ไทย ‘ขาดดุลท่องเที่ยว’ ญี่ปุ่น ครั้งแรก! เปิดสถิติปี 66 คนไทยแห่เยือน 1 ล้านคน

ไทย ‘ขาดดุลท่องเที่ยว’ ญี่ปุ่น ครั้งแรก!  เปิดสถิติปี 66 คนไทยแห่เยือน 1 ล้านคน

สถิตินักท่องเที่ยวตลอดปี 2566 ชี้ชัดว่า 'ไทย' ขาดดุลการท่องเที่ยว 'ญี่ปุ่น' เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเฉียด 1 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทยจำนวนกว่า 8 แสนกว่าคน มากกว่ากัน 1.9 แสนคน

หลังไทยและญี่ปุ่นเปิดประเทศเต็มรูปแบบช่วงครึ่งหลังปี 2565 เพื่อฟื้นฟูการเดินทางจากวิกฤติโควิด-19

รายงานข่าวจาก “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น” (JNTO) ระบุว่า เมื่อปี 2566 มี “นักท่องเที่ยวไทย” เดินทางเข้าญี่ปุ่นจำนวน “995,500 คน” เพิ่มขึ้น 402% เทียบกับจำนวน 198,037 คนเมื่อปี 2565 และนับเป็นการฟื้นตัวกว่า 75.5% เมื่อเทียบกับจำนวนกว่า 1,318,977 คนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด

ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวไทยยังคงครอง “อันดับ 6” เช่นเดิมของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นสูงสุดตลอดปี 2566 ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 25,066,100 คน ฟื้นตัว 78.6% เมื่อเทียบกับจำนวน 31,882,049 คนในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด

รองจากอันดับ 1 เกาหลีใต้ มีจำนวน 6,958,500 คน เติบโต 24.6% ส่วนอันดับ 2 ไต้หวัน 4,202,400 คน ฟื้นตัว 85.9% อันดับ 3 จีน 2,425,000 คน ฟื้นตัวแค่ 25.3% อันดับ 4 ฮ่องกง 2,114,400 คน ฟื้นตัว 92.3% และสหรัฐ 2,045,900 คน เติบโต 18.7%

ด้านรายงานข่าวจาก “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ระบุว่า จากสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยตลอดปี 2566 ที่มีจำนวนทะลุ 28 ล้านคน พบว่ามี “นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น” ติด “อันดับ 10” ด้วยจำนวน 804,205 คน” ฟื้นตัว 45% เทียบกับจำนวน 1,787,185 คนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด ซึ่งเคยครองอันดับ 6 ของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยสูงสุด รองจากจีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และ สปป.ลาว ตามลำดับ

สำหรับปี 2566 อันดับ 1 มาเลเซีย 4,234,807 คน อันดับ 2 จีน 3,512,307 คน อันดับ 3 เกาหลีใต้ 1,649,757 คน อันดับ 4 อินเดีย 1,604,010 คน อันดับ 5 รัสเซีย 1,479,844 คน อันดับ 6 สปป.ลาว 1,107,813 คน อันดับ 7 เวียดนาม 1,031,550 คน อันดับ 8 สิงคโปร์ 952,414 คน อันดับ 9 สหรัฐ 905,753 คน และอันดับ 10 ญี่ปุ่น

ไทย ‘ขาดดุลท่องเที่ยว’ ญี่ปุ่น ครั้งแรก!  เปิดสถิติปี 66 คนไทยแห่เยือน 1 ล้านคน

 

เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า สมาคมฯ ประเมินแนวโน้มว่า “ไทยจะยังขาดดุลการท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นต่อเนื่องอีกในปี 2567” เนื่องจากสถานการณ์ “เศรษฐกิจญี่ปุ่น” ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยเงินเฟ้อ เงินเยนอ่อนค่า ทำให้คนญี่ปุ่นไม่กล้าใช้เงิน จึงไม่ค่อยออกไปเที่ยวต่างประเทศมากนัก!

โดยจากสถิติที่ JNTO รวบรวมไว้ พบว่าตลอดปี 2566 มี “ชาวญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศ” จำนวนรวม 9,624,100 คน แม้จะเพิ่มขึ้น 247% เมื่อเทียบกับจำนวน 2,771,770 คนในปี 2565 แต่ถ้าเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด พบว่ายังติดลบ 52% เมื่อเทียบกับจำนวน 20,080,669 คน

เจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนในปี 2567 สมาคมฯ ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่นทะลุ 1.3 ล้านคน ใกล้เคียงกับสถิติเมื่อปี 2562 แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะไม่ค่อยดีนัก แต่แนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศจะยังไม่ถึงขั้นซึม แค่ใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น

ประกอบกับ “ญี่ปุ่น” เป็น “จุดหมายปลายทางยอดนิยม” ของคนไทยอยู่แล้ว มี “คาแรกเตอร์” และ “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่ชัดเจน ตรึงความสนใจคนไทยไว้ได้อยู่หมัด!

ไทย ‘ขาดดุลท่องเที่ยว’ ญี่ปุ่น ครั้งแรก!  เปิดสถิติปี 66 คนไทยแห่เยือน 1 ล้านคน

ท่ามกลางข่าวดีเรื่องรัฐบาลของ “ไทย-จีน” อยู่ระหว่างจัดทำข้อตกลง “ยกเว้นวีซ่าแบบถาวร” ระหว่างกัน ซึ่งทางรัฐบาลไทยคาดว่าจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป ส่วนอานิสงส์จากข้อตกลงดังกล่าวอาจดึงดูดให้คนไทยสนใจไปเที่ยวประเทศจีนแทนหรือไม่นั้น? สมาคมฯ มองว่าจุดหมายปลายทางที่อาจได้รับผลกระทบมากกว่าญี่ปุ่นคือ “เกาหลีใต้” เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยกเลิกระบบ K-ETA หรือไม่และเมื่อไร? ถ้ายกเลิกได้ ก็จะส่งผลบวกต่อตลาดคนไทยไปเกาหลีใต้ ในช่วงที่คนไทยยังขาดความมั่นใจในการเดินทาง จากเหตุปัจจัยเรื้อรังเรื่อง “ผีน้อย” หรือปัญหาแรงงานไทยเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย

“พอมีข่าวเรื่องรัฐบาลไทย-จีนจะยกเว้นวีซ่าแบบถาวรระหว่างกัน ก็มีลูกค้าคนไทยสอบถามบริษัททัวร์เข้ามามากเกี่ยวกับแพ็กเกจทัวร์เที่ยวจีน โดยเฉพาะแพ็กเกจทัวร์ราคาใกล้ๆ 20,000 บาท เดินทาง 5 วัน 4 คืน ไปเฉิงตู ฉงชิ่ง เพื่อเยือนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง จิ่วจ้ายโกว ที่กลับมาฮิตอีกรอบ หลังมีการปรับปรุงถนนหนทาง สิ่งอำนวยความสะดวกในช่วงโควิด-19 ยังระบาด ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างมาก”

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ตลาด “จีนเที่ยวไทย” ก็น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในปีนี้ สายการบินกลับมาเปิดเส้นทางและเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น แต่ยังต้องจับตา “เศรษฐกิจจีน” ที่ชะลอตัวและน่ากังวลว่าจะเกิด “โดมิโนเอฟเฟ็กต์” หรือไม่? โดยแนวโน้มอาจจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับหวือหวาถึงขั้นเห็นยอดจองการเดินทางกลับมาเป็นล้นพ้น!

เมื่อประมวลปัจจัยบวกและลบต่างๆ ที่ส่งผลต่อตลาด “คนไทยเที่ยวต่างประเทศ” ตลอดปี 2567 สมาคมฯ คาดการณ์ว่าจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่จะมีคนไทยไปเที่ยวมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ญี่ปุ่น ด้วยจำนวนราว 1.3 ล้านคน อันดับ 2 จีน ราว 7-8 แสนคน และอันดับ 3 เวียดนาม ราว 6 แสนคน

“ปี 2567 น่าจะมีคนไทยเดินทางออกนอกประเทศ 11 ล้านคน แม้จะยังไม่กลับไปเท่าจำนวนเดิม 12 ล้านคนเมื่อเทียบกับปี 2562 แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงแล้ว และคาดว่าจะสร้างมูลค่าการใช้จ่ายประมาณ 3.85-4.40 แสนล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 35,000-40,000 บาทต่อทริป” เจริญ ฉายภาพรวมส่งท้าย