เปิดโฉม 'เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ' พร้อม 10 ไฮไลต์เด็ด ปลุกย่านบางกะปิคึก
เปิดโฉมทางการ 'เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ' พร้อม 10 ไฮไลต์เด็ด ดึงแบรนด์ใหม่เสริมทัพ มั่นใจ หนุนกระตุ้นย่านการค้าบางกะปิคึกคัก จากรถไฟฟ้า 3 สาย ขึ้นแท่นทำเลทอง ดันสู่ย่านการค้าที่สำคัญ บรรยากาศที่คล้ายกับ สยามสแควร์
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ประกาศแผนครั้งใหญ่กับการปรับโฉมศูนย์การค้าในเครือ ทั้ง เดอะมอลล์ บางกะปิ และ เดอะมอลล์ บางแค ครั้งใหม่ งบลงทุนรวม 30,000 ล้านบาท สู่ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค และ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เพื่อวางเป้าหมายเป็นฮับของย่านการค้าทั้ง ใน กทม. ฝั่งตะวันตก และ กทม. ฝั่งตะวันออก
สำหรับเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ขนาดพื้นที่ 350,000 ตร.ม. มีไฮไลต์สำคัญที่ประกอบด้วย
1. การรีโนเวทครั้งใหญ่ในรอบร่วม 30 ปี รองรับตลาดและไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการมีรถไฟฟ้ามาเปิดให้บริการพร้อม 3 สาย จากปัจจุบันสายสีเหลือง ส่วนในอนาคตกับสายสีส้ม และสายสีน้ำตาล พร้อมมีการทำสกายวอร์คเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเหลืองทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวก
2. พร้อมดึงแบรนด์ใหม่มาเสริมทัพ โดยเฉพาะการดึงร้านค้าที่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นมาเปิดให้บริการรวมประมาณ 10 ท้อปแบรนด์จากญี่ปุ่น เพื่อวางให้เป็น เจแปนนีส ฮับ ในย่านบางกะปิสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ในแบบญี่ปุ่น นำโดย ร้าน ดอง ดอง ดองกิ (DON DON DONKI) จากประเทศญี่ปุ่น เป็นสาขาแห่งที่ 9 ในไทย เริ่มเปิดให้บริการวันที่ 24 พ.ย.นี้ ต่อมา ร้านนิโตริ (NITORI) เปิดให้บริการในช่วงเดือน ธ.ค. และมีร้านมูจิ (MUJI) ที่เปิดให้บริการแล้ว รูปแบบ แฟลกชิปสโตร์ เป็นต้น
3. การดึงร้านอาหารใหม่ๆ เข้ามาร่วมดึงดูดลูกค้า ทำให้มีร้านอาหารรวมเกือบ 100 ร้านค้าทั้งจากประเทศไทย ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เป็นต้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น ฟู้ด เดสทิเนชั่น ฮับใน กทม. ตะวันออก ซึ่งในทุกชั้นจะมีร้านอาหาร รวมถึงร้านกาแฟ รวมประมาณ 20 ร้านค้า รองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในย่านบางกะปิ ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่
สำหรับแบรนด์ใหม่ที่ดึงเข้ามาอย่าง Shake Shack ในช่วงไตรมาสสองปีหน้า, ร้าน แซมาอึลเอ็กซ์เพรส แบรนด์ใหม่จาก เครือ แซมาอึล ร้านปิ้งย่างอันดับหนึ่งจากเกาหลีใต้ จากเชฟชื่อดัง เชฟแพคจงวอน รวมถึงมีร้านกาแฟ เต่าบิน มาเปิดสาขาในแบบป๊อปอัพสโตร์ จัดทำเป็นร้านกาแฟมีที่นั่งพร้อมเมนูใหม่ๆ เป็นต้น
5. การขยายพื้นที่กลุ่มร้านกีฬาและอุปกรณ์ออกกำลังกาย รวมถึงร้านที่เป็นสปอร์ตแฟชั่น รวบรวมทุกแบรนด์ชื่อดังมาเปิด สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงและผู้ชาย โดยเป็นการเสริมไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจเรื่องการออกกำลังกายและให้ความสนใจไลฟ์สไตล์แต่งตัวแบบสบายมากขึ้น
6. การดึงเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มาเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์กับ Bangkapi Cineplex จำนวน 8 โรงและครั้งแรกกับ โรงภาพยนตร์จอขนาดใหญ่ ไอแมกซ์ ที่มาด้วย IMAX with Laser ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่เลเซอร์ 4K เจเนอเรชั่นใหม่ ที่ให้ภาพคมชัด ให้ความสว่างและสีสัน สมจริงมากที่สุด พร้อมด้วย KIDS CINEMA โรงภาพยนตร์สำหรับเด็กและครอบครัว มีการจัดทำ บ่อบอลขนาดยักษ์ และสไลเดอร์ในโรงภายนตร์ด้วย
7. การนำแบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ เข้ามาเปิดและขยายในสาขารูปแบบ แฟลกชิปสโตร์ ที่มีขนาดใหญ่ จากทั่วมุมโลก รวมถึงการปรับบิวตี้ ฮอลล์ สู่โฉมใหม่ ที่ดึงแบรนด์ชั้นนำระดับโลก 150 แบรนด์มาร่วมเปิด
8. การปรับพื้นที่ของ MCC Hall (เอ็มซีซี ฮอลล์) ครั้งใหม่ รองรับการจัดอีเว้นท์อย่างหลากหลาย ทั้งสำหรับกลุ่มแฟนคลับ และอีเว้นท์ในระดับโลก
9. การนำ AR Indoor navigation มาใช้ในธุรกิจรีเทล ครั้งแรก เพื่อสามารถค้นหาร้านค้าในศูนย์การค้าได้ และสร้างสิทธิประโยชน์ของแต่ละร้านผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น
10. การปรับพื้นที่ใหม่ในศูนย์การค้า ที่เน้นพื้นที่รีเทลมากขึ้น และลดพื้นที่ในส่วนของดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ลง ประมาณ 20% แต่ตกแต่งพื้นที่ในแต่ละชั้นใหม่ ทั้งสีสันและเพิ่มบันไดเลื่อน ไปจนถึงน้ำตาขนาดใหญ่ใจกลางศูนย์การค้า สอดรับกับเทรนด์ในทั่วโลกที่กลุ่มลูกค้า ชื่นชอบการมาเลือกซื้อสินค้าและชอปปิ้ง
ทั้งนี้มีแผนจัดกิจกรรมใหญ่สำหรับการเปิดศูนย์ครั้งใหม่ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไปทั้งนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เตรียมงบ 1,000 ล้านบาท เพื่อร่วมทำการตลาดรองรับการเปิดศูนย์การค้า ทั้งเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค ในช่วง 3 เดือนนี้ เริ่มจาก พ.ย. 2566 จนถึง ม.ค.2567 ภายใต้แนวคิด "เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ มหัศจรรย์ มหาศาล ที่มหานครแห่งใหม่ CAPITAL OF LIFE WONDERS"
หลังจากนั้นเตรียมแผนจัดอีเว้นท์ใหญ่ต่อเนื่องรวมกว่า 600 งาน ตลอดปี 2567 เพื่อร่วมกระตุ้นย่านการค้าบางกะปิให้มีความคึกคักยิ่งขึ้น
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ จะร่วมสร้างย่านการค้าบางกะปิ ให้มีความคึกคักมากขึ้น โดยภายหลังการรีโนเวทพร้อมดึงร้านค้าใหม่ๆ มาเปิด จึงเป็นการร่วมสร้างพื้นที่และบรรยากาศที่คล้ายกับ สยามสแควร์ ขึ้นมาในทำเลแห่งนี้ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีมหาวิทยาลัย และเป็นย่านที่มีคนทำงานจำนวนมาก
อีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานในการเดินทางที่มีความสะดวก เป็นฮับการเดินทางที่สำคัญ ทั้งมีทำเลเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย รวมถึงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ และการเดินทางเรือด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละวันมีคนเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก รวมถึงในรัศมีรอบ บางกะปิ 5-10 กิโลเมตร มีประชากรจำนวนกว่าล้านคน อีกทั้งยังมีโครงการ ที่มีบ้านในราคาสูง ไปจนถึงหลัก 20 ล้านบาทขึ้นไปด้วย
