ส่อง 5 จุดเช็กอิน พื้นที่อัตลักษณ์ ‘ลอยกระทง 2566’ เรือธงเฟสติวัลโค้งท้ายปี

ส่อง 5 จุดเช็กอิน พื้นที่อัตลักษณ์ ‘ลอยกระทง 2566’ เรือธงเฟสติวัลโค้งท้ายปี

เทศกาล ‘ลอยกระทง 2566’ บน 5 พื้นที่อัตลักษณ์ทั่วไทย ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด ภายใต้การสนับสนุนและประชาสัมพันธ์จัดงานโดย ‘การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย’ (ททท.) ได้ฤกษ์ฉายความงดงามของวัฒนธรรม พร้อมสอดแทรกแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ

1. ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566 

กำหนดการ                     : วันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2566

สถานที่จัดงาน                 : บริเวณเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เนรมิตบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ต้อนรับประเพณีลอยกระทงตามความเชื่อล้านนา วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 พบกับพิธีขอขมาแม่น้ำปิง กิจกรรมประกวดโคมยี่เป็งล้านนา  และพิธีเปิดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ 2566 เวลา 18.00 น. ณ ข่วงประตูท่าแพ ภายใต้แนวคิด “เชียงใหม่นครแห่งความสุข และความสง่างาม ค่ำคืนแห่งสายนที วิถีวัฒนธรรมล้านนา”, วันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2566 พบกับ การประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ พิธีปล่อยกระทงสายล้านนา กิจกรรมความสุขแห่งสายน้ำ ยี่เป็งเชียงใหม่ และการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ เวลา 20.30 น. ณ ท่าน้ำศรีโขง ต่อมาในวันที่ 27 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พบกับการประกวดขบวนแห่สะเปาล้านนา การประกวดหนูน้อยยี่เป็งเชียงใหม่  และวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 พบกับการประดวกชบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานฯ เวลา 19.00 น. ณ ท่าแพ สำนักงานเทศบาล

 

2. ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

กำหนดการ                 : วันที่ 18-27 พฤศจิกายน 2566

สถานที่จัดงาน             : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

ตื่นตาตื่นใจกับไฮไลต์การแสดงแสง เสียง ณ วัดมหาธาตุ เมืองมรดกโลกสุโขทัย ย้อนอดีตสู่ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย ผ่านการถ่ายทอดจากนักแสดงนาฏศิลป์กว่า 400 ชีวิต ชมขบวนช้างยุทธหัตถี การละเล่น พลุตะไล ไฟพะเนียง ไฟไทยแบบโบราณ สุดตระการตา วันที่ 18-27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น. และเพิ่มรอบในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 20.30 น. การแสดงการจุดพลุ ตะไล ไฟ พะเนียง ดอกไม้ไฟ แบบสุโขทัย ทุกวัน เวลา 22.30 น. การจำลองวิถีชีวิตสมัยกรุงสุโขทัย ตลาดโบราณ ตลาดแลกเบี้ย ตลาดบ้านบ้าน ทุกวัน เวลา 16.00 -22.00 น., การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ณ บริเวณหลังวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 21.00 น., การแสดงแสง เสียง ชุดตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ บริเวณตระพังตระกวน ทุกวัน เวลา 22.00 น., การประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ โคมชัก โคมแขวน จัดแสดง ณ ลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง และตระพังตาล ทุกวัน เวลา 16.00-23.00 น., กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทงสุโขทัย (โซน ททท.) การแสดงและสาธิตผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก สุโขทัย กิจกรรม DIY การแสดงวัฒนธรรม และจุดถ่ายภาพ Landmark ณ บริเวณหน้าวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 16.00-22.00 น. และในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พบกับขบวนแห่ทางวัฒนธรรมงานประเพณีลอยกระทงสุโขทัย กระทงใหญ่ โคมชักโคมแขวนจาก 4 ปากประตูเมืองสุโขทัย

3. ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง จังหวัดตาก

กำหนดการ                     : วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2566

สถานที่จัดงาน                 : เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี อำเภอเมือง จังหวัดตาก

- วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย จำหน่ายกระทงกะลาของนักเรียน และกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ สักการะบูชาพระอุปคุต รอยพระพุทธบาท พระแม่คงคา น้ำมนต์จันทร์เพ็ญวัดวาสะเดาะเคราะห์, กาดกระทงสาย, การประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง ดาวรุ่งลูกทุ่งกระทงสายชิงถ้วยพระราชทานฯ และการแข่งขันมวยไทยและมวยคาดเชือก

- วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และขบวนแห่อัญเชิญพระประทีปพระราชทาน, ขบวนแห่เรือกระทงสาย ทั้ง 4 สาย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ และพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ประดิษฐานบนเวทีกลางน้ำปิง  และพิธีเปิดงานฯ ในเวลาในเวลา 20.00 น. พร้อมการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง

- วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ) ณ เวทีกลางน้ำปิง ในเวลา 19.00 น. และชมการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง ประจำปี 2566

- วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ) พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ, ชมการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง ประจำปี 2566 และพิธีปิดงาน ณ เวทีกลางน้ำปิง ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป พร้อมชมการแสดงพลุในเวลา 21.00 น. ก่อนจะส่งท้ายกิจกรรมใส่บาตรพระอุปคุต เที่ยงคืน อาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ในเวลา 24.00 น.

 

4. ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง

กำหนดการ                วันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2566 ณ อุทยาน ร.2 จ.สมุทรสงคราม 

และวันที่ 18 -27 วัดภุมรินทร์กุฎีทอง จ.สมุทรสงคราม

- กิจกรรมภายในอุทยาน ร.2 พบกับการประกวดกระทงชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, การประกวดรำวงตามบทร้อง (พื้นบ้าน) ชิงถ้วยพระราชทานฯ  พิธีอาบน้ำเพ็ญ, การแสดงจากยุวศิลปินของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น, นิทรรศการอาหารบ้านฉัน นิทรรศการกระทงกาบกล้วย  กิจกรรมเวิร์กชอปกระทงกาบกล้วย อาหารและขนมพื้นเมือง ก่อนจะเพลิดเพลินไปกับโซนตลาดสินค้าชุมชนและของที่ระลึก สาธิตและการออกร้านอาหารและขนมไทยเมืองอัมพวา รวมทั้งสินค้าเพื่อสุขภาพต่าง ๆ เช่น  อาหารสุขภาพ นวด สปา เครื่องหอม สมุนไพร

- กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในวัดภุมรินทร์กุฎีทอง พบกับริ้วขบวนแห่พระประทีป พระราชทาน การลอยกระทงกาบกล้วย 200,000 ใบ การประกวดนางนพมาศ การออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน และการแสดงเชิงวัฒนธรรม

 

5. ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป ครั้งที่ 25 ประจำปี 2566

กำหนดการจัดงาน        : วันที่ 26–27 พฤศจิกายน  2566

สถานที่จัดงาน             : สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด

- วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 พบกับ การประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป เวลา 13.00 น., การแสดงดนตรีพื้นบ้านอีสาน (หมอลำ) โดยศิลปินแห่งชาติ แม่ฉวีวรรณพันธุ์ เวลา 15.00 น. ขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน ณ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด รำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป จำนวน 5,000 คน เวลา 18.00 น. และชมการแสดง แสง เสียง เวลา 18.30 น. และการแสดงของศิลปินท้องถิ่น เวลา 20.00 น.

- วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 พิธีสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เวลา 8.30 น., พิธีเปิดงานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” ครั้งที่ 25 ประจำปี 2566 เวลา 17.30 น, ขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน เวลา 18.00 น. ขบวนแห่กระทงประทีป 12 เมืองร่วมสมัย และไฮไลต์ขบวนอัญเชิญไฟพระราชทานนำหน้าพระประทีปพระราชทานลงลอยในบึงพลาญชัย เวลา 20.00 น. และเชิญประชาชนร่วมลอย “กระทงข้าว” ในเวลา 20.30 น.