‘พราวกรุ๊ป’ ดึงพลังซินเนอร์ยี หนุนธุรกิจโต รับท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง!

‘พราวกรุ๊ป’ ดึงพลังซินเนอร์ยี หนุนธุรกิจโต รับท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง!

'พราวพุธ ลิปตพัลลภ' ทายาทธุรกิจเจน 3 จากตระกูลนักการเมืองชื่อดัง ในฐานะกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว หรือ 'พราวกรุ๊ป' ถือโอกาสอันดีเปิดบ้านลา เรสซิดองซ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อ 2 ก.พ. ฉลองการเปิดโฉมใหม่โรงแรม 'อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท' สุดหรูริมชายหาดหัวหิน

หลัง พราวกรุ๊ป เจ้าของพอร์ตโฟลิโอด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงท่องเที่ยว บริหารธุรกิจโรงแรม สวนสนุก และค้าปลีก ทุ่มงบรีโนเวตครั้งใหญ่รอบ 15 ปี นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อปี 2552 ด้วยเงินลงทุน 120 ล้านบาท ครอบคลุมห้องพัก 119 ห้องและพื้นที่ทั้งหมดฝั่งริมหาด (Beach Wing) จากห้องพักที่มีทั้งหมด 159 ห้อง นับรวมกับห้องพักส่วนต่อขยายอีก 40 ห้องฝั่งติดกับ “ศูนย์การค้า บลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ต มอลล์” โดยเปิดให้บริการส่วนต่อขยายดังกล่าวในปี 2556 และเพิ่งทำเป็น Pet Friendly เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยงที่ต้องการพามาพักโรงแรมด้วยเมื่อปี 2563

“โรงแรมอินเตอร์คอนฯ หัวหิน เริ่มออกแบบเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพราวยังไม่ได้กลับมาทำงาน เป็นคุณย่า (จรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ) ที่เข้ามาช่วยดู ด้วยความตั้งใจอยากทำโรงแรมดีที่สุดในหัวหิน” พราวพุธ ในชุดเดรสสีขาวเรียบหรู เล่าย้อนถึงที่มาของสถาปัตยกรรมกลิ่นอายโคโลเนียล ผสานการออกแบบสไตล์ไทย ขับเส้นสายของไม้สักให้โดดเด่นริมหาดดัง

“ในตอนนั้นแลนด์สเคปธุรกิจโรงแรมที่หัวหินยังเป็นตลาดระดับกลาง คนยังนึกภาพไม่ออกว่าการท่องเที่ยวแบบลักชัวรีเป็นอย่างไร กระทั่งโรงแรมอินเตอร์คอนฯ หัวหิน เปิดให้บริการ ได้กลายเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ช่วยอัปภาพลักษณ์หัวหินให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับลักชัวรีมากขึ้น”

แต่ความท้าทายสำคัญคือการต่อสู้กับกาลเวลา หลายโรงแรมเปิดมาได้สักพัก ก็ถึงคราวต้องรีโนเวตเพิ่มความสดใหม่ โรงแรมอินเตอร์คอนฯ หัวหิน ก็เช่นกัน ท่ามกลางการแข่งขันและเกิดขึ้นของโรงแรมใหม่ๆ ทำให้พราวกรุ๊ปตั้งโจทย์การรีโนเวตภายใต้ 2 โจทย์หลัก นั่นคือ Retouch” เสริมแต่ง เติมมิติใหม่ด้านการพักผ่อน เพิ่มไฮไลต์เข้าถึงรสชาติท้องถิ่น เช่น ประสบการณ์อาหารเช้า ด้วยการดึงบรรยากาศของตลาดโต้รุ่งมาไว้ที่นี่ และการเปิดตัว “อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน เอ็กซ์เพรส” รถไฟขนาดเล็กสีแดงเบอร์กันดีที่จะให้บริการรับส่งลูกค้าภายในบริเวณโรงแรม สื่อถึงยุคทองของการท่องเที่ยวด้วยรถไฟ โดยเฉพาะเมื่อมีเส้นทางรถไฟมาสู่หัวหินในช่วงปี 1920 และ Reinstall” ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทันสมัย

‘พราวกรุ๊ป’ ดึงพลังซินเนอร์ยี หนุนธุรกิจโต รับท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง!

ทั้งหมดต้องตอบความต้องการของลูกค้า “กลุ่มครอบครัว” (Family) ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของหัวหิน โดยตีความแตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ ที่เจาะกลุ่มแฟมิลี่เหมือนกัน ตรงที่เน้นให้ “คน 3 เจน” มาใช้เวลาอันมีค่าร่วมกัน ภายใต้บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น

ต่างแม้กระทั่งโรงแรมในเครืออีกแห่งอย่าง “ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต วานา นาวา หัวหิน” โรงแรมติดสวนน้ำ “วานา นาวา หัวหิน” ซึ่งมีภาพลักษณ์ความสนุกสนานของกลุ่มแฟมิลี่ นี่คือการวางคาแรกเตอร์ของแต่ละโรงแรมให้ชัด

‘พราวกรุ๊ป’ ดึงพลังซินเนอร์ยี หนุนธุรกิจโต รับท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง!

อีกสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันคือการรักษาฐาน “แฟนคลับ” ของโรงแรมแต่ละแห่ง ล่าสุด พราวกรุ๊ป เพิ่งพัฒนาโปรแกรมซีอาร์เอ็ม (CRM) ใหม่แล้วเสร็จ สามารถออกแบบโปรโมชันที่เหมาะกับลูกค้ารายนั้นๆ เพื่อเสริมแกร่งฐานลูกค้ากลุ่มเดินทางซ้ำ รวมถึงการสร้าง “พลังร่วม” (Synergy) กับธุรกิจในเครือ จะช่วยสร้างผลการดำเนินงานที่ดีแก่ภาพรวมของธุรกิจในหัวหินของพราวกรุ๊ปได้

“ไม่มีใครทำธุรกิจหลากหลายเท่ากับเราในหัวหิน จากจุดแข็งตรงนี้ทำให้เราสามารถออกแบบแพ็กเกจประสบการณ์ท่องเที่ยวและพักผ่อนแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี”

‘พราวกรุ๊ป’ ดึงพลังซินเนอร์ยี หนุนธุรกิจโต รับท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง!

ย้อนไปในยุคโควิด-19 ระบาด พราวพุธ ฉายภาพว่า นี่คือห้วงเวลาที่โรงแรมใน “หัวหิน” บูมถึงขีดสุด! จากการล็อกดาวน์ คนไทยออกไปเที่ยวไหนไม่ได้ ส่งผลให้ปี 2566 หัวหินมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศมาเยือน 5.8 ล้านคน สูงกว่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิดก็จริง แต่เมื่อดู “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” พบกว่ากลับมาแค่ 4 แสนกว่าคนเท่านั้น ฟื้นตัวแค่ 40% เทียบกับที่เคยได้ 1 ล้านคน อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้งตลาดจีน เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และอื่นๆ ที่หายไป จะเริ่มกลับมาในปี 2567 สวนทางกับตลาด “คนไทย” ที่อาจจะลดลงไปบ้าง เพราะเลือกไปเที่ยวต่างประเทศแทน แต่ถือว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก มั่นใจว่าลูกค้าต่างชาติจะช่วยเติมเต็มได้ และทำให้ปี 2567 โรงแรมอินเตอร์คอนฯ หัวหิน มีอัตราเข้าพักเกือบ 70% ขณะเดียวกันสามารถเพิ่มราคาห้องพักได้ 15% เทียบกับปีที่แล้วจากการทุ่มรีโนเวตครั้งใหญ่

“ถ้าเทียบกับ ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวที่พราวกรุ๊ปเข้าไปลงทุนเช่นกัน มองว่าการแข่งขันที่หัวหินสูงกว่ามาก จากดีมานด์ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในหัวหินเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพัก ถือว่าโหดกว่าภูเก็ตที่ตอนนี้ยอดจองเต็มเกือบจะทุกโรงแรม แม้ปีนี้ตลาดจีนจะหาย แต่ก็มีตลาดอื่นๆ เข้ามา เช่น จากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งรัสเซีย ยูเครน อิสราเอล และแถบตะวันออกกลาง กลับมาเที่ยวภูเก็ตกันแล้ว จึงมองว่าภาคท่องเที่ยวของภูเก็ตในปี 2567 จะดีกว่าปีที่แล้ว”

‘พราวกรุ๊ป’ ดึงพลังซินเนอร์ยี หนุนธุรกิจโต รับท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง!

พราวพุธ เล่าเพิ่มเติมถึงภาพรวมธุรกิจพราวกรุ๊ปว่า ปี 2566 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ “เห็นผลแบบเต็มปี!” สามารถปิดรายได้ปี 2566 ประมาณ 3,000 ล้านบาท เติบโตทั้งรายได้และกำไร หลังเปิดให้บริการ “โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท” เมื่อปี 2563 และเปิดสวนน้ำ “อันดา มันดา ภูเก็ต” เมื่อเดือน พ.ค. 2565 ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งอานิสงส์ภาคท่องเที่ยวภูเก็ตฟื้นตัวเร็ว

คาดว่าในปี 2567 พราวกรุ๊ปจะมีรายได้จากธุรกิจที่ “ภูเก็ต” จากโรงแรมและสวนน้ำดังกล่าว ครองสัดส่วนกว่า 60% ของรายได้ทั้งหมด เติบโต 20-30% เทียบกับปีที่แล้ว ส่วนรายได้จากธุรกิจที่ “หัวหิน” ประกอบด้วย โรงแรมอินเตอร์คอนฯ หัวหิน โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ฯ สวนน้ำวานา นาวา และอื่นๆ ครองสัดส่วน 30% น่าจะเห็นการเติบโตที่ 10%

ด้านการลงทุน “โรงแรมใหม่” อีกแห่งในภูเก็ต ติดสวนน้ำอันดา มันดา ล่าสุดจำเป็นต้องปรับแบบโรงแรมให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปในยุคหลังโควิด จากเดิมใช้ทฤษฎีเตรียมดึงกลุ่มแฟมิลี่แบบจ๋าๆ มาเข้าพัก แต่พอเห็นโครงสร้างนักท่องเที่ยวที่มาสวนน้ำอันดา มันดา จากทราฟฟิกทั้งหมด 5 แสนคนเมื่อปี 2566 เกินคาดการณ์ซึ่งตั้งไว้ 3.5 แสนคน พบว่ากลุ่มแฟมิลี่ไม่ได้มากอย่างที่คิด แต่เป็นกลุ่มเพื่อน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ขับรถมาเพื่อเที่ยวสวนน้ำทั้งวัน หลากหลายสัญชาติ ทำให้พราวกรุ๊ปต้อง “จับทิศทาง” ปรับหาจุดขายใหม่ๆ เพื่อดึงดูดคนเข้าพักโรงแรม ระหว่างนี้กำลังศึกษาเรื่องขนาดห้องพัก จำนวนห้อง และจะใช้แบรนด์โรงแรมระดับ 3 ดาว หรือ 4 ดาว ทุกดีเทลอยู่ระหว่างรอข้อสรุป

ส่วนโรงแรมอินเตอร์คอนฯ ภูเก็ต จะมีส่วนขยายบนเนื้อที่ 2 ไร่ฝั่งติดภูเขาที่เพิ่งซื้อ เพิ่มอีกหลักสิบห้องพัก คาดจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ แล้วเสร็จไม่เกิน 2 ปี

นอกจากนี้ พราวกรุ๊ปยังสนใจลงทุนพัฒนาโรงแรมใน “สมุย” ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา หลังซื้อที่ดินไว้แล้วแถบอ่าวพังกา ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสมุย...เป็นเดสติเนชันการลงทุนต่อไปของพราวกรุ๊ป!