VISTEC จากแหล่งผลิตนักวิจัย สู่การสานต่อธุรกิจ Deep Tech Startup

VISTEC จากแหล่งผลิตนักวิจัย สู่การสานต่อธุรกิจ Deep Tech Startup

VISTEC กับเส้นทางการสานต่อธุรกิจ Deep Tech Startup มุ่งต่อยอดงานวิจัยสู่การพัฒนาเป็นเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ เพิ่มศักยภาพประเทศ และเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติ

บนโลกแห่งการแข่งขัน การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนได้นั้น ต้องเริ่มที่เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาและพลิกโฉมประเทศไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ New S-Curve 

หนึ่งในความตั้งใจเพื่อนำประเทศเดินหน้าไปสู่เส้นทางแห่งเทคโนโลยี ได้เริ่มต้นที่ สถาบันวิทยสิริเมธี หรือในชื่อย่อว่า VISTEC เป็นสถาบันการศึกษาที่ริเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 โดย กลุ่มบริษัท ปตท. บนพื้นที่เพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ ในเมืองแห่งนวัตกรรม วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง โดยเน้นการบ่มเพาะนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นงานวิจัยชั้นแนวหน้าในระดับสากล โดยเปิดสอนในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก (หลักสูตรนานาชาติ) ประกอบไปด้วย 4 สำนักวิชา ดังนี้

  1. สำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล (School of Molecular Science and Engineering : MSE) 
  2. สำนักวิชาวิทยาการพลังงาน (School of Energy Science and Engineering : ESE) 
  3. สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ชีวโมเลกุล (School of Biomolecular Science and Engineering : BSE)
  4. สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (School of Information Science and Technology : IST)

ทั้ง 4 สำนักวิชา ถือเป็นแกนหลักของนวัตกรรมสมัยใหม่ ที่สอดรับกับเทรนด์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ New S-Curve ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในอนาคต 

ทั้งนี้ VISTEC ได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานไว้ 3 แนวทาง โดยเริ่มจากงานทางด้านวิชาการ ที่เน้นการสร้างสรรค์งานวิจัยชั้นแนวหน้า ไปพร้อมกับการสร้างบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูง 

ส่วนแนวทางที่ 2 คือ นำงานวิจัยที่สำเร็จมาต่อยอด สร้างเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงทางอุตสาหกรรม โดยมีหน่วยงานที่ชื่อ Frontier Research Center รับผิดชอบในการสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม รับโจทย์จากหน่วยงานภายนอก เพื่อหาแนวทางในการนำผลงานวิจัยและเทคโนโลยีมาพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม 

แนวทางลำดับสุดท้ายคือ การบ่มเพาะวิสาหกิจใหม่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีชั้นสูง หรือที่เรียกว่า Deep Tech Startup ซึ่งปัจจุบัน ทาง VISTEC ได้ก่อตั้ง บริษัท วิสอัพ จำกัด (VISUP COMPANY LIMITED) ขึ้น โดยมีบทบาทเป็น Venture Builder ที่เสมือนเป็นโรงงานผลิต Startup ออกสู่ตลาดอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่ไอเดียการทำธุรกิจ โดยต่อยอดงานวิจัยสู่การพัฒนาเป็นเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งซัพพอร์ตแหล่งเงินทุน ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรที่มี เพื่อสนับสนุน Startup ให้สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

หนึ่งใน Startup ภายใต้ บริษัท วิสอัพ จำกัด คือ บริษัท คลีนเทค แอนด์ บียอนด์ จำกัด (Cleantech and Beyond Co., Ltd.) ซึ่งมีผลงานโดดเด่นที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีจากห้องแล็บสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์และดำเนินธุรกิจอย่างเต็มตัว นั่นคือ Digital Temperature Indicator หรือ DTI ที่ต่อยอดผลงานวิจัยจากสำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล โดยยกระดับความสามารถของ RFID Tag ที่เราคุ้นเคยกันดีในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก คลังสินค้า หรืองานอีเวนต์ ให้สามารถวัดและแสดงสถานะอุณหภูมิได้ด้วย 

VISTEC จากแหล่งผลิตนักวิจัย สู่การสานต่อธุรกิจ Deep Tech Startup

ลักษณะการทำงานของ DTI นั้น เป็นฉลากอัจฉริยะที่สามารถใช้ระบุตัวตนสินค้า อุปกรณ์ หรือสิ่งของที่นำฉลากไปติด โดยมีคุณสมบัติพิเศษคือ บ่งชี้เมื่ออุณหภูมิสูงเกินค่าวิกฤติได้ ทำงานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้กับระบบการสื่อสารไร้สายทั้งชนิด RFID และ NFC ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามอุณหภูมิตัวสินค้าหรือสิ่งของต่างๆ เป็นรายชิ้น และเมื่อสินค้าสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด DTI จะแสดงสถานะอุณหภูมิทั้งในรูปแบบการเปลี่ยนสี และการเปลี่ยนสถานะดิจิทัล โดยไม่มีการผันกลับถึงแม้อุณหภูมิจะกลับมาสู่ค่าปกติ เนื่องจากการขนส่งสิ่งของบางประเภท ความร้อนหรืออุณหภูมิที่สูงเกิน เป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายได้

ยกตัวอย่าง การขนส่งถุงเลือด ชีววัตถุ ขนส่งยา วัคซีน หรือสินค้าประเภทน้ำหอม เครื่องสำอาง อาหารมูลค่าสูง ควรต้องตรวจสอบไม่ให้อุณหภูมิเกินกว่าค่าที่กำหนด รวมถึงการตรวจสอบอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟ มอเตอร์ ในภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องติดตามอยู่เสมอว่ามีความร้อนสูงผิดปกติหรือไม่ ก็สามารถนำ DTI นี้ไปติดเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิได้

VISTEC จากแหล่งผลิตนักวิจัย สู่การสานต่อธุรกิจ Deep Tech Startup

ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของการยกระดับผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้ถูกต่อยอดอย่างเป็นรูปธรรม และผลักดันสู่ธุรกิจ Startup สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางทั้ง 3 ด้านของ VISTEC ที่จะช่วยสร้าง Ecosystem ให้กับนักวิจัยได้มีพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ พัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้อยู่ในระดับแนวหน้า สามารถนำมาผสมผสานสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม และยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน