EXIM BANK เผยปี 66 ปล่อยกู้ใหม่กว่า 7 หมื่นล้าน กำไรสุทธิ 400 ล้าน

EXIM BANK เผยปี 66 ปล่อยกู้ใหม่กว่า 7 หมื่นล้าน กำไรสุทธิ 400 ล้าน

EXIM BANK เผยปี 66 ปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 7 หมื่นล้าน มีสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 1.75 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อเพื่อการลงทุน 1.2 แสนล้าน สินเชื่อ EGS กว่า 6.2 หมื่นล้าน กำไรสุทธิกว่า 400 ล้าน หนี้เสียกว่า 4.65% เผยแผนปี 67 ตอกย้ำ Green Development Bank

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2566 ของ EXIM BANK ว่า ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 7 หมื่นล้านบาท เป็นวงเงินขอผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 1 หมื่นล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้าง 1.75 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2 พันล้านบาท หรือ 4.32% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ กว่า 2 ใน 3 เป็นยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการลงทุนจำนวนรวม 1.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากปีก่อน ตอกย้ำบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา ซึ่งยกระดับเป็น “Green Development Bank” เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ควบคู่กับการยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้เติบโตสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance: ESG)

ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อคงค้าง ESG คิดเป็น 6.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 35.46% ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด และเพิ่มขึ้นถึง 33.65% จากปีก่อน ในจำนวนนี้เป็น SMEs 1.26 หมื่นล้านบาท โดย EXIM BANK พัฒนาเครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) ด้านการระดมทุนด้วย SME Green Bond มูลค่า 3.5 พันล้านบาท และด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมทางการเงิน เช่น สินเชื่อ Solar D-Carbon Financing สินเชื่อ EXIM Green Start เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจสีเขียว ผลักดันให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

นอกจากนี้ EXIM BANK ได้สานพลังกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ นำพาธุรกิจไทยขยายการค้าการลงทุนไปตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศทั้งสิ้น 4.9 หมื่นล้านบาท เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ ในปี 2566 มีสินเชื่อคงค้างในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และ ตลาดใหม่ (New Frontiers) 4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23.16% ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและสถานการณ์ความไม่สงบในหลายประเทศ EXIM BANK ยังเร่งเสริมสร้างความมั่นใจและภูมิคุ้มกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยผ่านบริการประกันการส่งออกและการลงทุน โดย ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและการลงทุนเท่ากับ 1.79 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.03% จากปีก่อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำหรับหนี้เสียนั้น มีจำนวน 8.1 พันล้านบาท คิดเป็น 4.65% ของสินเชื่อคงค้าง และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 190.70% ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มีกำไรจากการดำเนินงาน 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.27% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 456 ล้านบาท

ส่วนในปี 2567 EXIM BANK ยังคงเดินหน้าตอกย้ำบทบาทการเป็น Green Development Bank โดยมีแผนพัฒนาเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ หลายด้าน เช่น Blue Bond สนับสนุนธุรกิจที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ผลิตภัณฑ์สนับสนุนการลดคาร์บอน Scope ที่ 1-2-3 และเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 รวมทั้ง ขยายขอบเขตการให้บริการ อาทิ วาณิชธนกิจ (Investment Banking) ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นนอกเหนือจากสินเชื่อเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น

EXIM BANK เผยปี 66 ปล่อยกู้ใหม่กว่า 7 หมื่นล้าน กำไรสุทธิ 400 ล้าน