ทำไม ‘สิงห์’ ผู้นำตลาด จึงปรับมารุก 'น้ำดื่มขวดแบบใส' ครั้งแรก

ทำไม ‘สิงห์’ ผู้นำตลาด จึงปรับมารุก 'น้ำดื่มขวดแบบใส' ครั้งแรก

ส่องตลาดรวมน้ำดื่มไทยมูลค่า 3.80 หมื่นล้านบาท ร้อนแรง สิงห์ ส่งสินค้าใหม่ น้ำดื่มสิงห์ขวดใส นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET 1 รีไซเคิลได้ 100% ออกแบบโลโก้ลายนูนบนขวดแทน เข้ามาสู่ตลาดครั้งแรก และเป็นสินค้าที่มีพอร์ตโฟลิโอยอดขายสูงสุด เดินหน้ารักษาผู้นำตลาด

KEY

POINTS

  • ประเมินตลาดรวมน้ำดื่มแบบขวดของไทยมูลค่า 3.80 หมื่นล้านบาท
  • สิงห์ ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่ง พร้อมแผนรุกน้ำดื่มแบบขวด
  • ส่งสินค้าใหม่ “น้ำดื่มสิงห์ขวดใส” ขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  • ประเมินสร้างยอดขายรวมโตแกร่ง เพิ่มมาร์เก็ตแชร์

ส่องตลาดรวมน้ำดื่มไทยมูลค่า 3.80 หมื่นล้านบาท ร้อนแรง สิงห์ ส่งสินค้าใหม่ น้ำดื่มสิงห์ขวดใส นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET 1 รีไซเคิลได้ 100% ออกแบบโลโก้ลายนูนบนขวดแทน เข้ามาสู่ตลาดครั้งแรก และเป็นสินค้าที่มีพอร์ตโฟลิโอยอดขายสูงสุด เดินหน้ารักษาผู้นำตลาด

ในที่สุด สิงห์ เบอร์ใหญ่ในตลาดน้ำของประเทศไทย ทั้งน้ำดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ และน้ำดื่มแบบมีแอลกอฮอล์ ได้ประกาศแผนรุกตลาดน้ำในประเทศไทยครั้งสำคัญ ด้วยการส่งสินค้าใหม่ “น้ำดื่มสิงห์ขวดใส” เป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET 1 ที่รีไซเคิลได้ 100% มีโลโก้ลายนูนบนขวดแทนทำให้ไม่มีฉลาก แม้ว่าจะไม่ได้ทำเป็นรายแรกในแบรนด์น้ำดื่มของประเทศไทย แต่การเข้ามาปรับในครั้งนี้ สร้างแรงกระเพื่อมให้แก่ตลาดน้ำดื่มไทยมูลค่ากว่า 3.80 หมื่นล้านบาท ครั้งใหญ่ในรอบปีนี้

ส่องภาพรวมตลาดน้ำดื่มของประเทศไทยมูลค่า 38,000 ล้านบาท ในปีก่อน น้ำดื่มสิงห์ ครองผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 20% ในตลาดน้ำดื่มแบบขวด PET และขวดแก้ว รองลงมา คริสตัล มีส่วนแบ่งการตลาด 18.6% อันดับสาม เนสท์เล่ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 11.4% ซึ่งการขยับของรายใหญ่ย่อมมีผลต่อตลาดครั้งสำคัญเสมอ! 

 

“น.ส.พรรณทิพย์ ลีตะชีวะ” ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดแบรนด์นอนแอลกอฮอล์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ฉายภาพการปรับแผนของสิงห์ ไปสู่ “น้ำดื่มสิงห์ขวดใส” นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET 1 สามารถ รีไซเคิลได้ 100% ออกแบบโลโก้ลายนูนบนขวดแทนเพื่อช่วยลดการใช้ฉลากพลาสติก เหมือนที่ผ่านมา โดยบริษัทมีขนาดใหญ่ การปรับเปลี่ยนจึงต้องใช้เวลาดำเนินการ และได้เริ่มปรับไลน์การผลิตในโรงงานผลิตน้ำดื่มที่วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นแห่งแรกแล้ว

ตามแผนได้เริ่มปรับขยายไลน์การผลิตสินค้า ที่โรงงานวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา  หลังจากภายในปี 2568 จะขยายการผลิตน้ำดื่มแบบขวดใสแบบไม่มีฉลากให้ครอบคลุมโรงงานน้ำดื่มทั้งหมด จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตน้ำดื่มรวม 5 แห่งทั้งใน วังน้อย สิงห์บุรี มหาสารคาม เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี รองรับความต้องการของตลาด ส่วนตลาดที่มีความต้องการสูง จะอยู่ใน พื้นที่ กทม. และปริมณฑล คาดว่าในปีนี้มีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รองรับตลาด และยอดขายของบริษัทที่ขยายตัว

ทำไม ‘สิงห์’ ผู้นำตลาด จึงปรับมารุก \'น้ำดื่มขวดแบบใส\' ครั้งแรก เปิดเหตุผลการปรับสู่ขวดใส 

อีกเหตุผลในการปรับเปลี่ยนสร้างน้ำดื่มสิงห์มาสู่ขวดใส เนื่องจากตอบโจทย์การมุ่งสร้างธุรกิจสู่ความยั่งยืน เนื่องจากไม่ต้องใช้ฉลาก จึงลดการใช้พลาสติกลงในเบื้องต้น 16 ตันต่อปี รวมถึงสอดรับกับแนวโน้มความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเจน Z ที่จะสนใจเรื่องความยั่งยืน และการดูแลสิ่งแวดล้อม จึงปรับมาสู่การเลือกใช้สินค้าในชีวิตประจำวัน และให้ความสำคัญกับสินค้าในกลุ่มนี้

อย่างไรก็ตาม ในอนาคต สิงห์ สนใจขยายบรรจุภัณฑ์ ขวดใส ไปสู่ขนาดอื่นๆ แต่ทั้งนี้ตามกฎหมายของ อย. ระบุว่า การทำบรรจุภัณฑ์ต้องแสดงรายละเอียดของตรา ชื่อ ปริมาตร และเลข อย. ให้มีความชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้รายละเอียด ทั้งหมดเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน

“สิงห์ได้รุกทำตลาดน้ำดื่มมาร่วม 50 ปีแล้ว มีฐานกลุ่มลูกค้าหลักอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่ชื่นชอบและให้การยอมรับในเรื่องคุณภาพสินค้า จึงทำให้แบรนด์ครองผู้นำในตลาดมายาวนาน”

เจาะตลาดรวมน้ำดื่มของไทย แบรนด์โลคอลขยายหนัก

“น.ส.พรรณทิพย์" ประเมินภาพรวมตลาดน้ำดื่มของประเทศไทยในปีก่อนมีมูลค่าประมาณ 38,000 ล้านบาท หรือมีปริมาณ 3,700 ล้านลิตร มีการขยายตัว 8.9% ในปีก่อน จากก่อนหน้านี้ตลาดติดลบต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงโควิด โดยการขยายตัวจากความสนใจของกลุ่มลูกค้าที่สนใจน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ และการขยายตัวของแบรนด์น้ำดื่มโลคอลในต่างจังหวัดที่มีมากขึ้น สำหรับตลาดรวม จะเป็นขวดขนาด 1.5 ลิตร ในสัดส่วน 40% มากที่สุด เนื่องจากเป็นขนาดแพ็กที่มี 6 ขวด ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค

สำหรับภาพรวมสิงห์ในปีก่อน ครองส่วนแบ่งการตลาดที่ 20% เป็นผู้นำตลาด และสร้างยอดขายรวมเติบโต 6% ซึ่งหากเปรียบเทียบเฉพาะน้ำดื่มที่มีแบรนด์ (Branded) ตลาดรวมจะขยายตัวที่ 5.6% ในปีก่อน

อย่างไรก็ตาม การที่สิงห์ได้เลือกเปิดตัว “น้ำดื่มสิงห์ขวดใส” นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET 1 รีไซเคิลได้ 100%  นำร่องด้วยขนาด 1.5 ลิตร และวางจำหน่ายในรูปแบบแพ็กเท่านั้น ผ่านห้างค้าปลีกอย่างโลตัสเป็นช่องทางแรก โดยเป็นพันธมิตรของบริษัทมายาวนาน และเป็นช่องทางที่สินค้าขนาด 1.5 ลิตรได้รับความนิยมสูง และสร้างยอดขายเติบโตดีต่อเนื่อง

เปิดแผนการตลาดสิงห์ ชิงมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม

แผนการตลาดของน้ำดื่มสิงห์ แบรนด์จะร่วมต่อยอดส่งแคมเปญทำการตลาดตลอดปี การนำเสนอสินค้าที่มีนวัตกรรมสู่กลุ่มลูกค้า พร้อมเน้นทำตลาดผ่านออนไลน์ เพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยประเมินว่า ภายในปี 2567 จะสร้างยอดขายรวมเติบโต 7% จากปีก่อน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดที่ 20.5% อยู่ในลำดับหนึ่งของตลาด หรือสร้างยอดขายเพิ่มประมาณ 100 ล้านลิตร

จากในปีก่อน สร้างยอดขายรวมเติบโต 6% พร้อมมีส่วนแบ่งการตลาด 20% รักษาผู้นำในตลาดน้ำดื่มในประเทศไทยมาต่อเนื่อง

ภาพรวมสินค้าน้ำดื่มสิงห์ มี 5 ขนาด ได้แก่ 330 มล. 600 มล. 750 มล. ขนาด 1.5 ลิตร และ 6 ลิตร โดยสัดส่วนยอดขายหลักมาจากน้ำดื่ม ขนาด 1.5 ลิตร มากที่สุด สัดส่วน 49% รองลงมา 600 มล. สัดส่วน 41% ส่วนอันดับต่อมาคือ ขนาด 750 มล. ทั้งนี้ภาพรวมยอดขายของกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ จะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของยอดขายรวมทั้งบริษัท

อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำดื่มในประเทศไทย ที่มีมูลค่า 3.80 หมื่นล้านบาท ประเมินว่าในปี 2567 คาดว่าตลาดรวมจะขยายตัวได้ 5%

นวัตกรรมขวดของสิงห์ มุ่งสร้างความยั่งยืน

“น.ส.พรรณทิพย์"  กล่าวถึง นวัตกรรม ขวดน้ำสิงห์ สามารถนำเข้าสู่กระบวนการ Recycle และ Upcycling ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการบดคัดแยกฉลาก ช่วยประหยัดพลังงาน และลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการขนส่ง จนไปถึงกระบวนการ Upcycling เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ 

อีกทั้ง น้ำดื่มสิงห์ ได้ร่วมทำโครงการสิ่งแวดล้อมกับแบรนด์แฟชั่นของไทยอย่าง “PIPATCHARA” กับผลงาน Collection พิเศษที่ผลิตจาก ขวดน้ำดื่มสิงห์ PET และฝาขวด PET ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่าง ล่าสุด น้ำดื่มสิงห์ ได้ทำโครงการ Collaboration สุดพิเศษ Singha Drinking Water X Reroute Collection เป็น Special Project จากความตั้งใจของทั้งสองแบรนด์เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน สู่การนำขวดน้ำดื่มสิงห์มาผลิตเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้า รวมถึงที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญกับโครงการที่สร้างผลกระทบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม และดำเนินโครงการในหลายด้าน

ทำไม ‘สิงห์’ ผู้นำตลาด จึงปรับมารุก \'น้ำดื่มขวดแบบใส\' ครั้งแรก

นอกจากนี้ น้ำดื่มสิงห์ ร่วมมือกับโลตัส จัดทำแคมเปญ “แยก แลก ลุ้น” โดยเมื่อผู้บริโภคซื้อน้ำดื่มสิงห์ ขวดใสแบบใหม่ ได้ร่วมโครงการรักษ์โลกไปพร้อมกัน ได้แก่ 1. แยก เมื่อน้ำดื่มสิงห์ ขวดใสรักษ์โลก ครบ 3 แพ็ก จะได้รับถุง Recycle Bag สำหรับแยกขวด PET เพื่อนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมาคืนทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนที่โลตัส 30 สาขาที่ร่วมโครงการ 2.แลก ผู้บริโภคสามารถร่วมสนุกเพื่อต่อยอดการรักษ์โลก โดยขวด PET ทุกขวดที่เก็บกลับมา สามารถนำไปแลกของรางวัล เช่น กระเป๋าผ้า แก้วน้ำ Tumbler หรือลุ้นรับ เสื้อยืดลายน้ำดื่มสิงห์ และ 3. ทุกยอดการซื้อ มีสิทธิลุ้น เสื้อผ้าคอลเลกชัน “Singha Drinking Water X Reroute” และรางวัลต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART Apps ทั้งหมดร่วมดำเนินธุรกิจที่ตอบสนองสู่ความยั่งยืน ไปพร้อมกัน ทั้งน้ำดื่มสิงห์ และโลตัส

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์