‘เอ็มสเฟียร์’ เปิดแล้ว 1 ธ.ค. ลูกค้าทะลัก ปั้นสู่โกลบอลเดสทิเนชั่นแห่งใหม่

ศูนย์การค้า ‘เอ็มสเฟียร์’ จิ๊กซอร์ชิ้นสุดท้าย ที่จะเข้ามาเติมเต็มโครงการ ‘เอ็ม ดิสทริค’ (EM DISTRICT) บนทำเลทองใจกลางเมืองกับ "ถนนสุขุมวิท" ที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม (EMPORIUM) เอ็มควอเทียร์ (EMQUATIER) และ เอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) ได้เปิดให้บริการครบแล้ว

โดย ‘เอ็ม สเฟียร์’ ได้เปิดให้บริการทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป เป็นโครงการลงทุนมูลค่า 20,000 ล้านบาท ด้วยขนาดพื้นที่ 200,000 ตร.ม.  

 

 

สำหรับบรรยากาศในการเปิดศูนย์การค้าตั้งแต่วันแรก ได้รับความสนใจจากลุ่มลูกค้าอย่างมาก มารอตั้งแต่ก่อนเปิดศูนย์การค้า และเมื่อถึงเวลาเปิดให้บริการก็มีประชาชนสนใจเข้าไปใช้บริการจำนวนมากในทุกพื้นที่ รวมถึง อิเกีย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจาก สวีเดน ที่มีลูกค้ารอเข้าร้านยาวเหยียดเช่นกัน

การเปิดศูนย์การค้าในช่วงเช้ามีไฮไลต์สำคัญกับ การปรากฏตัวของของ นางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว รองชนะเลิศอันดับ 1 MISS UNIVERSE 2023 ร่วมสร้างปรากฏการณ์ CALLING THE WORLD โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบ HIGH JEWELRY ภายใต้แบรนด์ ‘SIRIVANNAVARI’ ‘สร้อยมรกตประกายเพชร’ The EMerald Necklace with Diamond มรกตรูปหยดนํ้า นํ้าหนัก 102.61 กะรัต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท หนึ่งเดียวในโลก ซึ่งเป็นมรดกตกทอดในครอบครัวช่างเพชรแห่ง บิวตี้ เจมส์ (Beauty Gems) มายาวนาน กว่า 3 เจเนเรชั่น

 

 

 

โดยองค์ดีไซเนอร์ทรงออกแบบรังสรรค์สร้อยคอทองคําขาวประดับเพชร โอบล้อมด้วยริบบิ้นโบว์ที่พันผูกล้อมรอบมรกตสุดพิเศษ ปล่อยชายริบบิ้นสองสาย ประดับเพชรและมรกตนํ้างามที่สุดของที่สุดแห่งความงามลํ้าค่าและสมบูรณ์แบบ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพัน และความทรงจํา ถักทอสายใยแห่งความรัก พร้อมประทานชุดจากแบรนด์ ‘SIRIVANNAVARI’ ที่ทรงออกแบบให้สวมใส่เพื่องานเฉลิมฉลองในครั้งนี้ด้วย

 

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และเอ็ม ดิสทริค กล่าวว่า การเปิดตัวศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะเป็นการร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้แก่ค้าปลีกของไทย ในการร่วมสร้างย่านการค้าแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิท เรียกว่า ‘เอ็ม ดิสทริค’ (EM DISTRICT) ซึ่งประกอบด้วย 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ เอ็มโพเรียม (EMPORIUM) เอ็มควอเทียร์ (EMQUATIER) และ เอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) ทั้งหมดจะร่วมผลักดันสู่การเป็น โกลบอล เดสทิเนชั่น จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญในระดับเวิลด์คลาสอีกแห่งของประเทศ

ไฮไลต์ของ เอ็มสเฟียร์ ที่ต้องการร่วมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ที่โลกเรียกหา (Calling the world) จะมีทั้ง

• การรวบรวมเทรนด์และไลฟ์สไตล์กว่า 300 ร้านค้ามากกว่า 1,000 แบรนด์ โดยพื้นที่ 2 อาคารที่เชื่อมต่อกัน เป็น Fashion Dining Lifestyle Destination แห่งใหม่ อาคารแรกเน้นร้านอาหาร ร้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ไปจนถึง การแสดงนวัตกรรมรถยนต์ และสินค้าไอทีต่างๆ
• อาคารสองที่เชื่อมต่อกัน กำหนดให้เป็นพื้นที่ของ ศูนย์รวมการดูแลสุขภาพและความงาม (Health & wellness) เป็นต้น
• การออกแบบอาคารในรูปทรงแบบ อินดัสเตรียลลุค (Industrial Style) ที่โชว์ให้เห็นถึงพื้นของเพดานของอาคาร และสีของอาคารแบบตามจริง ที่เป็นเทรนด์กำลังมาใช้ในการออกแบบศูนย์การค้าต่างๆ ในยุโรป อีกทั้งยังช่วยทำให้การดูแลรักษาพื้นที่ได้อย่างสะดวกด้วย
• บริเวณทางเข้าของศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้า ได้จัดแสดงถึง สี แสง และลวดลายกราฟฟิก แสดงถึงความโมเดิร์น เพื่อต้อนรับทุกคนเข้ามาในศูนย์การค้า
• การดึงร้านค้าใหม่ๆ มาเป็นแม่เหล็กให้บริการครั้งแรก ทั้งร้าน เชค แช็ค (SHAKE SHACK) มาในคอนเซ็ปต์ใหม่ ร้าน Bread Street Kitchen & Bar เป็นร้านสไตล์ All-Day Dinning จาก เชฟมิชลินระดับโลก Gorden Ramsay มาเปิดในไทยครั้งแรก ร้านทองสมิทธ์ มาในคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เป็นแบบ Hotpot เช่นกัน ไปจนถึงร้านดังที่เข้ามาเปิดในศูนย์การค้าครั้งแรก ทั้ง โรงกลั่นเนื้อ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อจากถนนทรงวาด ร้าน RINTARO ร้านไอศกรีมเจลาโต้ และร้าน ZAO ร้านอาหารอีสานชื่อดัง เป็นต้น รวมถึงการดึงร้านสตรีทฟู้ดยอดนิยมเข้ามาให้บริการ

• การจัดพื้นที่แสดงงานศิลปะ ที่จะหมุนเวียนกันไปในแต่ละช่วงเวลา เพื่อจัดให้เป็นพื้นที่ของอาร์ตเดสทิเนชั่น โดยใช้ชื่อว่า "M CONTEMPORY" : แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยที่รวบรวมผลงานศิลปะที่โดดเด่นของเหล่าศิลปินชื่อดัง อยู่ในชั้น 3

• การดึงร้านค้ายอดนิยมของกลุ่มวัยรุ่นมาเปิดกับ Mediums และเวลา เป็นร้านเครื่องเขียนและกาแฟ จากผู้ประกอบการไทยรุ่นใหม่ไฟแรง และร้าน 52 toys อาร์ตทอยส์ ชื่อดังจากประเทศจีนมาเปิดในไทยครั้งแรก เป็นต้น

สำหรับการเปิดให้บริการศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ได้กำหนดในเวลา 10.00-22.00 น. มีเพียง 2 ร้านที่จะปรับเวลาปิดให้ยาวนานขึ้นได้แก่ 

• กูร์เมต์ มาร์เก็ต เปิด 10.00 น. จนถึงเวลาตีสาม 
• ร้าน เชค แช็ค (SHAKE SHACK) เปิด 10.00 จนถึงเที่ยงคืน ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2567

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า กูร์เมต์ มาร์เก็ต กำลังพิจารณาถึงการเปิดให้บริการในแบบ 24 ชั่วโมง เพราะต้องรอให้การเปิดในแต่ละชั้นครบสมบูรณ์ที่สุด ทั้งในชั้น 5 ที่จัดทำเป็น EM Wonder เป็นโซนที่เปิดให้บริการจนถึงตีสอง รวบรวมร้านอาหารและผับ บาร์ ต่างๆ รวมถึงมี Sky beach club พร้อมเปิดให้บริการในปีหน้าเช่นกัน

ทั้งนี้ ‘เอ็ม ดิสทริค’ (EM DISTRICT) ที่เปิดให้บริการครบกับ 3 ศูนย์การค้าได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม (EMPORIUM) เอ็มควอเทียร์ (EMQUATIER) และ เอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) จะทำให้ทำเลถนนสุขุมวิทตอนกลาง กลายเป็น "ย่านการค้าการท่องเที่ยวที่สำคัญ" รวบรวมทั้งศิลปะในการใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์ ทั้ง Art of Dining, Art of Fashion และ Art of Creative มุ่งสู่การเป็น ศูนย์กลางความบันเทิงของภูมิภาคเอเชีย (Entertainment hub of Asia)