‘แอลจี’ ลุยแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักแห่งแรกในโลก มุ่งสร้างแบรนด์ รักษาผู้นำ

Key Points: 

• แอลจี ส่งโมเดลธุรกิจใหม่ ร้านสะดวกซักแฟรนไชส์ LG Laundry Crew 
• เปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในโลก คิดค้นจากทีมไทย 
• เจาะตลาดร้านซักผ้าในประเทศไทย โดยเฉพาะร้านซักผ้าหยอดเหรียญ 
• สร้างโมเดลธุรกิจแตกต่าง ไม่คิดค่าแฟรนไชส์ และค่าแฟรนไชส์ซี

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าประเทศไทยมูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาท เป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและออกสินค้ารุ่นใหม่มากระตุ้นการใช้จ่าย ร่วมถึงการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ 

แอลจี แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ปักหลักทำตลาดในไทย พร้อมจัดตั้งโรงงานผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีทั้ง เครื่องซักผ้าฝาบนเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เครื่องปรับอากาศภายในบ้านคอมเพรสเซอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน โดยเป็นฐานการผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกทั่วโลก ในปี 2567 แอลจี ยังขยายโมเดลธุรกิจใหม่ในไทย ผ่าน ร้านสะดวกซัก LG Laundry Crew แห่งแรกของโลก

อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอลจี เห็นโอกาสของตลาดร้านเครื่องซักผ้าในไทยที่ขยายตัวสูง  โดยผู้ประกอบการร้านเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ ใช้แบรนด์แอลจีในสัดส่วน 80-90% 

การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่นี้ คิดค้นจากทีมงานแอลจี ประเทศไทย และเสนอไปยัง แอลจี โกลบอล พิจารณาและเห็นชอบให้แอลจี ร่วมดำเนินการจัดทำโมเดลนี้แห่งแรกในประเทศ ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางสร้างแบรนด์แอลจีให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในทั่วประเทศ โดยเฉพาะร้านเครื่องซักผ้าในชุมชน และตลาดต่างจังหวัด

รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ของแอลจี จัดทำสู่โมเดลใหม่ที่วางรูปแบบแตกต่างจากร้านแฟรนไชส์ทั่วไป โดยไม่คิดค่าบริการแรกเข้า และไม่มีค่าแฟรนไชส์ซี แต่จะเก็บจากค่าลงทุนเปิดร้านตามขนาดของธุรกิจ เริ่มตั้งแต่ขนาด S ลงทุน 1.5 ล้านบาท ขนาด M ลงทุน 2 ล้านบาท และ XL ลงทุน 3 ล้านบาท พร้อมกันนี้จะมีทีมช่างของแอลจี เข้าไปดูแลระบบและบริการหลังการขายหากเครื่องซักผ้ามีปัญหา เป็นอีกจุดแข็งที่ต่างจากแบรนด์อื่นๆ

“แอลจีไม่ต้องการเข้าไปแข่งขันกับผู้ประกอบการในตลาดร้านซักผ้า ที่ปัจจุบันมี 30-40 ราย แต่ต้องการนำเสนอแบรนด์สู่กลุ่มลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการแบรนด์แอลจี เพิ่มทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้า"

ร้านต้นแบบแฟรนไชส์ LG Laundry Crew แห่งแรกของโลกเปิดบริการแล้วย่านรามคำแหงซอย 8 ประเมินว่า กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาร่วมลงทุนเป็นพาร์ตเนอร์กับแอลจี จะคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 2-4 ปี หรือขึ้นอยู่กับโมเดลของธุรกิจ

อำนาจ ประเมินต่อกับภาพรวมตลาดเครื่องซักผ้าในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัว 5% จากปีก่อน จากความต้องการของกลุ่มลูกค้าและตลาด รวมถึงกลุ่มเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ที่มีความต้องการมากขึ้น โดยแอลจี จะมุ่งขยายตลาดและสร้างแบรนด์ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาผู้นำในตลาดเครื่องซักผ้าของประเทศไทยต่อไป

สำหรับตลาดเครื่องซักผ้าในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 14,300 ล้านบาท แอลจีมีส่วนแบ่งการตลาด 34.3% ในปีก่อน เป็นผู้นำในตลาด เป็นส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ครองส่วนแบ่ง 33.7% สำหรับยอดขายเครื่องซักผ้าในปีก่อน ขยายตัว 3% มากกว่าปีก่อนหน้ามีการขยายตัว 2% โดยการเติบโตสูงกว่าตลาด มาจากสินค้ากลุ่มพรีเมียมที่ได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนตลาดรวมเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ ที่เป็นร้านค้าเครื่องซักผ้าต่างๆ คาดธุรกิจนี้มีเม็ดเงินสะพัดจากค่าบริการประมาณ 12,000 ล้านบาท และตลาดยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวแต่อย่างใด

“ได้เคยประเมินอายุการใช้งานของแบรนด์เครื่องซักผ้าของกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปในตลาดเฉลี่ย 8 ปี ส่วนเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ มีอายุการใช้งาน 4-5 ปี แต่แอลจี มีอายุการใช้งานถึง 12 ปี จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ร้านเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ หันมาใช้แบรนด์แอลจี ร่วมทำตลาดจำนวนมาก กลายเป็นแบรนด์หลักในตลาดนี้ ทั้งที่แอลจีไม่เคยทำตลาดในกลุ่มนี้มาก่อน”

ในระยะ 3 ปีข้างหน้า รายได้จากธุรกิจใหม่นี้ จะมีสัดส่วน 2-3% ของรายได้รวมของแอลจีในประเทศไทย