เจาะโรดแมป ‘เซเว่นอีเลฟเว่น’ ลุยกลยุทธ์ผู้นำเร่งปักหมุด ไทย-กัมพูชา-ลาว
ถอดสุดยอดแนวคิด 'เซเว่น อีเลฟเว่น' รุกขยายธุรกิจใน 3 ประเทศ ไทย กัมพูชา ลาว ส่งกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่มชิงตลาด พร้อมด้วยความสร้างสรรค์ ดันธุรกิจแข็งแกร่ง ครองผู้นำตลาดยาว
ผู้นำร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” จาก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ค้าปลีกจากกลุ่มซีพี รุกขยายสาขาใหม่อย่างร้อนแรง ท่ามกลางความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ยังมุ่งขยายสาขาใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง ครองความเป็นผู้นำ จากการปรับกลยุทธ์และมุ่งนำเสนอสินค้าที่ตรงใจกลุ่มลูกค้า พร้อมวางแนวทางบุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง ทั้งกัมพูชา และ ลาว
จิราพรรณ ทองตัน หัวหน้าสำนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพการขยายสาขาใหม่ของ เซเว่น อีเลฟเว่น ตลอดปีนี้ มุ่ง 3 ตลาดยุทธศาสตร์ทั้งในประเทศไทย กัมพูชา และ ลาว ซึ่งเป็นตลาดที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดในไทย วางแผนขยายสาขา 700 สาขา ได้ขยายสาขาไปแล้ว 553 สาขา ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา รวมมีสาขาในไทยครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย 14,491 สาขา ซึ่งมุ่งขยายสาขาให้ครบตามแผนที่วางไว้
ในต่างประเทศ กับตลาดกัมพูชา เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา มีสาขารวมกว่า 80 สาขาแล้ว หลังเข้าไปขยายสาขาแรกตั้งแต่ปี 2564 ส่วน ลาว ปักธงสาขาแรกเดือน ก.ย.2566 ตั้งอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ล่าสุดเดือน ธ.ค. เปิดสาขาที่ 3 แล้ว
“หากประเมินทั้ง 2 ตลาดกัมพูชา และลาว สร้างผลตอบรับที่มาก ลูกค้าในประเทศให้การต้อนรับที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหาร กลุ่มเบเกอรี่ และเครื่องดื่ม”
เซเว่น อีเลฟเว่น กัมพูชา
ทั้งนี้ได้วางแผนจะขยายสาขาใหม่ในกัมพูชา 20-30 สาขาต่อปี ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วน “ลาว” ประเมินว่าจะทยอยเปิดสาขาใหม่ประมาณ 2-3 สาขาต่อปี
“ลูกค้าในกัมพูชาและลาว ต่างให้การตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า เบเกอรี่ อบสด ได้รับความนิยมสูงมาก รวมถึงเครื่องดื่มจากออล คาเฟ่ กลุ่มอาหารพร้อมทาน สร้างการขยายตัวที่ดีเช่นกัน”
เซเว่น อีเลฟเว่น สปป.ลาว
ปี 2567 ตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง “เซเว่น อีเลฟเว่น” เดินหน้าเปิดสาขาใหม่รวมประมาณ 700 สาขา สร้างการเติบโตสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย ที่ขยายตัวตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล ตลาดนักท่องเที่ยว ไปจนถึงการปรับขึ้นค่าแรงในอนาคต
อีกแนวทางการขยายธุรกิจในไทย พร้อมมุ่งนำเสนอสินค้าใหม่ๆ หากประเมินในกลุ่มอาหาร ที่มีการนำเสนอเมนูใหม่ตลอดทั้งปี อย่างในช่วงที่ผ่านมา ได้สร้างปรากฏการณ์เขย่าตลาดค้าปลีกไทย ด้วยการดึงศิลปินระดับโลก “แจ็คสัน หวัง” มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรก พร้อมจัดทำแคมเปญครั้งใหญ่“เสน่ห์อาหารไทย ที่ใครๆ ก็หลงรัก”เพื่อร่วมโปรโมตอาหารไทยสู่ลูกค้า ได้รับแรงบวกที่ดี กระตุ้นยอดขายกลุ่มขนมไทย อย่าง “ข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิ” เติบโตสูงรวมถึงไปกลุ่มขนมไทยเติบโตทั้งหมด
เซเว่น อีเลฟเว่น ประเทศไทย
สำรวจเมนูอื่นๆ มีการตอบรับที่ดีเช่นกันทั้ง เมนูเต้าส่วน วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน ขนมที่มีส่วนผสมของน้ำกะทิ เป็นต้น ทั้งหมดเป็นการร่วมต่อยอดทำให้ลูกค้าเมื่อเข้ามาที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ต่างได้รับประสบการณ์ความสนุกในการเข้ามาที่ร้านทุกครั้ง อีกทั้งเมนูขนมไทย กลายเป็นสินค้ายอดนิยมของกลุ่มลูกค้าไปแล้ว
อีกแนวทางคือ การนำเสนอสินค้ากลุ่มผลไม้ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ผ่านการร่วมมือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและเกษตรกรไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ไปจนถึงกลุ่มสินค้าอาหารที่เป็นผลดีต่อสุขภาพ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารรสชาติไม่หวานและเค็มจนเกินไป ทั้งหมดร่วมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า
“มองภาพรวมตลาดในช่วงไตรมาส 4 นี้ ยังมีแรงหนุนที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง กลุ่มผู้บริโภคคนไทยยังต้องการที่จะใช้จ่าย ไม่แตกต่างจากในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา”
จากแผนและกลยุทธ์ทั้งหมดที่วางไว้ ทำให้ ซีพี ออลล์ มีความมั่นใจว่า ภาพรวมในปีนี้ยังสามารถสร้างการเติบโตในระดับ 20% ขึ้นไปทั้งสะท้อนถึงการเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดร้านสะดวกซื้อ
ทั้งหมดแสดงถึง “แม้โจทย์การทำธุรกิจยากขึ้นทุกปี และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่การมีแนวทางขยายธุรกิจที่ชัดเจนในแต่ละปี ยังมองโอกาสที่จะเติบโตเสมอ ผสมผสานด้วยการมีขุมกำลังทั้งสินค้าและไอเดียสร้างสรรค์สิ่งใหม่ จึงเป็นแรงดึงดูดลูกค้าเข้าร้านต่อเนื่อง ทิ้งห่างเบอร์สองในตลาดไปอีกหลายยก!”