ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น ซื้อเก็งกำไรหนุนตลาด

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น  ซื้อเก็งกำไรหนุนตลาด

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(9พ.ย.)ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังราคาดิ่งลงอย่างหนักก่อนหน้านี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก  41 เซนต์ ปิดที่ 75.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 80.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมัน WTI ทรุดตัวลงก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบ หลังสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ลดลงในตลาด

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 11.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 300,000 บาร์เรล

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) แถลงว่า EIA จะเลื่อนการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีการปรับปรุงระบบ และจะมีการรายงานตามปกติในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ EIA ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ในปี 2567 สู่ระดับ 89.24 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยลดลง 1.8% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค. และปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2567 สู่ระดับ 93.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.8% เช่นกัน

ขณะเดียวกัน EIA คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐจะลดลง 1% ในปี 2567 ซึ่งจะทำให้การบริโภคน้ำมันเบนซินต่อหัวของชาวอเมริกันต่ำสุดในรอบ 20 ปี โดยมีสาเหตุจากการที่ประชาชนทำงานจากที่บ้านมากขึ้น, การที่รถยนต์มีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น และการที่อุปสงค์น้ำมันลดลงจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น

ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

จีน เปิดเผยว่า ยอดส่งออกดิ่งลง 6.4% สู่ระดับ 2.748 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 3.3% และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์สินค้าและบริการของจีนที่อ่อนแอในตลาดโลก

นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า โรงกลั่นน้ำมันของจีนจะลดปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบในช่วงเดือนพ.ย.และธ.ค. ซึ่งจะเป็นปัจจัยจำกัดอุปสงค์น้ำมันในประเทศ