านบางนา” ทำเลทองการค้าที่เป็นแม่เหล็กสำคัญของบิ๊กคอร์ปค้าปลีกไทยเข้ามารุกยึดหัวหาด ทั้ง กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มเดอะมอลล์ กลุ่มทุนจีน กลุ่มซีพี และกลุ่มสยามดีเวลลอปเมนท์ ไปจนถึงกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ครบแทบทุกแบรนด์เข้ามาเปิดโครงการใหม่ในย่านนี้

สำหรับการขยายค้าปลีกในย่านนี้ มีทั้งการเร่งรีโนเวทสาขา การเข้ามาเปิดสาขาใหม่ จากทำเลแห่งนี้ ขึ้นแท่นเป็นอีกย่านที่มีกำลังซื้อสูง รอบล้อมด้วยหมู่บ้านราคาแพง โครงการสุดหรู พร้อมด้วยการเดินทางที่สะดวกจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว และเส้นรถไฟฟ้าใหม่ล่าสุดกับ สายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง 

ส่วนเส้นในอนาคตกับ “โมโนเรลสายบางนา–สุวรรณภูมิ” ของ กทม. มีแผนดำเนินการเปิดให้บริการระยะหนึ่งช่วงปี 2572 รองรับลูกค้าในย่านนี้และนักท่องเที่ยว ไปจนถึงการเดินทางที่สะดวกด้วยเส้นทางด่วนและมอเตอร์เวย์ ยิ่งทำให้รีเทลย่านบางนา ขยายตัวได้รวดเร็วไม่แพ้ทำเลใจกลางเมืองแห่งอื่นๆ

หากไปสำรวจค้าปลีกในย่านบางนา ทั้ง “กลุ่มเซ็นทรัล” ได้เข้ามายึดหัวหาดทำเล บางนามายาวนานหลายปีแล้วกับ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบางนา” ขนาดกว่า 1.33 แสนตร.ม. โครงการมิกซ์ยูส รวมทั้ง คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานสูง 37 ชั้น โรงภาพยนตร์ สวนน้ำ และศูนย์รวมเครื่องเล่นเกม กลายเป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนต่างคุ้นเคย

กลุ่มเซ็นทรัลขยายโครงการอสังหา-รีโนเวทพื้นที่รีเทล

กลุ่มเซ็นทรัล  มีแผนรีโนเวทในครั้งใหญ่ของเซ็นทรัล บางนา รองรับตลาดและเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทำให้ศูนย์การค้ารองรับทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในย่านนี้ให้สมบูรณ์แบบ ล่าสุดได้ขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่กับ “เอสเซ็นท์ บางนา” เป็นคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ อยู่ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลบางนา มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท จำนวน 200 ยูนิต มีราคาเริ่มต้น 8-12 ล้านบาท มีขนาดตั้งแต่ 25-42 ตร.ม.เปิดตัวไปแล้วช่วงปลายปีก่อน รองรับตลาดย่านนี้ที่กำลังเติบโตและกำลังซื้อที่แข็งแกร่ง

อีกกลุ่มทุนที่เข้ามาปักหมุดในทำเลย่านนี้ มาเป็นเวลากว่าสิบปีเช่นกัน โดย กลุ่ม สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ หรือ SF ได้ผนึกกำลังกับ บริษัท อิคาโน่ รีเทล เอเชีย จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ อิเกีย (IKEA) ในไทย ร่วมด้วย บริษัท เอส.พี.เอส โกลเบิลเทรด จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ให้แก่แบรนด์ อิเกีย ร่วมบริหารศูนย์การค้า เมกาบางนา (MEGA Bangna) ภายใต้ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด รวมถึงมีแม่เหล็ก อิเกีย (IKEA) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจากสวีเดน เป็นหมุดหมายสำคัญที่ทุกคนต่างนึกถึง ต่อมา บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาร่วมทุน และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นของเมกาบางนา เช่นกัน

เมกาบางนา ได้มีการขยายการลงทุน และขยายพื้นที่ สู่การจัดทำ โครงการ เมกาซิตี้ เป็นการร่วมขยายพื้นที่ใกล้เคียงกับศูนย์การค้าสู่เมืองใหญ่ ที่ผ่านมามีภาคเอกชนเข้ามาลงทุนสร้างคอนโดมิเนียม จำนวน 2 โครงการ ซึ่งโครงการแรกได้ส่งมอบไปแล้ว การสร้างสวนสาธารณะ เมกา พาร์ค พื้นที่รวม 7 ไร่ มีขนาดใหญ่แห่งนึ่งในย่านตะวันออก การเปิดโรงเรียนประถมศึกษานานาชาติ ดิษยะศริน กรุงเทพ และการเปิด Topgolf Megacity สนามไดรฟ์กอล์ฟ ขนาด 29 ไร่ ซึ่งเป็นการลงทุนของพาร์ทเนอร์ ส่วนเฟสต่อไปมีความสนใจขยายไปสู่การจัดทำโรงแรม

ทุนจีนขยายโครงการ ซามาเนีย พลาซ่า-ดึงร้านค้ามาเช่าพื้นที่

ย่านบางนา นอกจากการจะดึงดูดกลุ่มทุนไทยแล้ว ยังเป็นขุมทรัพย์ทำเลทองของทุนจากต่างชาติเช่นกัน โดยเฉพาะ “กลุ่มทุนจีน” โดย ซามาเนีย กรุ๊ป ได้ยึดทำเลแห่งนี้ เปิดตัว "ซามาเนีย พลาซ่า" โครงการค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย ขนาดพื้นที่ 200 ไร่ หรือ ประมาณ 3.30 แสนตร.ม. พื้นที่โครงการ ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กม26 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ 

ทั้งนี้วางให้เป็น ศูนย์รวมการค้าที่ครบวงจรและใหญ่สุดในประเทศไทย หรือ กลายเป็นเป็นทำเลศูนย์กลางของ กทม. ฝั่งตะวันออก โดยพื้นที่โครงการ ซามาเนีย พลาซ่า ได้ทยอยเปิดให้บริการเฟส 1 พื้นที่กว่า 5 หมื่นตรม. มี 4 อาคาร แบ่งเป็น ร้านขายสินค้ามากกว่า 500 ร้านค้า และร้านค้าโซนบริการ 100 ร้านค้า พร้อมเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าให้เข้ามาเช่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ต้องจับตามองต่อไปว่า หลังจากนี้ไปจะขยายพื้นที่ทำเลใหม่และเพิ่มพื้นที่เฟสของโครงการอย่างไร เนื่องจากค้าปลีกค้าส่งแห่งใหม่นี้มีขนาดใหญ่และยังรอลูกค้าเข้ามาจับจองพื้นที่อีกจำนวนมาก!

เดอะมอลล์ กับบิ๊กโปรเจ็กต์ "แบงค็อกมอลล์” เดินหน้าตามแผน

นอกจากนี้ อีกกลุ่มทุนไทยได้เข้ามาสยายปีกในย่านบางนากับ “กลุ่มเดอะมอลล์” กับอภิมหาโปรเจ็กต์ “แบงค็อกมอลล์” (Bangkok Mall) ในย่านบางนา จากการมองโอกาสตลาดการค้าที่กำลังเติบโตและกำลังซื้อของลูกค้าในทำเลนี้ โดยโครงการมีขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 1 ล้าน ตร.ม. มูลค่าลงทุนร่วม 40,000 ล้านบาท จึงกลายเป็น ศูนย์การค้าใหญ่ที่มีพื้นที่รีเทล ขนาดสุดในภูมิภาค สำหรับโครงการนี้เป็นมิกซ์ยูส รวมทั้งค้าปลีก โรงแรม สำนักงาน และที่อยู่อาศัย

“ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงโครงการ “แบงค็อกมอลล์” (Bangkok Mall) ในย่านบางนาไว้ว่า เป็นโครงการขนาดใหญ่สุดที่ได้ดำเนินการมา ด้วยขนาดพื้นที่ใหญ่สุดในภูมิภาค ใช้พื้นที่กว่า 100 ไร่ คาดว่าจะเปิดเฟสแรกปลายปี 2569-2567 เป็นรีเทลแห่งใหม่ที่รวมทั้งรีเทลและความบันเทิง พร้อมร่วมยกระดับการช้อปปิ้ง ซึ่งการสร้างโครงการใหญ่ในครั้งนี้ ต้องการร่วมสร้างเมืองใหม่ ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย และการดึงดูดลูกค้าทั่วโลกให้เข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย

กลุ่มซีพีกับรีเทลใหม่ แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ เปิดเฟสแรก ก.ย.นี้

อีกโครงการอภิโปรเจ็กต์กับ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) จากเครือซีพี มูลค่า 125,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 398 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด ก.ม.7 วางให้เป็นโครงการ อสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ออฟฟิศและโรงแรม พร้อมด้วยโครงการรีเทล

ทั้งนี้ภาพการก่อสรางในปัจจุบันคืบไปแล้ว 70% โดยประเมินว่า โครงการที่อยู่อาศัยในทุกโครงการจะแล้วเสร็จพร้อมโอนให้แก่ลูกค้าได้ในปี 2567 นี้

“กิตติพันธุ์ อุยามะพันธุ์” ประธานผู้อำนวยการ โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC” ได้ฉายภาพของ โครงการรีเทล แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ (Happitat at The Forestias) เป็นศูนย์รวมรวมร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำ 300 ร้านค้า พร้อมแบรนด์แฟชั่นและแบรนด์ไลฟ์สไตล์ มีพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร รองรับไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม มีแผนเปิดให้บริการเฟสแรกในเดือน ก.ย.นี้ ร่วมกระตุ้นย่านนี้ให้คึกคักมากขึ้นไปอีก

“แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ รวบรวมแฟชั่นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ วางตำแหน่งให้เป็น จุดมุ่งหมายแห่งใหม่ของความสุขเหนือจินตนาการ หรือ The New Themed Destination of Happiness ร่วมตอบโจทยทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ลูกค้าทุกคน เข้ามาใช้ชีวิต ทำกิจกรรม พร้อมชอปปิงแบบไร้รอยต่อทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัล”

ทุนใหญ่ชิงทำเล ย่านบางนา รุกรีโนเวท-ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์รีเทล

เมกาบางนา เพิ่มกิจกรรมเข้มข้น ดึงกลุ่มลูกค้า-ขยายกลุ่ม

ทางด้านแม่ทัพ เมกาบางนา “วรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา ได้ประเมินภาพรวมของย่านบางนาหากในอนาคตหากมีผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่เข้ามาเปิดในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ประเมินว่าจะทำให้ภาคธุรกิจค้าปลีกในทำเลแห่งนี้มีความคึกคักมากขึ้น และแต่ละแห่งก็มีฐานลูกค้าที่หลากหลาย

ภาพรวมของศูนย์การค้า “เมกาบางนา” กำลังเข้าสู่ปีที่ 12 แล้ว โดยที่ผ่านมาย่านนี้มีเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของภาคธุรกิจ การลงทุนโครงการศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ค้าปลีกในทำเลบางนาเติบโต และเป็นย่านที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่งเทียบกับย่านใจกลางเมืองแล้ว

ทั้งนี้เมกาบางนา มีฐานลูกค้าประจำและกลุ่มลูกค้าทั่วไป โดยเฉลี่ยมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อปีที่ 53 ล้านคน หรือเฉลี่ยเดือนละ 4.4 ล้านคน ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีลูกค้าผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1.2 แสนคนต่อวันในวันธรรมดา และมากกว่า 2.2 แสนคนต่อวัน ในวันหยุด กลุ่มลูกค้าสมาชิกมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 4,500 บาท ส่วนยอดการใช้จ่ายในปีก่อนอยู่ที่ 3,500 บาท

แผนในปีนี้ เมกาบางนา ที่มีพื้นที่รวม 2.4 แสน ตร.ม. ได้วางยุทธศาสตร์ในการดึงกลุ่มลูกค้ากลุ่มผู้สุงอายุ และกลุ่มเพ็ทเฟรนด์ลี่ เข้ามาใช้บริการผ่านการออกแบบบริการและกิจกรรม ที่มีขึ้นในทุกเดือน เพื่อวางให้เป็นศูนย์การค้าที่มุ่งธุรกิจเพื่อกลุ่มลูกค้าในทุกกลุ่ม พร้อมบริการที่เอื้ออำนวยในการทำธุรกิจอย่างครบวงจร ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าจากแผนที่วางไว้ จะดึงดูดกลุ่มลูกค้าหลักและทำให้เมกา บางนา กลายเป็นค้าปลีกทำเลสำคัญในทำเลบางนาต่อไป !

“กิจกรรมที่ออกแบบอยากทำให้ลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่เด็ก ไปจนถึงวัยทำงาน เข้ามาใช้บริการอย่างสะดวก และทำให้ศูนย์การค้าที่ให้เป็นไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยมากขึ้น ร่วมตอกย้ำแนวคิด YOUR EVERYDAY MEETING PLACE’ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม”

ทั้งนี้ประเมินว่าจากการใช้จ่ายของย่านนี้ที่แข็งแรงเหมือนกับย่านในเมือง และโครงการใหม่ๆ ที่มีการเปิดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้ในสิ้นปีนี้กลุ่มลูกค้าจะเข้ามาเพิ่มขึ้นอีก 10% พร้อมกระตุ้นลูกค้ามีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 10%

ในระยะยาวเมื่อรีเทล เดินแผนโครงการครบทุกโปรเจ็กต์ จะทำให้ย่านบางนา เป็นย่านการค้าทำเลทองที่ร้อนแรงขึ้นอีกมาก  !