สรุป ‘จักรวาลการตลาดยุคใหม่’ และคำเตือน!! จากปรมาจารย์ ‘ฟิลิป คอตเลอร์’
งาน World Marketing Forum ครั้งที่ 3 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมีสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (Marketing Association of Thailand) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทย ร่วมกับสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (Asia Marketing Federation)
ไฮไลต์ของงานคือการระดม “กูรู” การตลาดจากหลากหลายวงการมากถึง 30 ท่าน จากทั้งในและต่างประเทศครอบคลุม 5 ทวีป มาอัปเดทเทรนด์ เรื่องน่ารู้ เพื่อให้ผู้ประกอบการ นักการตลาดนำไปประยุกต์ ปรับใช้ในการทำธุรกิจแห่งอนาคต ที่สำคัญยังมีเสียง “เตือน” จากสุดยอดบิดาการตลาดอย่าง “ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์” (Philip Kotler) ในวัย 92 ปี ซึ่งสั่งสมประสบการณ์มากมาย
เปิดประโยคผ่านวิดีโอคอล “คอตเลอร์” ยาหอมว่า กรุงเทพฯ ประเทศไทยเป็นหนึ่งเมืองและในประเทศที่ผมชอบมากที่สุด นอกจากนี้ ยังชอบทำงานร่วมกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชียด้วย
- ใดๆในโลกล้วนการตลาด
จากนั้น ฉายภาพการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อเทียบศาสตร์อื่นๆ เช่น เรขาคณิต 2,000 ปีมาแล้วเป็นอย่างไร ยังคงเป็นอย่างนั้น นอกจากนี้ การตลาดยังแทรกซึมอยู่ในทุกธุรกิจ ทุกหน่วยงาน องค์กร ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ โรงเรียน แม้กระทั่งกิจการเพื่อสังคม ฯ เช่น หากมีโจทย์ต้องแก้ ในการดึงคนเข้าโบสถ์มากขึ้น เพิ่มจำนวนนักเรียนในสถานศึกษา หรือเพิ่มนักเรียนคุณภาพให้มากขึ้น ฯ
- เจาะพฤติกรรมผู้บริโภค
“คอตเลอร์” มองพฤติกรรมผู้บริโภค “ชาย-หญิง” มีการตัดสินใจซื้อสินค้าแตกต่างกัน
-ผู้บริโภคซื้อสินค้าตัดสินใจด้วย “เหตุผล” ไม่ใช่เรื่องจริงอีกต่อไป เพราะการตัดสินใจซื้อด้วย “อารมณ์”(Emotional)
-ผู้บริโภคซื้อสินค้าด้วยอารมณ์ 70%
-นักการตลาดต้องศึกษาเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้เข้าใจความต้องการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
- อีคอมเมิร์ซจะโต เบียดออฟไลน์ 50%
-ช่องทางขายอีคอมเมิร์ซ มีการเติบโตในอัตราเร่ง จากพฤติกรรมช้อปผ่านหน้าจอได้ทุกที่ทุกเวลา
-สัดส่วนการขายผ่านอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันยังน้อยกว่าค้าปลีกหน้าร้าน หรือช่องทางออฟไลน์
-คนรุ่นใหม่อยากเป็นเจ้าของกิจการมากขึ้น และการขายสินค้าจะมุ่งตรงไปสู่ลูกค้าทันที แทนที่จะนำสินค้าไปฝากขายในร้านค้าปลีกต่างๆ เหมือนในอดีต เช่น การซื้อหนังสือผ่านช่องทาง Amazon เพียง 1 นาที และจ่ายเงินจบ
-แต่การโตที่ร้อนแรงของอีคอมเมิร์ซจะทำให้อนาคตชิงยอดขายสัดส่วน 50% เท่ากับออฟไลน์
- อาวุธทรงพลังในการทำตลาด
-Marketing Technology จะมีบทบาทมากขึ้น
-เทคโนโลยีเอไอ การตลาดสมจริงหรือ Immersive จะทำให้คนและธุรกิจเข้าไปอยู่ในนั้นมากขึ้น นักการตลาดต้องนำมาใช้สร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค
-ข้อมูลหรือ Data Machine Learning เป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องนำมาใช้วิเคราะห์การทำตลาดมากขึ้น
- คำเตือน! ถึงนักการตลาด
-ภาวะโลกร้อน เป็นปมปัญหาใหม่ที่ต้องแก้ไข วางแผนกลยุทธ์การทำตลาด
-การผลิตสินค้า ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น เช่น โรงงานผลิตลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากน้อยแค่ไหน ผลิตแล้วมีของเหลือ จัดการอย่างไร ใช้พลาสติกหรือไม่ ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลงหรือเปล่า ฯ เพื่อให้เห็นภาพจึงยกตัวอย่าง ไอโฟนรุ่นใหม่ออกมา นักการตลาดจัดการกับไอโฟนรุ่นเก่าอย่างไร ทิ้งหรือนำกลับไปใช้ซ้ำ ฯ
-ต้นแบบแบรนด์รักษ์โลก “พาทาโกเนีย”(Patagonia) นำวัสดุรีไซเคิลมาผลิตสินค้า ได้ทั้งยอดขายและกำไร สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
-ตอนนี้เหล่าคนดัง(Influencer) ที่ทรงอิทธิพลต่อผู้อื่น มีคนตามเป็นล้าน จะดึงให้ผู้บริโภคยอมจ่ายเงินซื้อสินค้า ช่วยให้ยอดขายดีขึ้น เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ ชื่นชอบเครื่องดื่มอัดลม คนเห็นดื่มอาจซื้อเพื่อดื่มตาม เป็นต้น
-ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าในอนาคต จะซื้อสินค้าดีสุด แต่จะไม่อิง หรือเชื่อโฆษณาและผู้ขายอีกต่อไป เพราะยุคนี้ผู้บริโภคหาและรับรู้ข้อมูลได้โดยไม่ต้องสนใจโฆษณาเลย
-คำเตือน! ภายใน 5 ปี ถ้าผู้ประกอบการยังอยู่และทำธุรกิจแบบเดิม ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง จะโดนเตะออกตลาด
-หากแบรนด์ไม่เพิ่มความยั่งยืนมาอยู่ในแผนธุรกิจ ธุรกิจจะเดินไปสู่จุดจบ!!