‘เซ็นทรัล รีเทล’ ประกาศแผนปี 67 ทุ่มงบ 2.2-2.4 หมื่นล้านบาท ขยาย 4 กลุ่มธุรกิจ
เปิดแผนลงทุน ‘เซ็นทรัล รีเทล’ ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกไทย เดินหน้าใช้งบ 22,000-24,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจรีเทลครั้งใหญ่ ใน4 กลุ่มธุรกิจ กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฟู้ด กลุ่มฮาร์ดไลน์ กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 9-11%
Key Points:
- เจาะแผนลงทุนยักษ์ใหญ่ค้าปลีกไทย เซ็นทรัล รีเทล
- มุ่งโฟกัส 4 กลุ่มธุรกิจ ปักหลักลงทุนในไทย เวียดนาม อิตาลี
- พร้อมกลยุทธ์ CRC OMNI-Intelligence สร้างรีเทลแข็งแกร่ง
- วางเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 9-11% EBITDA เติบโต 15-17%
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนของเซ็นทรัล รีเทล ในปี 2567 ยังเดินหน้าใช้งบลงทุน 22,000-24,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจรีเทลใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฟู้ด กลุ่มฮาร์ดไลน์ กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ โดยการใช้งบลงทุนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน
"ได้วางกลยุทธ์บนคอนเซ็ปต์ของ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือ การบริหารธุรกิจทุกกลุ่มของเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำการเป็นเบอร์หนึ่ง ด้วยผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ดี รวมทั้งมีการวางกลยุทธ์เรื่องการสร้างความยั่งยืน ให้เข้มข้นไปอีกขั้น”
แผนการขยาย 4 กลุ่มธุรกิจหลักในเครือ ได้แก่
- กลุ่มแฟชั่น มุ่งการพัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง รวมถึงมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปในเวียดนาม
- กลุ่มฟู้ด มุ่งขยาย โก โฮลเซลล์ (GO Wholesale) อีก 7 สาขา เพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่สำหรับทุกๆ คน เป็น The New Choice For All สำหรับลูกค้า ผู้ประกอบการ และพาร์ทเนอร์ทุกคน รวมถึงมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย
- ประเทศเวียดนาม มีแผนเปิด ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา ถือเป็น Winning Format ที่ได้รับการตอบรับดี
3. กลุ่มฮาร์ดไลน์ มุ่งขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวทอีก 4 สาขาและได้ทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
4. กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าหมายในสิ้นปี 2567 มีสาขารวมจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจได้แก่ CRC OMNI-Intelligence ประกอบไปด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ (5R) ดังต่อไปนี้
- Revolutionise Core Strength คือ การยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักใน Multi-Format, Multi-Category และ Multi-Market มุ่งเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงรวมถึงการยกระดับเรื่อง Synergy และการทำ M&A เพื่อเพิ่ม Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจ
- Reinforce Financial Resilience คือ การทำให้สถานภาพทางการเงินมีความแข็งแกร่งและมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นและมีความยืดหยุ่นทางด้านการเงิน บนหลักการบริหาร 3C (Cash, Cost, Capex)
- Reinvent Beyond Retail คือ การต่อยอดธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีก เช่น การเข้าไปเป็นส่วนสำคัญใน Community ต่างๆ ในแต่ละ Category เพื่อสร้าง Network และValue ในระยะยาวให้กับธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล รวมถึงการขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้า Scale up อย่างต่อเนื่อง
- Reimagine Human Capital คือ การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้วยการรวม Intelligence ของ AI และ HI เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มออมนิแชแนลแบบทวีคูณ Rally Green Impact คือ การยกระดับการทำ Green Transition ด้วยการผนึกกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ มาร่วมมือกันแก้ปัญหา Climate Change เพื่อไม่ให้ไปสู่ Climate Crisis โดยการลดการใช้พลังงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโลกสีเขียวเพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง
ทั้งนี้จากแผน CRC OMNI-Intelligence ที่เซ็นทรัล รีเทล วางไว้ มีเป้าหมายผลประกอบการในปี 2567 สร้างรายได้เติบโต 9-11% EBITDA เติบโต 15-17%
“เซ็นทรัล รีเทล มุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้เผชิญกับกระแส Disruption จากเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค การเข้ามาของ Generative AI และ Climate Change แต่ด้วยอีโคซิสเต็มของเซ็นทรัล รีเทล ที่สมบูรณ์แบบ ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว มีเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากการบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชียโดยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI และได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESGRating ประจำปี 2566 ในระดับ AAA"
