‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ผนึกพาร์ทเนอร์ระดับโลก ดึงทัวริสต์ทั่วโลกช้อปไทย

Key Points: 

• เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมมือพาร์ทเนอร์ระดับโลก ทั้งในจีน เกาหลี ฮ่องกง
• วางกลยุทธ์ดึงทั่วโลกมาชอปปิ้งในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจคึกคัก 
• การเสริมมาตรการความปลอดภัยในสาขาหลักท่องเที่ยว 15 แห่ง

ภาครีเทลของประเทศไทย หนึ่งในแรงหนุนกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยขนาดของอุตสาหกรรมค้าปลีกและบริการของประเทศไทยมูลค่า 4.4 ล้านบาท โดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ จึงเดินหน้าร่วมกระตุ้นค้าปลีกไทยให้คึกคักตลอดปี ผ่านการดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาประเทศไทย สอดรับนโยบายของภาครัฐ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

สำหรับช่วงไตรมาสแรก เซ็นทรัลพัฒนา ได้ร่วมมือพันธมิตรระดับโลก WeChat Pay และ Linkiebuy ขยายช่องทางการขายสินค้า เจาะตลาดจีนบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม และร่วมกับ Lotte Duty Free ประเทศเกาหลี ทำ Cross Membership ร่วมกับ The 1 มอบสิทธิพิเศษพิเศษ และร่วมเปิด Klook Lounge พื้นที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่แรกที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อให้เป็นพื้นที่บริการการท่องเที่ยวแบบครบวงจร แห่งแรกในอาเซียน 

 

"ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเซ็นทรัลพัฒนา มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว จากการมีศูนย์การค้าในเครือมากถึง 40 สาขา โดยมีศูนย์การค้าให้บริการอยู่ในจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทยถึง 15 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย

ทั้งนี้ตั้งแต่ภาคกลางและภาคตะวันออก อาทิ กรุงเทพมหานครฯ, อยุธยา, ชลบุรี, จันทบุรี, ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย, ภาคอีสาน ได้แก่ อุดรธานี, ภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ไปจนถึงเกาะสมุย โดยกลยุทธ์ที่ได้ดำเนินการ ได้มุ่งต่อยอดสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบ Online to Offline พร้อมสร้าง Mega Magnet ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้ามาเที่ยวไทย ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยโต

 

“ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยเกิน 3 ล้านคนแล้ว สร้างรายได้มากกว่า 1 แสนล้านบาท สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 5.1 แสนคน, มาเลเซีย 3.2 แสนคน, เกาหลีใต้ 2.2, รัสเซีย 2.2 แสนคน, แสนคน และอินเดีย 1.6 แสนคน”

ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนา จึงได้เร่งจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกและการร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่าน 3 กิจกรรมใหญ่ ได้แก่

1. Global Partnerships strengthens ผนึกพันธมิตรระดับโลก: ร่วมมือกับ WeChat Pay และ Linkiebuy ขยายช่องทางการขายสินค้าแบรนด์ในเครือเซ็นทรัล โดยด้วย WeChat Mini Program ซึ่ง Mini Program เป็นแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน ที่ซ้อนอยู่บน WeChat ในปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานรายเดือน (MAU) ของ WeChat อยู่ที่ 1.36 พันล้านคน ส่วน WeChat Pay ประมาณ 1 พันล้าน Transaction ต่อวัน และ Mini Program ราว 1.1 พันล้านคน ทำให้นักช้อปชาวจีนจะเข้าถึงแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลได้อย่างสะดวก พร้อมสามารถชำระเงินพร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษผ่าน WeChat Pay ได้เลยทันที ก่อนจะเดินทางมารับสินค้าจริงที่ประเทศไทย

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล ภูเก็ต จับมือกับ Lotte Duty Free ประเทศเกาหลี ทำ Cross Membership ร่วมกับ The 1 มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งในปี 2567 นี้ ลูกค้าล็อตเต้สามารถรับสิทธิพิเศษ เมื่อเดินทางมาประเทศไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต 2 ทัวร์ริสต์มอลล์ ให้เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวเกาหลี ส่วนลูกค้าสมาชิก The 1 และ The 1 Exclusive สามารถกดรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้บน The 1 แอปพลิเคชัน และแลกรับสิทธิ์พร้อมกับใช้บริการได้ที่ล็อตเต้ ดิวตี้ ฟรี 4 สาขาหลักในเกาหลีใต้ ได้แก่ สาขาเมียงดง, เวิลด์ทาวเวอร์, ปูซาน, และ เซจู

2. The 1st Tourist Hub Destination in Southeast Asia ฮับของนักท่องเที่ยว แห่งแรกในอาเชียน: Klook แพลตฟอร์มท่องเที่ยวชั้นนำสัญชาติฮ่องกง ร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวให้ครบทุกมิติ เปิดให้บริการ “คลูก เลานจ์ (Klook Lounge)” พื้นที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจร สำหรับนักท่องเที่ยวแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ โซนฮักไทย ชั้น 1 ซึ่งเปิดให้บริการแล้ววันนี้

3. Global Magnet & Tenant Local Products: สำหรับเซ็นทรัลเวิลด์ โดยพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกครั้งที่มาเยือน โดยมีแบรนด์ดังหลากหลายไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว อาทิ

• Flagship store: Apple Store, Uniqlo, Adidas
• One & Only in Thailand: Lululemon, Cheesecake Factory, Canton Paradise, Tai Er
• ร้านอาหารระดับ Michelin: ปังชา, บ้านเบญจรงค์ ปาย, Tsuta Ramen

อีกทั้งมีโซน Hug Thai ได้ปรับปรุงขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อยู่ในบริเวณชั้น 1 ประกอบไปด้วย Hug Thai Food court: Local Hero – Street Foods, Hug Craft: Thai Souvenir, Good Goods และ จริงใจมาร์เก็ต: สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นคุณภาพแบบร่วมสมัย 

4. การเสริมมาตรการความปลอดภัย ผ่าน Tourists Malls 15 สาขาทั่วประเทศ คือ เซ็นทรัลเวิลด์, วิลเลจ, ภูเก็ต, พระราม9, พัทยา, มารีนา, จันทบุรี, อยุธยา, ศรีราชา, เชียงใหม่, เชียงใหม่ แอร์ พอร์ต, เชียงราย, อุดรธานี, สมุย และ หาดใหญ่ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ

• บุคลากร: เพิ่มเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมซ้อมแผนเผชิญเหตุจากสถาบันชั้นนำ, จัดวางกำลังพนักงานรปภ., เพิ่มทีมเจ้าหน้าที่ First Responder Team และ Fire Fighter
• ด้านอุปกรณ์-เครื่องมือ: ติดกล้อง CCTV x 4,000 ตัว ที่ Tourist malls 15 สาขาทั่วประเทศ, เพิ่ม QR Smart Help กว่า 2,500 จุด, Call Point Service 900 จุด, ติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจ (AED) และอุปกรณ์แจ้งเหตุ-เตือนภัยประจำอาคาร
• ด้านการบริหารจัดการแผนเผชิญเหตุ: ผนึกภาครัฐและเอกชนสร้างเครื่อข่ายความปลอดภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ, หน่วยงานข่าวและความมั่นคง, ผู้ประกอบการร้านค้า โดยเซ็นทรัล ภูเก็ต ร่วมมือกับตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสถานกงศุล เพื่อดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยว