ถอดแนวคิด ‘อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส อัมพุช’ เจน 3 เดอะมอลล์ รังสรรค์ ‘เอ็มสเฟียร์’

ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ภายใต้ โครงการ เอ็ม ดิสทริค (EM DISTRICT) ของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ปักหมุดแลนด์มาร์กใจกลางสุขุมวิท ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 3 แห่ง เอ็มโพเรียม (EMPORIUM) เอ็มควอเทียร์ (EMQUARTIER) ล่าสุด เอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) มูลค่า 20,000 ล้านบาท พื้นที่รวม 2 แสนตร.ม.  เปิดบริการเมื่อ 1 ธ.ค.2566 โดยทั้ง 3 ศูนย์การค้าวางตำแหน่งทางการตลาดและฐานลูกค้าแตกต่างกัน

อาณาจักร เอ็ม ดิสทริค พื้นที่รวม 50 ไร่ กว่า  6.5 แสนตร.ม. จะเป็นย่านการค้าแห่งอนาคตที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง สะท้อนภาพรีเทลประเทศไทย ที่เติบโตอย่างยั่งยืน และเทรนด์เปลี่ยนใหม่ตลอดเวลา! ร่วมดึงดูดนักท่องเที่ยว คนทำงาน และผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เป็นหนึ่งในพลังกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส อัมพุช ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป Leasing & Business Development เอ็ม ดิสทริค เจนเนอเรชั่นที่ 3 เป็นทายาทคนโตของ “กอล์ฟ-ณชนก รัตนทารส“ กับ ”อ้อย-อัจฉรา อัมพุช” นับเป็นหลานชายคนสนิทของ “แอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร เดอะมอลล์ กรุ๊ป 

อิทธิฤทธิ์ มีวิสัยทัศน์ชัดเจน...ต้องการนำองค์กรแห่งนี้ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ความท้าทายจึงไม่ได้มีเพียงแค่การบริหารจัดการ แต่ยังมุ่งเน้นการบูรณาการ นำนวัตกรรมมาทำให้ธุรกิจเดอะมอลล์ กรุ๊ป ก้าวสู่องค์กรทันสมัย สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีได้ 

การร่วมบริหารอาณาจักร เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในโปรเจกต์ใหญ่ “เอ็มสเฟียร์” ที่วางหมากให้เป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายเติมเต็มย่านการค้า เอ็ม ดิสทริค ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น อิทธิฤทธิ์ กล่าวว่า ได้มาดูแลส่วนของผู้เช่าพื้นที่ (Leasing) ร่วมเลือกร้านค้าเข้ามาเปิดให้บริการ ทั้งกลุ่มอาหาร แฟชั่น รถยนต์ แกดเจ็ด เน้นความหลากหลาย ร่วมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้า อย่างกลุ่มแฟชั่น นอกจากกลุ่มคลับ 21 ยังมีแบรนด์แฟชั่นชื่อดังที่เด็กวัยรุ่นชื่นชอบมาเปิดให้บริการต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีทั้ง ฌักมูช และ เวตมองต์ส เป็นต้น ซึ่งจะดึงทั้ง แฟรงค์ กาซอง, แด๊ดดี้แอนด์เดอะมัสเซิลอะคาเดมี่ และ กอมเดการ์ซง มาขยายเพิ่ม

"โซนวัยรุ่น มีความน่าสนใจสูง ดึงแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริม ตามคอนเซปต์ของเอ็มสเฟียร์ เน้นกลุ่มวัยรุ่นมากกว่าเอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ ร้านค้าใหม่ที่เข้ามาเน้นเรื่องสีสัน"

โจทย์ท้าทายการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ในพื้นที่ใกล้กัน อาจเกิดการดึงลูกค้าในแต่ละแห่งได้นั้น หากแต่การวางตำแหน่งที่แตกต่างกันทั้ง 3 ศูนย์การค้านั้น  ทำให้มีกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20,000-30,000 คนต่อวันต่อศูนย์การค้า รวมถึง “เอ็มสเฟียร์” ทาร์เก็ตชัดเจน ทำให้ทุกคนรู้ว่า ศูนย์การค้าใหม่แห่งนี้เน้นกลุ่มวัยรุ่น ทำให้มีกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาในพื้นที่

อย่าง “เอ็มควอเทียร์” ที่เน้น cutting edge กลุ่มแฟชั่นที่เป็นแบรนด์ Balenciaga, Off-White และ Emjoy เน้นกลุ่มครอบครัวโดยเฉพาะช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ การจุดเด่นพื้นที่อินดอร์และเอาดอร์ จัดคอนเซปต์ร้านให้มีคาเฟ่ ลูกค้ามานั่งได้ในช่วงเย็น ส่วน “เอ็มโพเรียม” เน้นความ อัลตร้า ลักชัวรี รวบรวมแบรนด์ลักชัวรี ทั้ง LOUIS VUITTON, BVLGARI, Tiffany & Co และ Cartier 

อีกความโดดเด่นของศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ได้ออกแบบไม่ให้มีฝ้า แต่วางดีไซน์ให้มีความเป็น อินดัสเตรียล (Industrail) การไม่มีฝ้า ทำให้ดูสนุกขึ้น มีท่อเพื่อวางปลั๊กไฟ เพื่อดูว่าเส้นใดจะวิ่งเข้าร้านค้าใด เป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้ศูนย์ฯ 

ความโดดเด่นของเอ็มสเฟียร์ ยังมี ยูโอบี ไลฟ์ (UOB LIVE) เป็น Dimension ของเดอะมอลล์ ในการร่วมสร้างพื้นที่ อารีน่า สำหรับการจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ ด้วยความจุ 6,000 ที่นั่ง วางเป้าหมายในการร่วมดึงทั้งกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่ม ทัวริสต์ ให้เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือน ก.พ.นี้

รวมทั้ง “อิเกีย สุขุมวิท” ในคอนเซปต์ CITY-CENTRE STORE ครั้งแรกในอาเซียนและมีขนาดใหญ่ 15,000 ตร.ม. พร้อมเปิดร้านอาหารขนาดใหญ่ในคอนเซปต์แบบจัดเต็ม

Third place สร้างประสบการณ์ใหม่

อิทธิฤทธิ์ ย้ำว่า เอ็มสเฟียร์ ไม่ได้เน้นพื้นที่สำหรับการซื้อขายสินค้า แต่เป็น “Third place”  เต็มไปด้วยกิจกรรมและประสบการณ์ต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ทำให้คนไทยมีความสุขมากขึ้น

“การทำงานร่วมกับคุณแม่ (อัจฉรา) และคุณป้า (ศุภลักษณ์) ที่ใกล้ชิดกันมาก ช่วงแรกที่เข้ามาเรียนรู้ การทำงานต้องฟัง แต่ก็มีจังหวะที่ให้ไอเดียเด็กรุ่นใหม่เข้าไปได้ เราต้องทลายกำแพงน้ำแข็งของรุ่น Old Gen และ New Gen ให้ได้ ถ้าเราไม่สามารถทะลายน้ำแข็งได้ ทุกคนก็จะไม่มั่นใจ จึงต้องทะลุให้ได้ หาจังหวะให้ถูกและไม่เกิดเหตุการณ์ปะทะกัน อย่างที่คุณศุภลักษณ์บอก ตึกแห่งนี้เน้นคนรุ่นใหม่ จึงต้องหาจังหวะมุ่งไปหาคนรุ่นใหม่มากขึ้น”

อีกสิ่งคือ การเป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้ได้นำความสนุกสนานมาใส่ไว้ในพื้นที่ อีกความโดดเด่น คือ เอ็มสเฟียร์ฟู้ด ออกแบบคล้าย ฟู้ดคอร์ท แต่อัพเกรดขึ้นมา นำเสนอร้านอาหารที่ไม่ใช่สไตล์ฟู้ดคอร์ท พร้อมออกแบบพื้นที่ให้ทุกคนมานั่งทานอาหารร่วมกันได้ หากมีเพื่อนมาด้วยกัน 10 คน แต่ละคนอยากกินคนละร้าน สามารถมานั่งทานอาหารร่วมกันและแบ่งปันกันได้ 

“ฟู้ดเราดูสนุกมาก มีทั้งแบบ discovery cuisine อาจเลือกแบบจานเดียว ราเมง มีออปชั่นให้เลือกเยอะมาก อีกความสนุกที่ร่วมส่งต่อให้ลูกค้าคนไทยและต่างชาติ คือ การทำอาร์ตตามกำแพง โดยดึงศิลปินมาร่วมวาดตามทางเดิน ทำให้มีพื้นที่ไม่เหมือนศูนย์การค้าทั่วไป"

การลงทุนในศูนย์การค้าทุกคนจะรู้ว่ามีความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่จากการทำศูนย์การค้าและศึกษาข้อมูลจึงรู้ว่าในย่านนี้ยังไม่มีพื้นที่สำหรับเด็ก วัยรุ่น ทั้งเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ จะเป็นสไตล์ คลาสสิค ลักชัวรี ที่สร้างมานาน แต่ศูนย์การค้าใหม่นี้ออกแบบเป็นอาร์ตแบบดิบๆ วางให้เป็น ศิลปะและวัฒนธรรมเป็นส่วนผสม (Art and cultural base) อย่างชัดเจน

สำหรับการเปิดบริการในเฟส 2 “UOB LIVE” และโซนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ชั้น 5 ดึงกลุ่มทัวริสต์เข้ามามากขึ้น “ทำให้ย่านสุขุมวิท ไม่ได้มีเพียงถนนทำงาน แต่จะกลายเป็นถนนที่สนุกมากขึ้น ทำให้ผู้คนเข้ามาแฮงค์เอาต์ได้”

ทั้งนี้ โซนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จะเข้ามาปิดอุปสรรคของสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนและปัญหาที่จอดรถ โดยศูนย์การค้ามีความสะดวกอย่างมาก ที่จอดรถพร้อม ความหลากหลายของเอ็นเตอร์เมนเมนต์ยังรองรับความต้องการที่แตกต่าง หากมากับเพื่อน 10 คน อีกคนอยากฟังเพลงฝรั่ง เพลงไทย หรืออยากเข้าบาร์ ฟังเพลงคนละแนวได้หมด เพราะจะมีพื้นที่ตรงกลางเป็นสตรีท และ เบียร์ยาร์ด มารวมตัวกันได้ 

จะเห็นว่า ศูนย์การค้าเปิดบริการตั้งแต่ 10 โมงเช้า ปิดเที่ยงคืน ลูกค้าเข้ามาวิ่งในสวนสาธารณะ หลังจากนั้นมาทานอาหารเช้า และไปอาบน้ำที่ บีชคลับ ที่ได้จัดทำห้องอาบน้ำ พร้อมพื้นที่โค เวิร์คคิ้ง สเปซ อย่างร้าน มีเดียม และเวลา สามารถเข้ามานั่งทำงานได้ ต่อจากนั้นก็ไปชอปปิง แล้วลงมาทานข้าวรอบดึก และไปต่อที่ บาร์ ในชั้น 5

เทคโนโลยี นวัตกรรมสร้างโลกยั่งยืน

อิทธิฤทธิ์ กล่าวต่อถึง แนวทางการสร้างศูนย์การค้าใหม่ ที่มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่สร้างโลกยั่งยืน และทำให้คนสะดวกมากขึ้น 

“ความท้าทายไม่ได้มีเพียงการบริหารจัดการ แต่เน้นบูรณาการและนำนวัตกรรมเข้ามาทำให้เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นองค์กรที่ทันสมัย มีความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี นำนวัตกรรมไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน”

เอ็มดิสทริค ถูกเชื่อมด้วยสกายวอร์ค ตอบโจทย์คนทุกกลุ่มในทำเลสุขุมวิท พร้อมจัดวางพื้นที่ให้มีต้นไม้จำนวนมาก เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรื่นรมย์ เป็น อีโคเฟรนด์ลี่ กับลูกค้าทุกคน 

นับเป็นมุมมองใหม่ของธุรกิจรีเทลในประเทศไทยที่ไม่หยุดนิ่ง และพร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ตลอดเวลา