‘ฮาเวลส์’ ไอศกรีมแบรนด์ไทยในตำนาน กลับมาทวงบัลลังก์ความอร่อย
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของ “ฮาเวลส์” ร้านไอศกรีมชื่อดังขายดีที่เจอได้ตามห้างสรรพสินค้าในอดีต และจู่ๆ ก็หายไปจากแวดวงกิจการไอศกรีมแฟรนไชส์ ? ล่าสุดไอศกรีมนมในตำนานฝีมือคนไทยเจ้านี้กลับมาเปิดตัวอีกครั้งพร้อมความปังมากกว่าเดิม
Key Points:
- “ฮาเวลส์” เป็นแบรนด์ไอศกรีมของคนไทย เปิดตัวในปี 1999 ด้วยรสชาติของนมที่เข้มข้นหอมมัน ทำให้ได้รับความนิยมได้ไม่ยาก จนสามารถขยายสาขาออกไปทั้ง กทม. และจังหวัดอื่นๆ ในภาคกลางได้ถึง 22 สาขา ในเวลาเพียง 3 ปี
- แม้ว่าจะเป็น “ร้านไอศกรีม” ขายดีและมีราคาที่เป็นมิตร แต่เนื่องจากในช่วงนั้นมีไอศกรีมแฟรนไชส์ของต่างประเทศเข้ามาตีตลาดและพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าหลายแบรนด์ ทำให้ฮาเวลส์ไปต่อได้ยากและต้องทยอยปิดกิจการไปในที่สุด
- หลังห่างหายไปนานไอศกรีมนมฮาเวลส์ของ “ษิริพงศ์ อัครศรียุกต์” ก็กลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในรูปแบบร้านสแตนอโลนที่แรกใน จ.นนทบุรี ที่ครั้งนี้เพิ่มเมนูอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ภายใต้ชื่อใหม่ว่า “Hawell’s Ice-Cream cafe’ & Restaurant”
ชื่อของไอกรีม “ฮาเวลส์” หรือ “Hawell’s” อาจไม่เป็นที่คุ้นหูสำหรับคนรุ่นใหม่มากนัก แต่สำหรับวัยรุ่นในช่วงปี 2000 เรียกได้ว่าเป็นไอศกรีมสุดฮิตที่ตามห้างสรรพสินค้าจะมีคนต่อคิวกันยาวเหยียดกว่าจะได้ซื้อ มีจุดเด่นอยู่ที่ไอศกรีมเนื้อนุ่มละเอียด หอมกลิ่นนม และมีรสชาติเข้มข้นกล่อมกลม จนในตอนนั้นหลายคนคิดว่าน่าจะเป็นแบรนด์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
แต่ความจริงแล้วฮาเวลส์เป็นไอศกรีมสัญชาติไทยที่มีจุดเริ่มต้นจากความชื่นชอบหลงใหลในไอศกรีมมาตั้งแต่เด็กของ “ษิริพงศ์ อัครศรียุกต์” ที่เข้าสู่แวดวงไอศกรีมจากการเป็นพนักงานของร้านไอศกรีมแฟรนไชส์ชื่อดังแบรนด์หนึ่งที่เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย ก่อนจะหันมาเริ่มก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองที่แม้ว่าจะต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งก็สามารถกลับมาได้ แต่ก็มีเหตุทำให้ต้องห่างหายไปอีกครั้ง จนล่าสุด “ฮาเวลส์” หวนคืนสู่วงการไอศกรีมด้วยการเปิดร้านแบบสแตนอโลนสาขาแรกเมื่อเดือน ต.ค. 2023 ที่ผ่านมา และเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังมีคนโพสต์ภาพและวิดีโอลงโซเชียลมีเดีย
- ก่อนจะมาเป็น “ฮาเวลส์” ไอศกรีมไทยในตำนาน
ไอศกรีมฮาเวลส์แม้จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1999 แต่แท้จริงแล้วมีความเป็นมาที่ย้อนไปไกลมากกว่านั้น จุดเริ่มต้นนั้นมาจากความชื่นชอบไอศกรีมตั้งแต่ยังเด็กของ “ษิริพงศ์ อัครศรียุกต์” ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บ.ฮาเวลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ย้อนกลับไปช่วงที่เขาจบ ม.6 ก็เริ่มทำงานพิเศษที่ร้านพิซซ่าฮัทในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย ต่อมาเมื่อทราบข่าวว่าผู้บริหารจะนำร้านไอศกรีม “สเวนเซ่นส์” เข้ามาขายในไทย จึงทำเรื่องขอย้ายไปอยู่โรงงานผลิตไอศกรีมแทน ทำให้มีโอกาสชิมไอศกรีมทุกรสก่อนที่จะส่งออกไปจำหน่าย
ต่อมาได้มีส่วนร่วมคิดค้นรสชาติใหม่ๆ ของไอศกรีม จนได้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารรวมถึงร่วมก่อตั้งไอศกรีมอังเคิลเรย์ และคิดค้นไอศกรีมมากถึง 60 รสชาติ จากนั้นก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารของร้าน “แดรี่ควีน” ในเครือพาราวินเซอร์ และเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป แต่พออายุ 24 ปี ก็ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารทำให้ขาดช่วงในการงานไป แต่เขาก็ยังคงมีความสนใจในธุรกิจเกี่ยวกับไอศกรีม จึงกลับมาสร้างแบรนด์ไอศกรีม “Is it Ice Cream” (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Donald Rabbit) ที่ขายไอศกรีมเค้กส่งตรงถึงบ้านทั่ว กทม. แม้ว่าต้องพบกับ “วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง” ทำให้กิจการไม่สามารถไปต่อได้ แต่ก็สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้อีกครั้งในชื่อ “Hawell’s”
- เพราะทำด้วยความชอบ เมื่อล้มจึงลุกได้
หลังจากผ่านเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ไอศกรีมของ “ษิริพงศ์ อัครศรียุกต์” ต้องสะดุดลง แต่แล้วเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 1999 ร้านไอศกรีม “Hawell’s” สาขาแรกก็เปิดตัวขึ้นที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดย ษิริพงศ์ มองว่า “ดีเกินความคาดหมายเสียด้วยซ้ำ”
ด้วยความที่มีรสชาติอร่อยโดนใจลูกค้าหลายกลุ่ม และโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของนม ที่สำคัญมีราคาสบายกระเป๋าเริ่มต้นเพียงแค่หลักสิบเท่านั้น ทำให้ในช่วงแรกที่เปิดร้านในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดอื่นๆ จะมีลูกค้ามาต่อแถวซื้อไอศกรีมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่น ซึ่งในตอนนั้นลูกค้าบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮาเวลส์เป็นแบรนด์ของคนไทย
จากความสำเร็จของหน้าร้านสาขาแรกทำให้หลังจากนั้นภายใน 3 ปี สามารถขยายสาขาเพิ่มได้ถึง 22 สาขาในห้างสรรพสินค้าทั้งใน กทม. ปริมณฑล และบางจังหวัดในภาคกลาง แต่หลังจากนั้นไม่นานร้านไอศกรีมร้านนี้ก็ต้องพบกับอุปสรรคอีกครั้ง
ร้านไอศกรีม Hawell’s เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
เพราะว่าฮาเวลส์ไม่ใช่ร้านไอศกรีมร้านเดียวในห้าง แน่นอนว่าต้องมีคู่แข่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา โดยเฉพาะแฟรนไชส์ที่มาจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นแบรนด์ไทยธรรมดาในบางครั้งก็ไม่สามารถสู้คู่แข่งรายใหญ่ได้ทำให้ต้องเริ่มทยอยปิดสาขาไปเรื่อยๆ แม้ในบางสาขาจะยังขายดีมากก็ตามแต่ห้างกลับเลือกที่จะไม่ต่อสัญญา จนท้ายที่สุด “ฮาเวลส์” สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่เป็นสาขาดั้งเดิมก็กลายเป็นสาขาสุดท้ายไปในที่สุด
แต่เพราะความชอบในไอศกรีมบวกกับความพยายามและไม่ยอมแพ้ทำให้ษิริพงศ์ เดินหน้าหาลู่ทางที่จะกลับมาทำธุรกิจไอศกรีมได้อีกครั้ง แม้ว่าระหว่างทางเขาจะหันไปหยิบจับธุรกิจอื่นบ้าง เช่น โรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้มีความสุขในกิจการเท่าไรนักแม้ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่นั่นกลับกลายเป็นต้นทุนที่ทำให้เขากลับเข้ามาสู่ตลาดไอศกรีมได้อีกครั้ง แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ร้านขึ้นห้างเหมือนเดิมแล้ว เพราะเปลี่ยนมาสร้างร้านแบบสแตนอโลนริมถนนแทน และเมื่อโพสต์เรื่องความคืบหน้าของการทำร้านใหม่ลงในเฟซบุ๊กปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดี โดยเฉพาะกำลังใจจากลูกค้าเก่าที่อยากให้ไอศกรีมเจ้าโปรดกลับมาขาย
ในช่วงโรคระบาดโควิด-19 ทำให้เขาได้มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น จึงเริ่มพัฒนาไอศกรีมสูตรใหม่ขึ้นมา แม้ว่าช่วงเวลานั้นจะยังไม่เหมาะสมที่จะเปิดร้าน แต่เขาก็ได้ผลิตฮาร์ดไอศกรีมออกมาจำหน่ายสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อหรือสั่งไปรับประทานที่บ้าน ที่เปิดตัวในวันที่ 8 ก.พ. 2021 และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเหมือนกับตอนที่ทำร้านไอศกรีมทำให้เขามีกำลังใจที่จะสู้ต่อ เพราะได้เห็นว่ายังมีลูกค้าอีกมากที่รอให้ “ฮาเวลส์” กลับมาขายอีกครั้ง เพราะเมื่อก่อนเขาเองก็ไม่เคยคิดว่าจะมีคนรอคอยไอศกรีมของเขามากขนาดนี้
และในวันที่ 28 ต.ค. 2023 “ฮาเวลส์” ก็กลับมาเปิดขายหน้าร้านอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน มีเมนูไอศกรีมเริ่มต้นที่ 25 บาท โดยครั้งนี้มีความแตกต่างจากในอดีตเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้มีแค่ไอศกรีมอย่างเดียวแล้ว แต่ยังมาพร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายภายใต้ชื่อ “Hawell’s Ice-Cream cafe’ & Restaurant” มีหน้าร้านแบบสแตนอโลนอยู่ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยทางผู้บริหารมองว่าการเปิดร้านใหม่รอบนี้ความหนาแน่นของลูกค้าอาจจะไม่เยอะเท่าในห้าง การมีเมนูให้เลือกมากขึ้นจะทำให้ร้านมีรายได้ที่มั่นคงกว่าการขายไอศกรีมเพียงอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน และครั้งนี้ก็ตั้งใจว่าจะทำให้กลายเป็นร้านไอศกรีมที่มีอายุมากกว่า 100 ปีให้ได้ และเป็นแบรนด์คนไทยที่สามารถต่อยอดไปในอนาคต
เมนูจาก Hawell’s Ice-Cream cafe’ & Restaurant
เรียกได้ว่าไอศกรีมนมฮาเวลส์คือแบรนด์คนไทยอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นจนเรียกว่าเป็น “ไอศกรีมนมในตำนาน” ก็ว่าได้ เพราะแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานกว่า 20 ปี ก็ยังมีลูกค้าเก่าๆ รอสนับสนุนอยู่ตลอด รวมถึงยังมีโอกาสขยายฐานลูกค้าออกไปในหมู่คนรุ่นใหม่ผ่านการรีแบรนด์ให้กลายเป็นร้านอาหารอีกด้วย เพราะหลังจากที่ประกาศว่าจะกลับมาขาย โลกออนไลน์เองก็ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้คนรุ่นใหม่หลายคนให้ความสนใจและอยากไปชิมสักครั้ง
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรัก ความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่ไม่ว่าจะเจอปัญหามากี่ครั้งก็ยังยืนหยัดที่จะกลับมาขายไอศกรีมให้ได้
อ้างอิงข้อมูล : Hawell’s