‘ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ’รับแรงซื้อไฮเอนด์ ดันยอดเรสซิเดนท์แตะ 80%

‘ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ’รับแรงซื้อไฮเอนด์ ดันยอดเรสซิเดนท์แตะ 80%

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เปิดยอดขาย 'เดอะ เรสซิเดนเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค' อาคารสูง 69 ชั้น สร้างยอดขาย 80% กว่า 300 ห้อง ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 3 แสนถึงเกือบ 5 แสนบาทต่อตร.ม. ทำสถิติราคาสูงสุดแห่งหนึ่งในลีสโฮลด์ไทย อาคารที่มีความสูงสุดติดอันดับหนึ่งในห้าของกรุงเทพฯ 

ย่านการค้าสีลมคึกคักมากขึ้น จากการลงทุนโครงการใหม่เข้ามาเสริมศักยภาพพื้นที่ โดยเฉพาะโปรเจกต์มิกซ์ยูส  “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง " ดุสิต" และ "กลุ่มเซ็นทรัล" บนทำเลประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ระดับ 5 ดาว ความสูง 39 ชั้น 257 ห้อง ที่พักอาศัย เดอะ เรสซิเดนเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค อาคารสูง 69 ชั้น 406 ห้อง มาใน 2 ลิฟวิ่งคอนเซปต์ ได้แก่ ดุสิตเรสซิเดนเซส และ ดุสิตพาร์คไซด์ ศูนย์การค้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค และ อาคารสำนักงานเซ็นทรัลพาร์ค

ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมาน สุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าระดับบนยังมีความต้องการและเลือกซื้อที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ สะท้อนจากโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ได้เปิดขาย “เดอะ เรสซิเดนเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” อาคารสูง 69 ชั้น 406 ห้อง ทั้ง ดุสิตเรสซิเดนเซส และ ดุสิตพาร์คไซด์ สามารถสร้างยอดขาย 80%  รวมกว่า 300 ห้อง ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 3 แสนบาท ไปจนถึงเกือบ 5 แสนบาทต่อตารางเมตร สร้างสถิติราคาสูงสุดแห่งหนึ่งในโครงการ ลีสโฮลด์ (Leasehold) ในประเทศไทย และยังเป็นอาคารที่มีความสูงสุด ติดอันดับหนึ่งในห้าของกรุงเทพฯ 

กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเป็นคนไทย 75% ต่างชาติ 25% ซึ่งกลุ่มลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่ซื้อเพื่อพักอาศัย ส่วนต่างชาติมีทั้งกลุ่มที่ต้องการบ้านหลังที่สองในไทย กลุ่มที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า และกลุ่มที่เข้ามาทำงานในไทย ซึ่งมีกลุ่มที่ส่งลูกเข้ามาเรียนโรงเรียนนานาชาติในไทย ซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับสูง ประเมินว่า โครงการจะขายหมดก่อนเปิดโครงการ

“กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่สนใจเข้ามาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมีส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคเอเชีย ทั้งจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ลาว กัมพูชา รวมถึงจากตะวันออกกลาง ยุโรป และสหรัฐ เดิมคาดการณ์กลุ่มลูกค้าคนไทย 65% ต่างชาติ 35% ซึ่งกลุ่มลูกค้าคนไทยมีมากขึ้นตั้งแต่โควิด ส่วนลูกค้าต่างชาติเริ่มกลับมามากขึ้น”

‘ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ’รับแรงซื้อไฮเอนด์ ดันยอดเรสซิเดนท์แตะ 80% สำหรับห้องขนาด 55 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ย 17 ล้านบาท ขนาด 77 ตารางเมตร ราคา 27-31 ล้านบาท และขนาด 158 ตารางเมตรราคา 60 ล้านบาท แสดงถึงความสนใจที่อยู่อาศัยในประเทศไทยที่มีในระดับสูง อีกทั้งโครงการนี้ยังมีความโดดเด่นจากการมี สวนสาธารณะบนดาดฟ้า เป็น รูฟพาร์คขนาดใหญ่ 7 ไร่ ร่วมสร้างพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ให้แก่คนในเมือง

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับราคาย่านที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองที่เป็น ซูเปอร์ ซีบีดี ของประเทศไทยกับย่านซูเปอร์ ซีบีดี ของประเทศสิงคโปร์ โดยราคาที่พักอาศัยในประเทศไทยจะต่ำกว่า สิงคโปร์ประมาณ 30% ซึ่งกลุ่มลูกค้าต่างชาติยังให้ความสนใจในการเข้ามาเลือกที่อยู่อาศัยในไทย และส่วนใหญ่ต้องการห้องที่มีขนาดใหญ่

‘ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ’รับแรงซื้อไฮเอนด์ ดันยอดเรสซิเดนท์แตะ 80%

โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ยังเดินหน้าการลงทุนและเปิดโครงการตามแผนที่วางไว้ ตามไทม์ไลน์ จะเริ่มเปิดบริการ โรงแรมดุสิตธานี ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 อาคารสำนักงาน เซ็นทรัลพาร์ค ไตรมาส 2 ปี 2568 และ เปิด โครงการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค ไตรมาส 3 ปี 2568 ต่อมาโครงการ เดอะ เรสซิเดนเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค อาคารสูง 69 ชั้น 406 ห้อง จะส่งมอบให้แก่ลูกค้าในปี 2569 ส่วนพื้นที่สวนสาธารณะบนดาดฟ้า ที่เป็น รูฟพาร์คขนาดใหญ่ 7 ไร่ จะเปิดในปี 2568

ทั้งหมดภาพรวม Dusit Central Park ได้พัฒนาด้วยแนวทาง “Legacy meets Luxury” เพื่อร่วมสร้างนิยามใหม่ ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ ซึ่งจะร่วมอนุรักษ์ และร่วมผลักดันนวัตกรรมร่วมสมัย ภายใต้วิสัยทัศน์ “Here for Bangkok” ร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้อยู่อาศัยในเมือง และดึงดูดกลุ่มลูกค้าต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงทำให้โครงการแห่งนี้ เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ  ที่ร่วมผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมสร้างมาตรฐานใหม่ของการท่องเที่ยว พักผ่อน ชอปปิง และการทำงาน

‘ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ’รับแรงซื้อไฮเอนด์ ดันยอดเรสซิเดนท์แตะ 80%