อินเด็กซ์ฯ ลุย ‘ไทยแลนด์เมกะแฟร์’ โชว์เคสพลัง-ไอเดีย ดันไทยแบรนด์เจาะซาอุฯ
นิยามบทใหม่กับการแสดงศักยภาพของประเทศไทยในตลาดตะวันออกกลาง ผ่านการจัดแสดงสินค้าและบริการนวัตกรรมระดับพรีเมี่ยมครอบคลุมธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายภาคส่วน “Thailand Mega Fair 2023” วันที่ 13-16 ธ.ค.2566 ณ ดิ อารีน่า ริยาด (The Arena Riyadh) กรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย
นับเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียเพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน จัดโดย บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “Thailand Mega Fair” เป็นงานแสดงสินค้าจากไทยครั้งใหญ่สุดครั้งแรกในซาอุดีอาระเบีย ภายใต้ความร่วมมือกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และผู้สนับสนุน อาทิ สยามพิวรรธน์ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล (SCG INTL) บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือ TCEB และ บริษัท ยักษ์เขียว จำกัด (YAK Green)
โดยจัดแสดงสินค้าและบริการครอบคลุมอุตสาหกรรมศักยภาพของไทย 9 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม, การท่องเที่ยวและการบริการ, อุตสาหกรรมไมซ์, การเกษตรอัจฉริยะและนวัตกรรม, อุตสาหกรรมเครื่องหอม, สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี, ชิ้นส่วนยานยนต์, สิ่งปลูกสร้างและการตกแต่งระดับหรู และสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อตอบโจทย์ในการใช้ชีวิต มีสินค้ากว่า 200 แบรนด์ รวม 1,000 รายการ จากบิ๊กคอร์ปและเอสเอ็มอี 30 ราย ผู้เข้าชมงานสามารถสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่กับกิจกรรมต่างๆ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์พิเศษ โอกาสสร้างเครือข่าย การสาธิตผลิตภัณฑ์
“การจัดงานครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย เป็นสัญญาณที่ดีของการยกระดับการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ และไม่เป็นแค่เพียงงานแสดงสินค้า แต่ยังเป็นมหกรรมทางวัฒนธรรม มีการแสดงที่สะท้อนความเป็นไทยและมรดกทางวัฒนธรรมที่ยาวนาน"
นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า สยามพิวรรธน์ เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่เข้าร่วมงาน Thailand Mega Fair 2023 เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทยและจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destinations) อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
“นักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลาง โดยเฉพาะจากซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดศักยภาพ เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 96,000 คน ในปี 2565 มาอยู่ที่ 131,336 คน ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ สูงสุดของตะวันออกกลาง คาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มถึง 149,000 คน ในปี 2566 และ 156,000 คนในปี 2567”
สยามพิวรรธน์ พร้อมผสานพลังทุกภาคส่วนผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือน
นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวว่า TCEB พร้อมนำเสนอประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ (การจัดประชุม การจัดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลแก่พนักงาน การจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ) ที่ให้การสนับสนุนและนำเสนอโซลูชั่นที่สร้างสรรค์เพื่อความสำเร็จทางธุรกิจของผู้ประกอบการชาวซาอุดีอาระเบียที่ต้องการจัดงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจในประเทศไทย ด้วยความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่กว้างขวาง
"TCEB พร้อมที่จะทำให้ไมซ์เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเติบโตและการพัฒนาธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ”
สร้างโอกาสเชื่อมนิเวศธุรกิจไทย
นายเกรียงไกร กาญจนโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ที่ต้องการเจาะตลาดที่เปี่ยมไปด้วยพลังของซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลาง ต้องห้ามพลาดงาน Thailand Mega Fair 2023 ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานถึง 8,000 คน
“เป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้ค้าส่ง นักพัฒนา และหน่วยงานของรัฐ ในการเชื่อมโยงตลาดตะวันออกกลางกับระบบนิเวศทางธุรกิจของไทยที่กำลังก้าวหน้า”
งาน Thailand Mega Fair 2023 เป็นมากกว่าช่องทางซื้อขายสินค้า หากแต่เป็นศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์จากธุรกิจ และการแบ่งปันความรู้จากเวทีเสวนาต่างๆ เช่น BDMS เผยความก้าวหน้าด้านการดูแลสุขภาพ SCG เป็นเจ้าภาพเสวนา “Unleashing KSA's Growth Potential : The Resilience of Supply Chains in Action” (ปลดปล่อยศักยภาพการเติบโตของ KSA : ความสามารถในการปรับตัวและฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติของห่วงโซ่อุปทาน) และ TCEB ให้ข้อมูลเชิงลึกศักยภาพไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก
