'มาริษา เจียรวนนท์' หนุนอาหารไทย ผงาดซอฟต์พาวเวอร์โลก

'มาริษา เจียรวนนท์' หนุนอาหารไทย  ผงาดซอฟต์พาวเวอร์โลก

อำนาจละมุน หรือ ซอฟต์ พาวเวอร์ Soft Power กลายเป็นขุมพลังที่หลายประเทศกำลังปลุกปั้น เพราะไม่เพียงเป็นสิ่งที่แสดงแสนยานุภาพด้านวัฒนธรรมต่างๆ แต่ยังเป็นตัวแปรทำเงินมหาศาล มีส่วนช่วยพลิกเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญเติบโตด้วย

เกาหลีใต้ หนึ่งในต้นแบบประเทศที่ประสบความสำเร็จสร้างซอฟต์พาวเวอร์เขย่าโลก ระยะเวลาไม่กี่สิบปี มีกองทุนและเม็ดเงินสนับสนุน สร้างกระแสเกาหลี (Hallyu) กระฉ่อนทั้งเพลง ซีรีส์ อาหาร ภาพยนตร์ ฯลฯ ปัจจุบันขยายสู่ดนตรีคลาสสิก และผลงานศิลปะ นำเอเชีย

ขณะที่ไทยมีศักยภาพด้านซอฟต์พาวเวอร์ไม่แพ้ชาติใดในโลก รุ่มรวยวัฒนธรรม อาหารการกินโดดเด่น เป็นต้น ทำให้สะใภ้ใหญ่แห่งตระกูล 'เจียรวนนท์' มาริษา เจียรวนนท์ ผู้มีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นชาวเกาหลีใต้ แต่ตบแต่งกับ 'สุภกิต เจียรวนนท์' ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

'มาริษา' กลับมาอยู่เมืองไทยอีกครั้ง รอบนี้ยังไม่ถึง 7 ปี แต่เธอมองเห็นโอกาสส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ที่มาพร้อมกับ Passion ของตนเองทั้งด้าน 'อาหาร' และ 'งานศิลปะ'

ออกตัวว่ากลับมาอยู่เมืองไทยไม่นาน ยังไม่รู้จักเครือข่าย สายสัมพันธ์กับผู้คนมากนัก ยิ่งมองผู้หญิงไทยมีคนจำนวนมากที่เก่งกว่าเธอ สามารถทำสิ่งดีๆกลับคืนสู่สังคม รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจส่งต่อให้กับผู้คน แต่เธอมีพลังที่จะทำสิ่งเดียวกันนั้น

เป้าหมายอยาก Inspire และทำประโยชน์ให้กับสังคม

อาหาร เป็นอีกสิ่งที่ มาริษา ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการมูลนิธิเชฟแคร์ส มุ่งมั่นในการส่งเสริมอย่างมาก เริ่มจากช่วงโควิดยกหูหาเชฟชื่อดังของเมืองไทยเพียงไม่กี่นาที เพื่อลุยโครงการ เชฟแคร์ส แต่ผ่านมาหลายปี ไม่อยากทิ้งหรือห่างหายทุกคน จึงต่อยอดสู่การสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้อาหารไทย

“มองประเทศไทย 2 มุม มุมแรกในฐานะเป็นคนไทย และคนที่มองจากข้างนอกกลับเข้ามายังเมืองไทย ยิ่งอยู่ยิ่งรักเมืองไทย ประเทศไทยมีสิ่งให้นำเสนอเยอะมาก มีความพร้อมมาก แต่ยังไม่ถูกโปรโมทเต็มที่"

คนไทยคือ Real Soft Power

เจาะลึก ซอฟต์ พาวเวอร์ ของไทย 'มาริษา' เดินทางไปทั่วโลก จึงหยิบยกอำนาจละมุนแรกของไทย คือ เรื่อง 'ผู้คน' ที่มีมิตรไมตรี น้ำจิตน้ำใจหรือ Hospitality ที่โดดเด่น สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน ซึ่งยากที่จะพบเจอในประเทศอื่นๆในโลก

นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นในศักยภาพ 'อาหารไทย' จะเป็นอีกซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลกได้ จากจุดแข็งมากมาย โดยเฉพาะประเทศไทยมี 'ตำรับอาหาร' ดุจเสมือน “มรดกไทย” ที่สืบทอดกันมาอย่างยาว ไม่ว่าจะเป็นอาหารชาววัง ส่วนอาหารท้องถิ่นภาคต่างๆ ล้วนมี 'สูตรลับ' เป็นของตนเอง มีอัตลักษณ์ การใช้วัตถุดิบปรุงเมนูอร่อยแตกต่างกันไป สร้างความเด่นเฉพาะถิ่น

อาหารไทยยังมีความหลากหลาย รวมถึงรสสัมผัสลิ้นมีความซับซ้อนหลากมิติ ทั้งรสชาติหวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ขม ฯลฯ อูมามิทั้งหมด 

นอกจากนี้ วลี 'กินอาหารเป็นยา' อีกหนึ่งหมัดเด็ด ที่สร้างแต้มต่อให้กับอาหารไทย ยิ่งเจาะลึกถึงการปรุงอาหาร มีวัตถุดิบ สมุนไพร จำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงเพิ่มรสชาติความอร่อย แต่ยังสร้างคุณประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

“อาหารอิตาเลียน ฝรั่งเศส อาหารจีนดังมาก แต่อาหารไทยนอกจากหลากหลาย อร่อย ยังมีสมุนไพรเยอะมาก ที่ไหนจะมีแบบเรา แค่นี้ก็ชนะแล้ว แต่เราต้องโปรโมทสร้างการรับรู้ให้เต็มที่”

อาหารไทย คือ มรดกไทยที่สำคัญมาก

การถอดบทเรียนความสำเร็จซอฟต์พาวเวอร์ 'เกาหลีใต้' มาต่อยอดกับของดีประเทศไทย 'มาริษา' ซึ่งเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่ของเมืองไทย สามารถทำอะไรได้บ้าง

เบื้องต้น มูลนิธิเชฟแคร์ส ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา มูลนิธิชัยพัฒนา และมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ส่งเสริมองค์ความรู้และงานวิจัยในการสืบสาน ตลอดจนต่อยอดสูตรตำรับอาหารไทยโบราณ รวมถึงการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันมรดกภูมิปัญญาอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลกก้าวสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์

ถึงเวลาแชร์มรดกอาหารไทยให้ต่างประเทศและทั่วโลกรับรู้

นอกจากนี้ จะพึ่งพลังของ 'สื่อ' ในการสร้างอิทธิพล และช่วยโปรโมทให้กับซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ซึ่งปัจจุบันมีสื่อสังคมออนไลน์ เครื่องมือแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น การ Live สร้างการรับรู้ในวงกว้างทั่วโลกได้

ทว่า ไฮไลต์คือการสร้างสรรค์ 'คอนเทนต์' หรือเนื้อหาเพื่อบอกเล่าเรื่องราว(Storytelling)อาหารไทย เบื้องต้น 'มาริษา' ได้หารือกับทีมงาน วางทิศทางในการผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือสารคดีอาหารไทย ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จจากซีรีส์ 'แดจังกึม' เป็นไมล์สโตนแรกในการแผ่ขยายอิทธิพลอาหารเกาหลีสู่โลก

ทั้งนี้ ยังมีการทาบทาม Moon Bomi โปรดิวเซอร์ซีรีส์ดังอย่าง 'ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว' My Love from the Star, You Who Came from the Stars) มาสร้างสรรค์เนื้อหา แต่ขณะนี้ตารางงานยังแน่นตลอดทั้งปี และยังหารือกับมือดีจากเกาหลีใต้อื่นๆด้วย ซึ่งพันธมิตรมีความสนใจไม่น้อย อีกทั้งมองด้าน 'ต้นทุน' โดยเฉพาะการทำงานเบื้องหลังการถ่ายทอดหรือ Post Production ในประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ สามารถดึงดูดการทำงานจากทีมงานต่างประเทศได้

อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์ความร่วมมือครั้งนี้ 'มาริษา' เชื่อว่าจะสร้างซีนเนอร์ยี ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยให้ไปได้ไกล

'มาริษา' เชื่อในการ Collaboration หากเราทำงานคนเดียวอาจทำได้เร็ว เพราะกระบวนการตัดสินใจใช้เวลาไม่นาน แต่อาจไปได้ไม่ไกล 

หากต้องการไปไกล และกว้าง ต้องมีการ "Collaboration”

ในฐานะที่ 'มาริษา' เป็นคณะกรรมการ ที่มีส่วนร่วมในการคัดเลือกงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินชาวเอเชีย ไปจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำของโลก เช่น Tate Modern ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และ New Museum ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ จึงผลักดันเชฟไทยไปคอลแล็บกับเชฟประจำพิพิธภัณฑ์สร้างสรรค์เมนูอาหารไทยเสิร์ฟให้แขกระดับโลกได้ลิ้มลอง การร่วมกับคอนเทมโพรารี (NOVA CONTEMPORARY) แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติ จากประเทศไทย นำผลงานศิลปะของศิลปินไทยไปโชว์ ในงาน Frieze Seoul 2023 ที่เกาหลีใต้ พร้อมทั้งเชิญ 'เจ๊ไฝ' หรือ สุภิญญา จันสุตะ 'Queen Of Street Food' และเชฟอาหารไทยมือเก๋า 'ศุภณัฐ คณารักษ์' หรือ เชฟแอน ไปอวดฝีมือกับปรมาจารย์เชฟอาหารเกาหลี 'โจ ฮวี ซุก (Cho Hee Sook) นำเสนอซอฟต์พาวเวอร์ 'ไทย-เกาหลี' ผ่านศาสตร์และศิลป์การทำอาหาร หรือ Culinary Arts สู่สายตาชาวโลก

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอ 'รสชาติอาหารไทย' บอกเล่าผ่านโลกออนไลน์ ซึ่ง 'มาริษา' คาดหวังให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เมื่อเยือนเว็บไซต์แล้ว ต้องการมาเห็นและสัมผัสความอร่อยจริงที่ประเทศไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโต

“ตั้งเป้าอยากให้ต่างชาติที่เข้าชมเว็บไซต์แล้วมาดู รับประทานอาหารจริงที่เมืองไทย เรียนรู้ประวัติศาสตร์ สัมผัสเสน่ห์ แล้วจะรักเมืองไทย สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย จากการมาเที่ยว มากิน พักที่โรงแรม ใช้จ่ายในประเทศไทย เป็น Value Added ที่เกิดขึ้น”

อย่างไรก็ตาม การผลักดันอาหารไทยให้ประสบความสำเร็จเป็นซอฟต์พาวเวอร์เขย่าโลก “ภาครัฐ” เป็นอีกส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กระทรวงวัฒนธรรม และรัฐบาลใหม่

“ผู้คนทั่วโลกสนใจเอเชีย ตอนนี้จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้อยู่ในช่วงขาขึ้น แล้วต่อไปละ..ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นประเทศไทย”