ส่องตลาดเวชสำอางไทยโต 'นาโอส' แบรนด์ความงามฝรั่งเศส เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

ส่องตลาดเวชสำอางไทยโต 'นาโอส' แบรนด์ความงามฝรั่งเศส เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

ทำไมเวชสำอางระดับโลก จึงสร้างโปรดักส์แชมป์เปี้ยน 30 ปี ขายดีตลอดกาลแม้ไม่มีการปรับสูตร 'นาโอส' บริษัทความงามจากฝรั่งเศส ไขคำตอบ ใช้นวัตกรรมนำหน้า ผสมด้วยความยั่งยืน เปิดแผนรุกตลาดในไทย บุกตลาดออนไลน์ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ชี้ตลาดเวชสำอาง 5,000-6,000ล้านบาท โต10%

ตลาดความงามไทยขยายตัวต่อเนื่อง โดย จากการประเมินของ สมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย คาดการณ์รวมตลาดเครื่องสำอางในปี 2566 จะขยายตัวได้ 9.46% จากปีก่อน ที่ตลาดมีมูลค่ารวมประมาณ 2.60 แสนล้านบาท 

อีกหนึ่งตลาดที่มาแรงกับ ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ในกลุ่มบำรุงผิว โดย “วัลภา รัตนชัยพิพัฒน์” ผู้บริหาร บริษัท นาโอส (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินภาพรวมตลาดเวชสำอางไทยในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว 10% จากในปีก่อน มีมูลค่าประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องจาก ตามความสนใจของกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยที่สนใจดูแลความงามและผิวพรรณ การสนใจในเรื่องข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิด

 

“เครื่องสำอางในโลกให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนสูงมาก โดยนาโอส เป็น 1 ใน 71 บริษัทสมาชิกในกลุ่มเครื่องสำอางระดับโลก ที่เข้าร่วมองค์กร EcoBeautyScore Consortium ได้ร่วมกันจัดทำเกณฑ์การให้คะแนนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปในรูปแบบและระบบเดียวกัน ซึ่งบริษัทที่เข้าร่วมจะต้องให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตนที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม"

ภาพรวมบริษัทสร้างยอดขายเติบโตดีต่อเนื่อง มีเพียงในช่วงโควิดที่ยอดขายลดลงเพียงปีเดียวเท่านั้น แต่หลังจากนั้นขยายตัวมาตลอด โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ขายดีกับ “BIODERMA” ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สูตรเดิม ที่ทำตลาดมา 30 ปีแล้ว ลูกค้าตอบรับดีมาต่อเนื่อง  

ส่องตลาดเวชสำอางไทยโต \'นาโอส\' แบรนด์ความงามฝรั่งเศส เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

ไบโอเดอมา (BIODERMA) เป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นจาก นาโอส (NAOS) บริษัทแม่ที่ฝรั่งเศส ที่ให้ความสำคัญในการทำวิจัยและพัฒนาสินค้า ทำให้สินค้านี้ตอบโจทย์ลูกค้าในไทยและทั่วโลก แม้ว่าจะมีการออกสินค้าใหม่ออกมา แต่ผลิตภัณฑ์นี้ก็ได้รับความนิยมสูงสุด โดยที่ผ่านมา บริษัทได้มีการปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่มาต่อเนื่อง และมีการจัดทำสติ๊กเกอร์ เพื่อให้สแกนและให้ข้อมูลหมายเลขรหัสสินค้า เพื่อป้องกันการปลอมแปลง เนื่องจากในท้องตลาดมีปัญหาเรื่องถูกปลอมแปลงด้วย รวมถึงการให้คะแนนสะสมในการเลือกซื้อสินค้าแก่ลูกค้า 

"สิ่งสำคัญคือ การให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนาสินค้า และตอบโจทย์ลูกค้าในเรื่องการเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ไม่มีสารพิษตกค้างในร่างกาย" 

ส่องตลาดเวชสำอางไทยโต \'นาโอส\' แบรนด์ความงามฝรั่งเศส เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

เภสัชกรหญิงวัลภา รัตนชัยพิพัฒน์ ผู้บริหาร บริษัท นาโอส (ประเทศไทย) 

แผนการดำเนินธุรกิจของ นาโอส ได้มุ่งหลัก 3 P ประกอบด้วย Product, People, Planet เริ่มจาก Product (ผลิตภัณฑ์) นาโอสได้คิดค้นนวัตกรรมศาสตร์ที่เรียกว่า “ECOBIOLOGY” หรือ “ชีวนิเวศวิทยาของผิว” โดยแบรนด์สกินแคร์ของ NAOS ภายใต้แนวคิดดังกล่าวประกอบด้วย BIODERMA, INSTITUT ESTHEDERM และ ETAT PUR มุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ให้ประโยชน์ต่อผู้ใช้ การดำเนินธุรกิจต่อคู่ค้า ลูกค้า คู่ค้า ภาครัฐ ไปจนถึงตามกฎหมายและ พรบ.เครื่องสำอาง ของยุโรป มีความเข้มงวดสูงมากในเรื่องความปลอดภัยต่างๆ รวมถึงตาม พรบ. ของประเทศไทย

Peple (มนุษย์) บริษัทมุ่งดำเนินธุรกิจด้วยการดูแลพนักงานและคู่ค้าตามแนวทางความโปร่งใส และยึดหลักตามธรรมาภิบาล รวมถึงการให้บริการที่ดีดูแลลูกค้า นำเสนอสินค้าที่มีมาตรฐานและปลอดภัย ทั้งหมดสอดคล้องแนวคิด Human care 

Planet (โลกและสิ่งแวดล้อม) การปรับใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก และการลดการใช้พลาสติก โดยเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อกลยุทธ์ 4R คือ Reduce Reuse Recycle Replace ภายในปี 2025 บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายใต้แบรนด์นาโอส จะสามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ 100% และลดปริมาณการใช้พลาสติกลงถึง 20%

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล สามารถย่อยสลายได้ในน้ำ โดย นาโอส ได้รับเครื่องหมาย AQUATIC ECOSYSTEM TESTED ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศทางทะเล อีกทั้งได้นำผลกำไร 5-10% คืนสู่สังคมผ่านโครงการต่างๆ  ซึ่งในแต่ละประเทศจะมีโครงการแตกต่างกัน สำหรับในประเทศไทยได้ดำเนินการผ่านโครงการ NAOS CARE ตั้งแต่ปี 2562 ผ่านการบริจาคผลิตภัณฑ์ และการสมทบทุนวิจัยเพื่อร่วมส่งเสริมนวัตกรรมเกี่ยวกับผิวหนัง

อย่างไรก็ตามแม้บริษัทจะมี "โปรดักส์ แชมป์เปี้ยน" ที่ขายดีตลอดกาล ก็ยังไม่หยุดนิ่งทำตลาดและการขยายฐานลูกค้า โดยได้มีการรุกทำตลาดผ่านออนไลน์ เจาะกลุ่มเจน X และ Y จากในปัจจุบันมีการเปิด Official account ผ่านทาง Lazada และมีการขยายผ่าน Shopee พร้อมมีช่องทางหลักผ่าน LINE และ Facebook รวมถึงได้ขยายเพิ่มผ่าน TikTok เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ซึ่งในปัจจุบันมีฐานลูกค้าสมาชิกประมาณ 7 หมื่นคน และลูกค้ามีการซื้อซ้ำ 50%

ทั้งนี้ผลจากการทำตลาดผ่านออนไลน์อย่างจริงจังมา 4 ปี ทำให้ภาพรวมสัดส่วนยอดขายมาจากออนไลน์ 40% และออฟไลน์ 60% โดยจะขยายเพิ่มช่องทางนี้มากขึ้น ทั้งการดึงบุคลากรมาเสริมทัพ การเพิ่มฐานองค์ความรู้ให้แก่พนักงาน โดยบริษัทแม่ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น

แนวทางการเติบโตในระยะต่อไป ยังมุ่ง "สร้างการเติบโตแบบยั่งยืน ตามแนวทาง ESG" โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 80% เป็นสินค้าไอคอนิคของแบรนด์ ต่อมา มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ส่วนแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในปีต่อไป จะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้มีทางเลือกที่หลากหลาย พร้อมขยายกลุ่ม เซรั่มบำรุงผิว กลุ่มสำหรับผิวมัน ผิวผสม และผลิตภัณฑ์ คลีนซิ่งออยล์ เป็นต้น

"ภาพรวมยอดขายเติบโต 25-30% มาต่อเนื่อง และสร้างกำไรที่ดี รวมถึงยอดขายของ บริษัท นาโอส ทั่วโลก เติบโตสองหลัก และในบางประเทศเติบโตสูงถึง 40-50% โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ขายดีตลอดกาลกับ BIODERMA สูตรเหมือนเดิมออกมา 30 ปีแล้ว ลูกค้าตอบรับดีมาตลอด"