THA อ้อนรัฐขยาย ‘วีซ่าฟรี’ ดึงทัวริสต์ ตั้งรับวิกฤติฝุ่น PM ฉุดมู้ดไฮซีซัน!
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค. สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) มองว่า “ภาคการท่องเที่ยว” เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) หรือ “วีซ่าฟรี”
นอกจากนี้ยังมีวันหยุดต่อเนื่องรวมถึงช่วงเทศกาลกินเจ สร้างสีสันและความน่าสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก รวมถึงการจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวช่วงปลายปี มีการออกบูธขายแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์และสถานที่ต่างๆ เป็นส่วนช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีต่อเนื่อง
หลังจากรัฐบาลออกมาตรการวีซ่าฟรีไปแล้วแก่นักท่องเที่ยวจาก 4 ประเทศ/เขตปกครอง ได้แก่ จีน คาซัคสถาน (ตั้งแต่ 25 ก.ย. 2566 - 29 ก.พ. 2567) ส่วนอินเดีย ไต้หวัน (ตั้งแต่ 10 พ.ย. 2566 - 10 พ.ค. 2567) ตามด้วยมาตรการขยายวันพำนักแก่นักท่องเที่ยวรัสเซียจาก 30 เป็น 90 วัน เป็นกรณีพิเศษ (ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2566 - 30 เม.ย. 2567) ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ
มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สมาคมฯ หวังว่ารัฐบาลจะมีการพิจารณาเปิดวีซ่าฟรี หรือขยายวันพำนักแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติมอีก โดยคาดว่าช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) นักท่องเที่ยวไทยจะเดินทางสัมผัสอากาศหนาวกันอย่างคึกคักมากขึ้น รวมถึงการที่รัฐบาลอนุมัติการขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตี 4 โดยนำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ตในเดือน ธ.ค.นี้ จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในช่วงไฮซีซันได้เป็นอย่างดี
แต่ยังคงมีปัจจัยต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือสถานการณ์สู้รบอาจส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของตลาดการเงินโลก รวมถึง “วิกฤติฝุ่น PM2.5” ต้องแก้ไขอย่างจริงจังเร่งด่วนและหาทางป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบในระยะยาวทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อการลดกิจกรรมต่างๆ ทั้งเดินทาง การออกจากบ้าน จับจ่ายซื้อสินค้า ก็จะทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เงินหมุนเวียนในระบบน้อยลง โดยเฉพาะพื้นที่ “ภาคเหนือ” อาจสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังจะตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวไทยก็อาจจะชะลอไว้ก่อน หรืออาจจะเปลี่ยนไปเที่ยวประเทศอื่นที่คุณภาพอากาศดีกว่า
มาริสา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลสำรวจ “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม ประจำเดือน ต.ค. 2566” จัดทำโดยสมาคมฯ และธนาคารแห่งประเทศไทย สำรวจระหว่างวันที่ 16-27 ต.ค. 2566 จากผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 77 แห่ง คาดการณ์ว่าในเดือน พ.ย. 2566 จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 60% เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 54% ตามนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน)
ทั้งนี้ โรงแรมกว่าครึ่งหรือ 52% ประเมินว่าในไตรมาส 4/2566 จะมี “ลูกค้าต่างชาติ” (ไม่รวมจีน) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 โดยโรงแรมในเกือบทุกภูมิภาคและโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไปส่วนใหญ่คาดว่าลูกค้าจะเพิ่มขึ้น ยกเว้นโรงแรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่ประเมินว่าลูกค้าต่างชาติจะใกล้เคียงกับไตรมาส 3
โดยโรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาวและระดับ 4 ดาวขึ้นไปส่วนใหญ่ประเมินว่าในไตรมาส 4/2566 “ลูกค้าจีน” มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก ขณะที่โรงแรมในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่ประเมินว่าลูกค้าจีนจะใกล้เคียงกับไตรมาส 3
และจากเหตุยิงในห้างสรรพสินค้าช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โรงแรมประมาณครึ่งหนึ่งหรือ 51% เห็นว่าลูกค้าต่างชาติ (ไม่รวมจีน) ยังไม่ยกเลิกการจองห้องพักในไตรมาส 4/2566 ขณะที่โรงแรมในภาคเหนือและภาคใต้เห็นการยกเลิกการจองบ้าง แต่ส่วนใหญ่คาดว่าสัดส่วนการยกเลิกจะไม่เกิน 10% สำหรับลูกค้าจีน มีการยกเลิกการจองแต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 10% ยกเว้นในภาคกลางที่สัดส่วนการยกเลิกส่วนใหญ่อยู่ที่ 11-25%