ภูเก็ตกวาด 3 แสนล้าน กลับมา 10 ล้านคนทั่วโลก ชี้เปลี่ยนเที่ยวไม่เหมือนเดิม

เปิดรายได้ ภูเก็ต กวาด 3 แสนล้าน นักท่องเที่ยว กลับมา 10 ล้านคนทั่วโลก ชี้เปลี่ยนเที่ยวไม่เหมือนเดิม รัสเซียและจีนยังครองเมือง

ภาพรวมท่องเที่ยวปี 2566 จังหวัดภูเก็ต มีรายได้กว่า 300,000 ล้านบาท นทท.กลับมาแล้วกว่า 10 ล้านคน ขณะที่ชาวจีนกรุ๊ปเล็กทะยอยกลับมาต่อเนื่อง ปักหมุดเที่ยวเมืองเก่าภูเก็ต เช่าชุดไทยถ่ายภาพเป็นระลึก

วันนี้บรรยากาศบริเวณย่านเมืองเก่าภูเก็ต โดยเฉพาะบริเวณถนนถลางและซอยรมณีย์ ยังคงเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มาเที่ยวชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนสไตล์ชิโนยูโรเปี่ยน หาซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก รวมถึงถ่ายภาพเป็นระลึก และมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม 

โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นจีนที่ชวนกันเช่าชุดไทยมาสวมใส่เพื่อเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าถ่ายภาพเป็นระลึก สร้างความสนใจให้กับทั้งนักท่องเที่ยวสัญชาติเดียวกัน และนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ ด้วยความสวยงามของชุดไทย

นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวถึง สถานการณ์ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ดีขึ้นมากหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

ภาพรวมมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาที่ภูเก็ตเกินกว่า 10 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวเกินกว่า 330,000 ล้านบาท (ไม่รวมเดือนธันวาคม) แต่หวังว่าหากรวมยอดในเดือนธันวาคม 2566 ด้วย จะมีรายได้สูงถึง 350,000 ล้านบาท 

นับว่าใกล้เคียงกับก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจากตลาดต่าง ๆ เริ่มกลับเข้ามามากขึ้น และส่วนใหญ่ตัวเลขค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นชาวมาคาซัคสถาน ซึ่งมีฟรีวีซ่า และมีจำนวนติด 1 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา

อันดับ 1 ยังคงเป็นชาวรัสเซีย และจีน ตามลำดับ แต่อาจจะยังไม่เท่ากับปี 2019 นอกจากนี้ยังมีออสเตรเลีย อังกฤษ อินเดีย และยุโรป

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งยังกลับมาไม่มากนัก โดยเฉพาะกรุ๊ปขนาดใหญ่ แต่เป็นที่น่ายินดีว่า จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการทราบว่าเริ่มทะยอยกลับเข้ามาแล้ว แม้ไม่ได้เป็นกลุ่มขนาดใหญ่หนัก นักทองเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือยังทราเวลเลอร์

ทำให้กิจกรรมหรือพฤติกรรมท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยน โดยให้ความสนใจกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับคนท้องถิ่นหรือชุมชน รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวบริเวณย่านเมืองเก่าภูเก็ตส่วนของนักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมก็ยังคงเลือกท่องเที่ยวและทำกิจกรรมบริเวณชายหาดต่างๆ หรือการนั่งเรือไปท่องเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆ

นายเลิศชาย กล่าวด้วยว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าหากพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งเมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะส่งผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างความสมดุลของตลาดให้มีความหลากหลาย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งของ ททท.และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว

โดยเราไม่ต้องการจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ต้องการกลุ่มที่มีความสามารถในการใช้จ่ายสูง ซึ่งเห็นได้จากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พบว่า จำนวนห้องพักไม่เต็ม 100% บางโรงแรมจะอยู่ที่ 80% ปลายๆ หรือ 90% แต่ในส่วนของรายได้กลับเพิ่ม 2-3 เท่า

สอบถามจากบางโรงแรมบอกว่า รายได้สูงกว่าปี 2562 มากถึง 3 เท่า ซึ่งตรงกับเป้าหมายที่ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ต้องมากแต่รายได้ต้องมากกว่า