บิ๊ก OR ส่งต่อพลัง ‘SDG’ พนง.องค์กร-พาร์ทเนอร์ สร้างอีโคซิสเต็มยั่งยืน

บิ๊ก OR ส่งต่อพลัง ‘SDG’  พนง.องค์กร-พาร์ทเนอร์ สร้างอีโคซิสเต็มยั่งยืน

“ยั่งยืน” เหมือนเป็นคำศักดิ์สิทธิ์และพันธกิจที่ผู้นำองค์กรยุคนี้มองข้ามไม่ได้ เพราะการเดินหน้าองค์กรอย่างมั่นคงและยั่งยืน คือภารกิจหลักที่ผู้นำต้องรับผิดชอบ

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ที่เข้ารับตำแหน่งซีอีโอคนที่สอง OR เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ประกาศวิสัยทัศน์ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น ที่จะนำพาองค์กร ด้วยแนวคิด Empowering All Toward Inclusive Growth เติมเต็มทุกโอกาสการเติบโตร่วมกัน ทั้งบุคลากรในองค์กรและพาร์ทเนอร์ Synergy ทั้ง 2 ส่วนเพื่อสร้าง Ecosystem ที่เข้มแข็งและยั่งยืน

บทบาทผู้นำองค์กร

ซีอีโอ OR สะท้อนบทบาทความเป็นผู้นำที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม การตัดสินใจที่ฉลาดบนพื้นฐานของข้อมูลข่าวสารที่มีประสิทธิภาพ การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. และการทุ่มเทในบทบาทหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ โดยต้องสร้างผลตอบแทนที่ดีกับสังคม ชุมชน ประชาชน ที่นั้นๆ ได้โอกาส และได้เรื่องสิ่งแวดล้อมไปด้วย

การดำเนินธุรกิจของ OR มี “SDG ในแบบฉบับ OR” เป็นแกนหลัก สอดรับกับแนวทาง ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) โดย S-Small คือ การโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก D-Diversified โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ และ G-Green โอกาสเพื่อสังคมสะอาด

ผู้นำ OR อธิบายว่า การดำเนินธุรกิจที่เคยสร้างสถานี เพื่อให้คนวิ่งเข้ามาเติมน้ำมัน ปัจจุบันทุกอย่างได้เปลี่ยนไป OR ผสมผสาน SDG กลายเป็น Ecosystem จนกลายเป็นโมเดลที่ตอบโจทย์คนตัวเล็ก SMEs ทั้งหลาย ด้วยการนำสินค้าจากชุมชนและสินค้าเกษตรที่ทีมงานคัดสรรมาวางขาย รวมพลังกับพาร์ทเนอร์สร้างเครือข่าย Ecosystem ไลฟ์สไตล์ที่รองรับผู้บริโภค และยังมุ่งสู่พลังงานสะอาด ทั้งติดตั้งโซล่ารูฟ การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะทั่วไป ตามเป้าหมาย OR 2030 Goals

OR ระดมความคิดของบรรดาผู้บริหาร เพื่อหาแนวทางในการทำให้ OR เดินหน้าได้อย่างยั่งยืนและมั่งคั่ง และยังให้โอกาสกับสังคม ชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งคิดหาวิธีการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อให้สามารถเดินบนพื้นฐานของ Value Chain ที่สัมพันธ์ซึ่งกันและกันได้ดี

ซีอีโอ OR กล่าวว่า โมเดลการทำธุรกิจร่วมกับพาร์ทเนอร์ 80% เอสเอ็มอีจะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเอง ส่วน OR ทำหน้าที่วางบิซิเนสโมเดล เพื่อให้เขาสามารถเซ็ททิศทาง นโยบาย เพื่อความคล่องตัวในการทำงานร่วมกัน

“mindset ของผมคือไม่ใช่แค่หวังผลตอบแทนทางการเงินจากการลงทุน แต่ต้องตอบโจทย์พันธกิจอื่น ๆ ด้วย“ นั่นหมายความว่า การร่วมลงทุนในแต่ละธุรกิจ คนของ OR จะต้องเข้าไปหา synergy กับพาร์ตเนอร์ชิปให้เจอ ดูว่าอะไรคือกลยุทธ์ อะไรที่ทำให้บริษัทดีขึ้น อะไรที่ทำให้พาร์ทเนอร์ชิปเดินหน้าไปด้วยกันได้ เพื่อทำให้ value chain ของ OR เป็น value chain ที่ยาว”

 

เดินหน้าสู่ OR2030 Goals

ผู้นำคนนี้ ยกตัวอย่าง การเดินหน้าสู่ OR2030 Goals ที่จะได้ผลลัพธ์ไปถึง สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม กระจายรายได้กับประชาชน และเกษตรกรต่างๆ ด้วยแนวคิดการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งขณะนี้เริ่มแล้วโดยทีมงานของ คาเฟ่ อเมซอน ที่พยายามเข้าไปหาแหล่งเพาะปลูกกาแฟ เช่นที่ อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ และที่น่าน ที่พบว่ามีภูเขาหัวโล้น เพราะชาวบ้านที่เคยปลูกกาแฟแต่ไม่ได้รับการสนับสนุน จนทำให้ต้องเลิกแล้วเปลี่ยนไปปลูกข้าวโพดแทน โดยไม่มีความรู้ ทำให้ต้องย้ายที่ปลูกไปเรื่อยและเผาป่าไปเรื่อย

สิ่งที่ทีมงาน คาเฟ่ อเมซอน ทำคือ การเข้าไปช่วยเกษตรกร ให้ความรู้ สร้างโอกาสในการเพาะปลูกกาแฟ โดย OR มีความพร้อมทั้งการรับซื้อ การมีโรงคั่วกาแฟเอง มีร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ก็จะทำให้การต่อยอดและการส่งเสริมเกษตรกรในจุดนี้ สามารถเดินหน้าสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และผลผลิตที่ยั่งยืน เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของ OR เองด้วย

นายดิษทัต กล่าวว่า OR ในยุคของเขายังให้ความสำคัญกับ Core Business ที่จะต้องแข่งขันได้ แต่สิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามา คือ การพยายามปรับตัวให้เร็วขึ้น เพราะตลาดในโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็ว และถ้าสามารถปรับตัวได้เร็วก็จะสามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น เขาได้นำ dashboard มาใช้ คือการมอนิเตอร์แต่ละกลุ่มบิสซิเนสแบบเจาะลึก ธุรกิจตัวไหนกำไรดีก็เร่งการขาย ตัวไหนไม่ดีก็ต้องเข้าไปแก้ไข

ดังนั้น ในมุมของผู้บริหาร ซึ่งมีประสบการณ์ธุรกิจการค้าน้ำมันระหว่างประเทศมานาน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดน้ำมันที่ปรับตัวเร็วมาตลอด เขาจึงพยายามเติมเต็มทีมงาน และกลไกการทำงานของ OR ด้วยความไดนามิก เคลื่อนไหวเร็ว และต้องตอบโจทย์ความเป็นองค์กรที่ยั่งยืนควบคู่ไปด้วยกัน