ส่องค้าปลีกลาวคึก ‘บิ๊กซี’ ท้าชน ส่งสาขาใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ต รักษาผู้นำตลาด

อาณาจักรค้าปลีกที่มีความคึกคักอย่างมากกับ “สปป.ลาว” ประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย แม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน  โดยจากการประเมินของ เวิลด์แบงก์ กับเศรษฐกิจลาวในปี 2567 มีการคาดการณ์ไว้ที่ 4.1% ขยายตัวจากปี 2566 ได้ประเมินไว้ที่ 3.7% ส่วนในปี 2568 คาดการณ์ไว้ที่ 4.3% แม้ว่า จีดีพีของลาว ในปีนี้ที่มีการขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อน แต่มีอีกปัจจัยที่ต้องติดตามกับ ภาวะเงินเฟ้อในประเทศที่สูงมาก 

ภาคเอกชนไทยในกลุ่มค้าปลีก ต่างให้ความสนใจขยายธุรกิจไปในประเทศลาว ทั้งกลุ่ม บิ๊กซี ได้เข้าไปเปิดสาขา บิ๊กซี มินิ มาหลายปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา โดยมี บิ๊กซี มินิ จำนวนมากกว่า 60 สาขาแล้ว จากเดิมเป็นแบรนด์เอ็มพ้อย มาร์ท (M Point Mart) เป็นร้านสะดวกซื้อในประเทศลาว ภายหลังบริษัทได้เข้ามาลงทุนและเปลี่ยนชื่อสู่ มินิ บิ๊กซี ซึ่งมีเมืองหลักในการขยายสาขาจะอยู่ที่ นครหลวงเวียงจันทน์

ล่าสุด บิ๊กซี เตรียมเปิด บิ๊กซี ไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เป็นครั้งแรก สาขาใจกลางเมืองเวียงจันทน์ ตั้งอยู่ใกล้ ศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก (ITECC) และอยู่ไม่ไกลจากหนองคาย ที่สามารถขับรถได้อย่างสะดวก

สำหรับการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศของ บิ๊กซี เป็นไปตามยุทธศาสตร์ทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทย โดยในปี 2567 ได้วางงบลงทุนในประเทศไทยไว้เบื้องต้น 2,000 ล้านบาท สำหรับการรีโนเวทสาขาของบิ๊กซี เพรส ประมาณ 10 สาขาต่อเนื่องจากปีก่อน ส่วนสาขาขนาดกลางกับ บิ๊กซี ฟู้ดเพรส และบิ๊กซี มาร์เก็ต จะขยายต่อเนื่อง และสาขาขนาดเล็ก กับ บิ๊กซี มินิ จะมีการทำโมเดลใหม่พร้อมดึงพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมผลักดัน ส่วนสาขาที่เป็นค้าส่ง กับ บิ๊กซี ฟู้ดเซอร์วิส มีแผนดึงพาร์ทเนอร์จากเยอรมนี เข้ามาร่วมยกระดับระบบ

“อัศวิน เตชะเจริญกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากการขยายสาขาใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ยังเตรียมขยายสาขาใหม่ไปในต่างประเทศ ทั้งลาว วางแผนเปิดสาขาขนาดใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ตครั้งแรกในเวียงจันทน์ รองรับกลุ่มลูกค้าและตลาดในเวียงจันทร์ จากที่ผ่านมา ได้เข้าไปเปิด บิ๊กซี มินิ ในเวียงจันทน์ และเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกอยู่แล้ว

“ในลาวเริ่มมีคู่แข่งเข้าไปรุกเปิดสาขาแล้ว แต่บิ๊กซี ได้เข้าไปเปิด บิ๊กซี มินิ มาหลายปีแล้ว และได้เปิดให้บริการในหลายทำเลของเวียงจันทน์ ถือว่าเราเป็นผู้นำตลาด และไม่กังวลเรื่องเศรษฐกิจในประเทศลาว รวมถึงเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เพราะสามารถปรับแผนตามความต้องการของตลาดได้”

 

สำหรับการเปิดสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ตในเวียงจันทน์ คาดว่าจะอยู่ในช่วงครึ่งปีแรก 2567 นอกจากในลาวแล้ว บิ๊กซี วางนโยบาย รุกตลาดในกัมพูชา เวียดนาม ไปจนถึงล่าสุด ฮ่องกง ภายหลังได้เข้าซื้อกิจการร้าน AbouThai จำนวน 24 แห่ง ในฮ่องกงเมื่อปีก่อน โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็น บิ๊กซี (Big C) มีผลตั้งแต่ ก.ย.2566 วางแผนเปิดสาขาเพิ่มปีละ 25 สาขา ทำให้สิ้นปี 2569 จะมีสาขารวมมากถึง 99 สาขา อีกสิ่งที่ทำควบคู่กันคือ มุ่งนำสินค้าไทย โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีไปจัดจำหน่ายในฮ่องกง เพื่อสร้างโอกกาสตลาด และเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ

หากวิเคราะห์โอกาสของตลาด ฮ่องกง เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างมากของบิ๊กซี จากการที่สามารถเชื่อมต่อไปในประเทศจีนที่มีขนาดใหญ่ โดย บิ๊กซี ได้ประเมินยอดขายในตลาดฮ่องกง จะถึงระดับ 1,000 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ในปี 2568 แตะระดับ 1,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในปี 2569

ภาพรวมของบิ๊กซี ในปี 2566 มีสาขาจำนวนกว่า 2,000 แห่ง ในหลากหลายโมเดลของสาขา 

เซเว่น อีเลฟเว่น รุกหนักเวียงจันทน์

หากไปสำรวจตลาดค้าปลีกในประเทศลาว นอกจากกลุ่ม บิ๊กซี ได้เข้ามาเปิดสาขาหลายปีแล้ว อีกกลุ่มทุนไทยที่เข้ามาเปิดตลาดใหม่ในลาวกับ กลุ่มซีพี จาก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ส่ง ร้านสะดวกซื้อ "เซเว่น อีเลฟเว่น" เข้ามาขยายตลาดในลาว ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2566 ปักธงสาขาแรกในเวียงจันทน์ บริหารโดย บริษัท ซีพี ออลล์ ลาว จำกัด 

สาขาในลาว เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ชูการนำเสนอสินค้ากว่า 5,000 เอสเคยู ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารพร้อมทาน รวมถึงสินค้ายอดนิยมอย่าง Slurpee เครื่องดื่มชงสด All Café สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของ สปป.ลาว ที่กำลังเป็นที่นิยมจากกลุ่มลูกค้า ส่วนภาพรวมในปี 2566 ที่ผ่านมา มีสาขาเปิดให้บริการในลาวรวม 3 สาขาแล้ว

ยุทธศาสตร์ค้าปลีกของ ซีพี ออลล์ วางแผนเปิดสาขาใหม่ของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในลาวประมาณ 2-3 สาขาต่อปี ส่วนสาขาที่เปิดให้บริการในลาวช่วงที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าจำนวนมากทั้งกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมทาน เบเกอรี่อบสด และเครื่องดื่มจากออลคาเฟ่

ก่อนหน้านี้ ซีพีออลล์ ได้มีการประเมินภาพรวมตลาดและกำลังซื้อใน สปป.ลาว มีแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่ช่วงโควิดคลี่คลาย ได้รับปัจจัยบวกจากทั้งการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงทำให้การคมนาคมขนส่งขยายตัวขึ้น รวมถึงมีแรงหนุนจากในปี2567 รัฐบาล สปป. ลาว กำหนดให้เป็นปีท่องเที่ยวลาว และตรงกับวาระที่ สปป.ลาว ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ทำให้บรรยากาศในประเทศมีความคึกคักยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ซีพีออลล์ ยังวางยุทธศาสตร์ขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งในกัมพูชา จะเปิดสาขาใหม่ปีละ 20-30 สาขา รวมถึงในประเทศไทย วางแผนเปิดปีละประมาณ 700 สาขาเช่นกัน

เรียกได้ว่า ตลาดค้าปลีกในอาเซียน กำลังเป็นสมรภูมิที่ร้อนแรง และการแข่งขันเปิดสาขาใหม่ของทุนไทย ! ไม่แพ้ตลาดในประเทศไทยแล้ว