สตรีมมิงหนุนซอฟต์พาวเวอร์ญี่ปุ่น 'เดกซ์' รับอานิสงส์ 'วันพีซ' โกยยอดโตแรง

ปี 2566 ตลาดลิขสิทธิ์ คาแร็กเตอร์ กลับมาเติบโตอย่างมาก และสูงกว่าก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด กฤษณ์ สกุลพาณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) ผู้แทนจำหน่ายลิขสิทธิ์และผู้นำธุรกิจบริหารลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ ผู้ให้บริการธุรกิจคาแรคเตอร์ เพื่อความบันเทิง ฉายภาพว่า ตลาดสินค้าลิขสิทธิ์ คาแรคเตอร์ มีการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะ “วันพีซ”(One Peace) (การ์ตูนที่ได้รับการตีพิมพ์กว่า 300 ล้านเล่มทั่วโลก) ซึ่งปีนี้แพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลกอย่าง “เน็ตฟลิกซ์” ได้นำไปสร้างในรูปแบบไลฟ์แอ็คชันหรือคนแสดง เป็นการนำเสนอเนื้อหาหลายสิบตอนมาสรุปให้คนดูใน 8 ตอน

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มสตรีมมิงที่หลากหลายทั้งของฝั่งตะวันตก แพลตฟอร์มจีน ยังทำให้การรับรู้การ์ตูนลิขสิทธิ์ คาแรคเตอร์ญี่ปุ่นขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งเทียบกับอดีตมีเพียงทีวีไม่กี่ช่อง ทำให้การรับรู้ค่อนข้างจำกัด

อีกกระแสที่หนุนตลาด คือคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก เมื่อมีโอกาสไปเห็นการ์ตูน คาแรคเตอร์ของจริงบางตัว เช่น หุ่นยนต์กันดั้ม (Gundam) รุ่นเก่าสูง 18 เมตร หรือรุ่นใหม่สูง 19.7 เมตร ทำให้เกิดความสนใจ ซื้อโมเดลกลับมาและติดตามมากขึ้น ที่สำคัญกลุ่มนี้เป็นเซ็กเมนต์ผู้บริโภคกำลังซื้อสูง

“ปีนี้วันพีซมีการเติบโตสุดประมาณ 30-40% ปัจจัยหนุนมาจากสื่อออนไลน์ แพลตฟอร์มสตรีมมิงที่หลากหลายทำให้เกิดการรับรู้การ์ตูน คาแรคเตอร์ต่างๆ ที่สำคัญปีนี้วันพีซถูกนำไปสร้างเป็นไลฟ์แอ็คชัน ทำให้คนที่ไม่เคยอ่านการ์ตูน หรือติดตามเลย มาสนใจและเพิ่มฐานแฟนคลับได้ ส่วนสาวกที่อ่านวันพีซตั้งแต่เด็ก เช่น 7 ขวบ ตอนนี้เติบโตขึ้นตาม หรือเริ่มอ่านตอนอายุ 15 ปี ปัจจุบันอาจมีลูกและชวนอ่าน ดูคอนเทนต์ กลายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของครอบครัว ประกอบกับนักแสดง 3 ตัวละครเอก หล่อ ยิ่งดึงดูดคนดู ที่สำคัญเรื่องราวการผจญภัย มิตรภาพระหว่างเพื่อนกินตลาดกว้างมาก”

สำหรับแนวโน้มตลาดการ์ตูน สินค้าลิขสิทธ์ คาแรคเตอร์ ฯ ปี 2567 คาดว่ายังเติบโตต่อเนื่อง ปัจจัยบวกยังเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่มีการนำเนื้อหาไปต่อยอดเป็นไลฟ์แอ็คชัน เช่น เน็ตฟลิกซ์ลุยสร้างภาพยนตร์กันดั้ม รวมถึงการ์ตูนอนิเมะอีกหลายเรื่องที่จะถูกนำเสนอให้คนดูทั่วโลก

“ญี่ปุ่นทำเรื่องซอฟต์พาวเวอร์มานานกว่า 50 ปีแล้ว และสื่อดิจิทัลทำให้การเผยแพร่สู่ตลาดโลกมากขึ้น จุดเด่นของญี่ปุ่นมีความเป็นศิลปิน เป็นครีเอเตอร์สูง มุ่งมั่นสร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือสินค้าให้ดีมีคุณภาพที่สุดก่อน เมื่อเทียบกับซอฟต์เพาเวอร์เกาหลีมีการวางแผนกลยุทธ์การตลาดร่วมด้วย”

ปี 2567 บริษัทยังให้ความสำคัญกับการขยายร้านค้าปลีกให้แตะ 40 สาขา จากปัจจุบันมี 25 สาขา เพื่อตอบโจทย์ในการสร้างประสบการณ์ เพิ่มช่องทางหรือ Touch point ให้กับลูกค้า

“เราอยากขยายรีเทลให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมผู้บริโภคยังต้องการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน เจอประสบการณ์ ทำให้ผ่อนคลาย มีความสุข ไม่ใช่ว่าทำงานออนไลน์ อยู่กับออนไลน์ทั้งวัน เสพความบันเทิงก็เป็นออนไลน์อีก อาจจะไม่ไหว”

บริษัทยังหาโอกาสในการเปิด “วันพีซ คาเฟ่” ด้วย เพื่อเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่ม ขนมหวานจากการ์ตูนดัง เช่น เค้กหมวกฟาง เพื่อสร้างต่อยอดการรับรู้แบรนด์ การทำตลาดเชื่อมออฟไลน์และออนไลน์ มอบประสบการณ์ สร้างเอนเกจเมนต์มากขึ้น และที่ขาดไม่ได้ ต้นปีจะมีการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ 2567 โดยนำคาแรคเตอร์ดัง เช่น อุลตร้าแมน ไปโรดโชว์ยังศูนย์การค้าต่างๆ ตลอดทั้งเดือน ม.ค. เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอีเวนต์ ที่ปกติจะมีการจัดราวเดือนละ 1 งาน

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปี 2567 บริษัทยังตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 30-40% ต่อเนื่อง จากธุรกิจค้าปลีก การ์ตูน สินค้าลิขสิทธิ์ อีเวนต์ ภาพยนตร์ เป็นต้น

“ความท้าทายในการทำธุรกิจปี 2567 บริษัทมีเป้าหมายในการขยายและทำหลายอย่าง เช่น คาเฟ่ ที่กำลังหาทำเลเหมาะสม การขยายรีเทล แต่ทำไม่ทัน เพราะกำลังคนไม่พอ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีทีมงานราว 100 ชีวิต และอยู่ระหว่างเพิ่มคน”