‘LHMH’ อัดงบ 2 หมื่นล้านเปิด 4 โรงแรมใหม่ ติดใจ ‘พัทยา’ ขยายอาณาจักร ‘ธีมโฮเทล’

หลังจากกลุ่มบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด (LHMH) ในเครือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ได้ขยับแตกไลน์ธุรกิจศูนย์การค้าและโรงแรม ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จำนวน 3 แห่ง ในย่านอโศก พระราม 3 และพัทยา ส่วนโรงแรมกลุ่มแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ปัจจุบันเปิดให้บริการรวม 7 แห่ง แห่งล่าสุดคือโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ กรุงเทพฯ โรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ในย่านสุรวงศ์ ขนาด 399 ห้องพัก ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท มีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พ.ย. 2566

นางสุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม LHMH เปิดเผยว่า LHMH เดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง เตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 แห่งใหม่ เป็นระดับลักชัวรีทั้งหมด ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 19,000 ล้านบาท ได้แก่

1.โครงการมิกซ์ยูส (Mixed use) อาคารสูง 50 ชั้น ริมถนนพระราม 4 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าลุมพินี 200 เมตร กำหนดเปิดไตรมาส 1 ปี 2568 ใช้เงินลงทุนกว่า 4,500 ล้านบาท ให้บริการอาคารสำนักงานและโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี กรุงเทพฯ ขนาดห้องพัก 512 ห้อง ไฮไลต์คือห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร โดยจะเป็นโรงแรมใน Tier Prestige Collection

2.โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สาขาที่ 2 ในย่านราชดำริ ขนาดห้องพัก 509 ห้อง ใช้เงินลงทุน 5,100 ล้านบาท กำหนดเปิดในไตรมาส 1 ปี 2569 โดยจะเป็นโรงแรมเรือธง (Flagship) ของกลุ่มที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านราชประสงค์ ติดถนนราชดำริ ซึ่งเป็นที่ดินอาคารเพนนินซูล่าเดิม เมื่อเปิดให้บริการสาขาที่ 2 นี้แล้ว จะทำให้กลุ่ม LHMH มีโรงแรมในย่านราชดำริรวมกว่า 1,000 ห้องพัก

ติดใจ ‘พัทยา’ ผุดธีมโฮเทลใหม่อีก 2 แห่ง

3.โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สาขาที่ 3 ในพัทยา ขนาดห้องพัก 494 ห้อง ใช้เงินลงทุน 4,400 ล้านบาท พัฒนาบนที่ดิน 22 ไร่ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 110,000 ตารางเมตร (อยู่ข้างๆ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา) จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2 ปี 2567 วางกำหนดเปิดในปี 2570 ซึ่งจะเป็นธีมโฮเทล (Themed Hotel) อีกหนึ่งแห่งของแบรนด์ใน Tier Limited Collection ในธีมล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย ให้ความรู้สึกตื่นเต้น

และ 4.โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สาขาที่ 4 ในพัทยา ขนาดห้องพักราว 400-500 ห้อง ใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท โดยจะพัฒนาเป็นธีมโฮเทลเช่นกัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงแรม 3 แห่งแรกและศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ตรงโซนพัทยาเหนือ เพื่อใช้กลยุทธ์การสร้างพลังร่วม (Synergy) และการประหยัดทางขนาด (Economy of Scale) ในการบริหารงาน พร้อมขยายกลุ่มลูกค้าไม่ให้ทับซ้อนกัน

โรงแรมธีมอวกาศ ผลตอบรับดี แรงเกินคาด

หลังจาก LHMH เพิ่งเปิดให้บริการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา (สาขาที่ 2) เมื่อไตรมาส 3 ในปี 2565 ขนาดห้องพัก 490 ห้อง ใช้เงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ถือเป็นธีมโฮเทลแห่งที่ 2 ในพัทยา ภายใต้คอนเซ็ปต์ดีไซน์โลกอวกาศ หรือที่ลูกค้าเรียกติดปากว่าโรงแรมอวกาศ มีไฮไลต์สวนน้ำให้บริการ บนที่ดิน 13 ไร่ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 80,000 ตารางเมตร พบว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยกว่า 90% ภายในเวลาอันรวดเร็ว ถือเป็นผลตอบรับที่ดีเกินคาด จนถึงทุกวันนี้ลูกค้าก็ยังแน่น

และเมื่อรวมจำนวนห้องพักของโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา (สาขาที่ 1) ซึ่งมีขนาด 396 ห้องพัก จะทำให้กลุ่ม LHMH มีโรงแรมรวม 4 แห่งในพัทยา คิดเป็นจำนวนห้องพักมากกว่า 1,800 ห้อง

“การพัฒนาโรงแรมธีมโฮเทลในพัทยาของ LHMH ประสบความสำเร็จเพราะเราทำของดี ตั้งอยู่ในไพร์มโลเกชัน ซึ่งยังมีโรงแรมดีๆ ค่อนข้างน้อยในพัทยา ทำให้โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ได้ราคาห้องพักเฉลี่ยดีที่สุดเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นๆ ในพัทยา”

ส่วนภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกและโรงแรมในเมืองพัทยา ซึ่งทางบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC มีแผนลงทุนโครงการมิกซ์ยูส ภายใต้ชื่อ อควอทีค (Aquatique) จะทยอยเปิดเป็นเฟสๆ ใช้เวลาพัฒนาภายใน 4-5 ปีข้างหน้านั้น ทาง LHMH มองว่าเป็นการแข่งขันที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว

นายกิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการ LHMH กล่าวเสริมว่า โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ในพัทยา รวม 4 แห่ง ทั้ง 2 แห่งในปัจจุบัน และอีก 2 แห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างพัฒนา จะมีธีมหลากหลาย ไม่เหมือนกัน ทำให้แขกเข้าพักซ้ำเพื่อสัมผัสประสบการณ์ภายในโรงแรมทุกมุม

อย่างโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ธีมอวกาศ พบว่าภายในปีแรกที่เปิดให้บริการ มีแขกกว่า 1,000 รายชื่อที่เข้าพักซ้ำเกิน 3 ครั้ง บางรายเข้าพักมากถึง 10 ครั้ง โดยปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ 60% ส่วนใหญ่มาจากเอเชีย ขณะที่ 40% เป็นชาวไทย ปรับฐานจากช่วงแรกๆ ที่เปิดให้บริการซึ่งส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นชาวไทย

“กลยุทธ์การลงทุนโรงแรมของ LHMH ในพัทยา เราเลือกโลเกชันตรงกลางเมือง และเห็นวิวดีที่สุดจาก 2 โค้งอ่าว เดินทางได้สะดวก เชื่อมถนน 5 สาย ส่วนการบริหารต้นทุนปฏิบัติการเน้นแชร์ร่วมกัน เอื้อต่อการขายซึ่งกันและกัน นอกจากนี้มองว่าเมืองพัทยาอาจดูเหมือนมีห้องพักจำนวนมาก แต่จริงๆ แล้วมีประมาณ 60,000 ห้องพัก เกินครึ่งเป็นโรงแรมระดับกลาง ส่วนโรงแรมระดับ Top Luxury มีแค่ 1% เท่านั้น เป็นช่องทางให้ LHMH ลุยเจาะตลาดนี้ ลงทุนเปิดโรงแรมลักชัวรีในพัทยาต่อเนื่อง”

 

เน้นลงทุนโรงแรมไซส์ใหญ่ ยอดพุ่งแตะ 5 พันห้องพัก

นายกิตติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางการลงทุนโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะเห็นว่าทั้ง 4 แห่งใหม่ในกรุงเทพฯและพัทยา เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ประมาณ 500 ห้อง และเป็นโรงแรมระดับลักชัวรีทั้งหมด เนื่องจากมีแนวโน้มทำราคาห้องพักเฉลี่ย (ADR) ได้ดี รองรับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มกำลังซื้อสูงที่พร้อมจ่ายในยุคหลังโควิด-19

ปัจจุบัน ADR ของโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 4,500-6,000 บาทต่อคืน ส่วนโรงแรมฯ สาขาที่ 1 ในพัทยา ADR อยู่ที่ 5,000 บาทต่อคืน และโรงแรมฯ สาขาที่ 2 ในพัทยา ธีมอวกาศ ทำ ADR ได้สูงถึง 7,000 บาทต่อคืน โดยจากภาพรวมโรงแรมในเครือทั้งหมดในปี 2566 มี ADR เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด และมีอัตราการเข้าพักประมาณ 90% ในทุกสาขา

“เมื่อรวมจำนวนห้องพักโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ทั้ง 7 แห่งในปัจจุบัน และอีก 4 แห่งใหม่ในอนาคต รวมทั้งหมด 11 แห่งแล้ว จะคิดเป็นจำนวนห้องพักมากถึง 5,000 ห้อง”

 

คาดปี 67 รายได้โรงแรมโต 15%

นางสุวรรณา กล่าวเพิ่มเติมว่า LHMH คาดการณ์ว่าในปี 2566 เฉพาะธุรกิจโรงแรมกลุ่มแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ จะทำรายได้รวมประมาณ 4,800 ล้านบาท และเติบโต 15% ในปี 2567 เพิ่มเป็น 5,520 ล้านบาท จากปัจจัยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว

ส่วนรายได้รวมทั้งจากธุรกิจโรงแรมและศูนย์การค้าในปี 2566 คาดว่าอยู่ที่ 7,500 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า ยังไม่สามารถปรับค่าเช่าพื้นที่ได้ เพราะผู้เช่ายังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งพึ่งพาลูกค้าจากทั้งตลาดในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ